สายวันก่อนนั่งดูรายการข่าวบันเทิงทางช่อง 9 อสมท เห็นพิธีกรสาวสวยสัมภาษณ์ชีวิตของ “ภาวนา ชนะจิตร” แล้วนึกสงสัยว่ามีเหตุพิเศษอันใดต้องไปพูดคุยกัน ยิ่งทวีความประหลาดใจมากขึ้น เมื่อเห็นอดีตนางเอกแอ๊บแบ๊ว ตัวแม่ของวงการภาพยนตร์ไทยใส่เสื้อสีแดง คลุมไหล่ด้วยผ้าสวยสีแดง คาดกระเป๋าสีแดงใบโตที่สะเอว และสวมรองเท้าดำคาดแดงแจ๋แสดงตนชัดเจน ขาดเพียงแต่พูดว่า ฉันคือแดง และรักทักษิณ
ดูไปดูมาสักพักมีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคนหนึ่งโทร.เข้ามาคุยเรื่องที่กำลังปรากฏทางช่อง 9 อสมท แล้วปริวิตกดังๆ ว่า “เขาใช้สื่อปกติได้แนบเนียนจริงๆ”
ฟังแล้วก็หัวเราะเบาๆ นึกไปถึงประโยคคร่ำครวญของผู้ใหญ่อีกคนในพรรคประชาธิปัตย์ที่พูดถึง อสมท ว่า “เราเสียค่าโง่ราคาแพง” ส่วนค่าโง่นั้นจะเป็น “ผู้อำนวยการ” คนใหม่ที่ได้มาไม่ วันเวลาจะเป็นผู้ให้คำตอบ
นึกไปนึกมาแล้วนิยมชมชอบในความเก่งฉกาจของกลุ่มเสื้อแดงที่รู้จักใช้สื่อได้ดีกว่า “รัฐบาลประชาธิปัตย์” มากนัก เห็นได้ว่า ฝีมือคนละชั้น กระดูกคนละเบอร์
ใครที่ติดตามรายการปราศรัยในทีวี – วิทยุเสื้อแดง จะรู้กันดีว่า คุณภาวนา ชนะจิตร ขึ้นวาดลวดลายร้ายกาจบนเวทีเสื้อแดงหลายครั้งหลายหน กับวาจาก้าวร้าวและก้าวล่วงร่วมกับคุณปิยะมาศ โมนยะกุล, คุณศิรินันทน์ โรจนธรรม และคุณไพจิตร อักษรณรงค์ ยังมีดารา นักร้องแบบดาวตลก และคนดังมากมายบนเวทีแห่งนี้
พูดมากไปก็หาว่าแบ่งแยก ไอ้ครั้นจะไม่พูดอะไรเลยก็เกรงว่าประชาชนไม่รู้อีโหน่อีเหน่จะตกเป็นเหยื่อในกำมือสื่อเสเสร้งตาใสแต่ใจฝักใฝ่ทักษิณ ซึ่งเป็นที่แน่นอนแล้วว่า เขาเป็นเจ้าลัทธิ ล้มทุน ล้มปืน ล้มเจ้า อันเป็นแนวคิดนิยมพลิกฟ้าคว่ำดิน ที่กำลังถูกเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็วและกว้างไกลด้วย “สื่อสีแดง”
ปัจจุบันนี้โลกใบใหญ่ถูกย่อไว้ในกำมือเรา กลุ่มเสื้อแดงใช้เทคโนโลยีที่ก้าวไกลนี้สื่อสารฉับไวทลายกำแพงกีดกั้นไปที่ทุกคนในทุกพื้นที่ผ่านทาง Facebook, BB, ทีวี – วิทยุ ดาวเทียม, ดีวีดี และใบปลิว เป็นต้น
ขณะนี้ในโลกนิวมีเดียนั้น คนกลุ่มหนึ่งแสดงความคิดเห็นที่มีต่อชาติ ศาสนา และสถาบันสูงสุด อย่างไม่ต้องระมัดระวังท่าทีกันอีกต่อไป ทั้งนี้ด้วยกฎหมายที่ไปไม่ถึง และฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐที่ไปไม่ทัน
ล่าสุดมีเว็บไซต์ล้มเจ้าเกิดขึ้นมากมาย แต่ที่โดดเด่นและกำลังดีดดิ้นมากที่สุดมีชื่อที่แปลได้ว่า “ความจริงในสายลมร้อน”
เว็บนี้ได้รวบรวมบทความที่นำเสนอข้อมูลใส่ร้ายสถาบันสูงสุด และเชียร์ทักษิณอึงมี่ภายใต้ปลายปากกาของ “หน้าเดิม” คือ ใจ อึ๊งภากรณ์, สมศักดิ์ เจียมฯ, ชีพ ชูชัย, นปช.แคลิฟอร์เนีย, นปช.นิวยอร์ก, อาคม ซิดนีย์, นายสิน แซ่จิ้ว และพอล แฮนด์ลีย์ ผู้เขียน The King never smile, Thai E-news , ฟ้าเดียวกัน, Liberal Thai เป็นต้น
ที่น่าตกใจที่สุดคือ เวทีเสื้อแดงหน้าบ้านเขายายเที่ยง มีคนดังคนมีชื่อเสียงหลายๆคนที่เราเห็นๆ หน้ากันอยู่ตามสื่อต่างๆ พูดโจมตีใส่ร้าย “สถาบันสูงสุด” อย่างถึงลูกถึงคน ขาดความรัก หมดสิ้นความเคารพศรัทธา โดยมิพักต้องพูดถึงความจงรักภักดี
ทั้งหมดนี้หาดูและฟังได้อย่างง่ายดายจากทีวี – วิทยุ เสื้อแดง และถ้าขาดแคลนจริงๆ ก็จะมีพี่แท็กซี่หลายคน-หลายคัน นำเสนอด้วยซีดีและใบปลิว...เราคนไทยรักในหลวงจะไม่อินังขังขอบกับท่าทีของสื่อสีแดงเหล่านี้เลยเชียวหรือ
สื่อสีแดงทั้งแดงแจ๋และแดงหลบในเหมือนกางเกงลิง ต่างโชคดีในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ ลองทำอย่างนี้ในยุคเผด็จการทักษิณดูสิ มีหวังถูกปิดรายการ ขึ้นบัญชีดำ ตกงานตายหยังเขียด...โดนมาแล้วเลยรู้รสและเข้าใจ... พอๆ กับไม่เข้าใจว่ารัฐบาลปล่อยให้เกิดการสื่อสารข้อมูลแบบนี้ได้อย่างไร ไม่กลัวปรากฏการณ์น้ำหยดลงหินหรอกหรือ?
วันนี้ถ้าจะพูดว่า สังคมไทยแตกแยกเป็น 2 สี แดง-เหลือง คงไม่ถูกนัก เพราะเท่าที่ดมๆ ดู เห็นว่าเวลานี้ สีแดงขยายตัวรวดเร็วทับสีเหลืองที่ถูกรัฐบาลพลิกขั้วตัดไมตรีและทหาร-ตำรวจมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตรด้วยซ้ำ
ไม่อยากจะพูดแต่ก็ต้องย้ำกันว่า สื่อสีแดงนับวันจะแข็งแรงมากขึ้น เพราะผลพวงจากการรัฐประหารหน่อมแน้ม-รัฐบาลขิงแก่ และพวกรัฐบาลพลิกขั้วที่ไม่ใส่ใจกับกระบวนการการสื่อสาร และใช้สื่อของรัฐไม่เป็น แถมยังอวดดีไม่สนใจฟังคำติเตือน มองคนแนะนำและพันธมิตรฯ ไม่ต่างไปจากศัตรู แล้วปล่อยจนเลยเถิด จนเกิดปรากฏการณ์ “แดงทั้งแผ่นดิน” จริงอย่างที่ “คุณสนธิ” เคยวิเคราะห์ล่วงหน้า
เวลานี้กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า คนเสื้อแดง ที่มีแนวความคิดต้องการล้มอำนาจศักดินา และปฏิเสธ “สถาบันสูงสุด” มีอยู่ทุกอณูเนื้อในสังคมไทย ไม่เว้นแม้แต่ทหาร- ตำรวจ-ข้าราชการ-นักวิชาการ กระทั่งพระ-ครู และสื่อ!!!
ลองถามคนใกล้ตัวเราสิ จะพบว่า มีคนเสื้อแดงต้องการล้มทุน ล้มปืน ล้มเจ้า มากมายไปหมด ด้วยอิทธิพลของสื่อสีแดงที่ทำงานอย่างเป็นระบบสม่ำเสมอทั้งยังมีทุนหนา
ขณะที่สื่อปกติมีใจโอนเอียงไปทางทักษิณเสียครึ่ง และอีกครึ่งกลัวจนเก็บปากเก็บคำเงียบเชียบทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่นำพากับความเป็นความตายของชาติบ้านเมือง
ความที่สื่อสีแดงมีเสรีภาพมากมาย ประกอบกับความจริงที่ว่า สังคมไทยตกอยู่ภายใต้ปัญหาความเหลื่อมล้ำต่ำสูงที่เกาะกินมายาวนาน เดี๋ยวนี้จึงมีคนไทยกลุ่มหนึ่งเรียกหาประชาธิปไตยกับรัฐไทยใหม่ที่มี “ประธานาธิบดี” เป็นประมุขกันขรมแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะไม่เอาด้วยกับทักษิณก็ตาม
ใช้หูและใจฟังดูสิจะได้ยินว่า คนไทยกลุ่มหนึ่งพูดจาเหมือนผู้ปราศรัยบนเวทีเสื้อแดงไม่ผิดเพี้ยน และประเด็นที่ถกกันร้อนแรง คือ ความต้องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเก่าของสังคมไทย ที่เขาเรียกมันว่า สองมาตรฐานไปสู่โครงสร้างใหม่ ที่เขาเรียกว่า ประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยมีประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และย้ำว่า นี่คือคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับสังคมไทยในอนาคต “อันใกล้”
แน่นอนสื่อสีแดงที่รายล้อมรอบตัวเราพากันพูดโน้มน้าวว่า สังคมไทยถูกเอารัดเอาเปรียบจากศักดินามาโดยตลอด ถึงเวลาแล้วที่ความยุติธรรมมาตรฐานเดียวจะเกิดกับคนไทยถ้วนหน้า และทรัพยากรของชาติจะถูกนำมาแบ่งปันโดยเท่าเทียมกัน ไม่ใช่กระจุกตัวอยู่กับคนไม่กี่ตระกูล โดยประชาชนคนไทยในรัฐไทยใหม่จะลืมตาอ้าปาก และลูกหลานจะมีอนาคตที่เรืองรองในยุค “ฟ้าสีทองผ่องอำไพ”
ไม่ต้องประหลาดใจในข้อมูลเหล่านี้ เพราะสิ่งที่สื่อของคนเสื้อแดงไม่ได้พูดเลย คือ ประธานาธิบดีคนแรกชื่อ ทักษิณ ใช่หรือไม่? และยุคเผด็จการรัฐสภา การทุจริตคอร์รัปชัน การละเมิดสิทธิมนุษยชน การแทรกแซงองค์กรอิสระ สื่อมวลชนและงานวิชาการ จะหวนกลับคืนมา พร้อมๆ กับความกะล่อนปลิ้นปล้อนหลอกลวงตลบตะแลงตอแหล ของมนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนไทยที่เลวที่สุดเท่าที่เคยมีในประวัติศาสตร์ชาติไทย จะหวนคืนกลับมาด้วยใช่ไหม?
ถ้าจะมองลึกเข้าไปในสื่อเสื้อแดง เราจะพบกับความหลากหลายต่างลีลา มีทั้งคนเบื้องหน้าและคนเบื้องหลัง มีทั้ง “สื่อเทียม” ที่ประดิษฐขึ้นมาใหม่ในโลกนิวมีเดีย กับ สื่อจริงกางเกงในแดงที่ชอบแทรกเนื้อหาเสื้อแดงผ่านเครื่องมือของรัฐ ทั้งโทรทัศน์และวิทยุอย่างแนบเนียน ผสมผสานกับสื่อสิ่งพิมพ์ที่บางพวกอารมณ์ค้างมาจากเหตุการณ์เดือนตุลาคม และต้องการ “ล้มเจ้า” ให้สมกับที่เฝ้ารอมานาน กับบางพวกที่ถูกต้อนให้เป็นแดงเพราะ “งบโฆษณา”
ไม่แปลกใจแล้วว่า ทำไมภาวนา ชนะจิตรออกช่อง 9 ได้ ทำไมนักข่าว กางเกงในแดงบางคนได้พื้นที่อวดโฉมในนิตยสารชื่อดัง แต่กับคนเอเอสทีวี หรือพันธมิตรฯ ถูกเดียดฉันท์ แม้แต่กับรัฐบาลก็ไม่แยแสไยดี
สื่อสีแดงมีมากมายขนาดนี้ ต่อเนื่องขนาดนี้ เงินหนาเสียขนาดนี้จะไม่ให้วันนี้ “แดงทั้งแผ่นดิน” ก็บ้าแล้ว
ปัญหาอยู่ที่ว่า คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ได้รับข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงเท่าเทียมอย่างตรงไปตรงมาหรือยัง ก่อนตัดสินใจว่าจะเอา-ไม่เอาอย่างไร
ประเด็น ดารา-นักร้อง-นักธุรกิจ-คนมีชื่อเสียง ซึ่งจัดว่าเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล และ มีพลังในการโน้มน้าวชักจูง ได้ประกาศตัวชัดเจนหรือยังว่า พวกคุณเป็นแดงทักษิณในขณะที่กำลังทำงานสื่อสารไปยังมวลชน...เพราะเท่าที่เห็นดูเหมือนจะ “แทรกซึม” เพราะเท่าที่รู้ พระชื่อดังหลายรูป-สื่อมวลชนคนดังหลายคน และนักวิชาการชื่อดังมากมายซ่อน “แดง” ไว้ภายใน
แต่จะว่าไปในกลุ่มแดงเหล่านี้ บางคนชอบทักษิณอย่าหน้ามืดตามัว แต่บางคนต้องการ “ล้มเจ้า” เท่านั้น ถึงกับพูดกันว่า เสร็จนาจะฆ่าโคถึกให้แดดิ้นเสียในต่างแดน เพราะไม่ไว้ใจคนมือไวใจเลวหน้าเหลี่ยม
ประเด็นนี้สำคัญสามารถชักจูงคนทั่วไปให้เข้าร่วมกองทัพเสื้อแดงได้เป็นกอบเป็นกำ และกลุ่มนี้คือ พลังไทยใหม่ใจแดงที่เริ่มพูดกันดังขรมแล้วว่า “ล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า” ส่วนทักษิณจะ “ล้ม” ในภายหลัง
ที่เขาพูดกันว่า บทบาทหน้าที่ของสื่อสารมวลชน จำเป็นอย่างยิ่งต่อการ “ดับไฟ” ในสังคมไทย เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ลองสื่อทำหน้าที่ตรงไปตรงมา ไม่เห็นแก่หน้าใคร นอกจากประชาชน ไม่มีวันที่สื่อของคนเสื้อแดงจะสามารถกวาดต้อนคนไทยให้ไป “ล้มเจ้า” ได้มากมายถึงเพียงนี้ แถมเมืองไทยจะดีกว่านี้ด้วย ถ้าสื่อทำหน้าที่เที่ยงตรง
แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว เครื่องมือสำคัญของประชาชน คือ พระ-ครู และสื่อแบ่งข้างกันชัดเจนแล้ว โดยมีสถาบันสูงสุดเป็นเดิมพันผสมโรงกับ “สื่อเทียม” ของฝ่ายแดง ทักษิณ และฝ่ายน้ำเงิน จอมหิวกระหายของเนวิน ที่เข้ามาโรมรันพันตูอีก
ลองอีหรอบนี้แล้ว...เห็นจะอยู่กันได้ไม่เกินเมษายนนี้ละกระมัง
ถึงเวลานั้นหากเลือดนองท้องชาติ บ้านเมืองพังพินาศป่นปี้ และทักษิณยาตราทัพกลับเมืองไทย ก็อย่าได้โทษใคร เพราะไม่มีใครหักเหล็กกล้าได้นอกจากสนิม
ดูไปดูมาสักพักมีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคนหนึ่งโทร.เข้ามาคุยเรื่องที่กำลังปรากฏทางช่อง 9 อสมท แล้วปริวิตกดังๆ ว่า “เขาใช้สื่อปกติได้แนบเนียนจริงๆ”
ฟังแล้วก็หัวเราะเบาๆ นึกไปถึงประโยคคร่ำครวญของผู้ใหญ่อีกคนในพรรคประชาธิปัตย์ที่พูดถึง อสมท ว่า “เราเสียค่าโง่ราคาแพง” ส่วนค่าโง่นั้นจะเป็น “ผู้อำนวยการ” คนใหม่ที่ได้มาไม่ วันเวลาจะเป็นผู้ให้คำตอบ
นึกไปนึกมาแล้วนิยมชมชอบในความเก่งฉกาจของกลุ่มเสื้อแดงที่รู้จักใช้สื่อได้ดีกว่า “รัฐบาลประชาธิปัตย์” มากนัก เห็นได้ว่า ฝีมือคนละชั้น กระดูกคนละเบอร์
ใครที่ติดตามรายการปราศรัยในทีวี – วิทยุเสื้อแดง จะรู้กันดีว่า คุณภาวนา ชนะจิตร ขึ้นวาดลวดลายร้ายกาจบนเวทีเสื้อแดงหลายครั้งหลายหน กับวาจาก้าวร้าวและก้าวล่วงร่วมกับคุณปิยะมาศ โมนยะกุล, คุณศิรินันทน์ โรจนธรรม และคุณไพจิตร อักษรณรงค์ ยังมีดารา นักร้องแบบดาวตลก และคนดังมากมายบนเวทีแห่งนี้
พูดมากไปก็หาว่าแบ่งแยก ไอ้ครั้นจะไม่พูดอะไรเลยก็เกรงว่าประชาชนไม่รู้อีโหน่อีเหน่จะตกเป็นเหยื่อในกำมือสื่อเสเสร้งตาใสแต่ใจฝักใฝ่ทักษิณ ซึ่งเป็นที่แน่นอนแล้วว่า เขาเป็นเจ้าลัทธิ ล้มทุน ล้มปืน ล้มเจ้า อันเป็นแนวคิดนิยมพลิกฟ้าคว่ำดิน ที่กำลังถูกเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็วและกว้างไกลด้วย “สื่อสีแดง”
ปัจจุบันนี้โลกใบใหญ่ถูกย่อไว้ในกำมือเรา กลุ่มเสื้อแดงใช้เทคโนโลยีที่ก้าวไกลนี้สื่อสารฉับไวทลายกำแพงกีดกั้นไปที่ทุกคนในทุกพื้นที่ผ่านทาง Facebook, BB, ทีวี – วิทยุ ดาวเทียม, ดีวีดี และใบปลิว เป็นต้น
ขณะนี้ในโลกนิวมีเดียนั้น คนกลุ่มหนึ่งแสดงความคิดเห็นที่มีต่อชาติ ศาสนา และสถาบันสูงสุด อย่างไม่ต้องระมัดระวังท่าทีกันอีกต่อไป ทั้งนี้ด้วยกฎหมายที่ไปไม่ถึง และฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐที่ไปไม่ทัน
ล่าสุดมีเว็บไซต์ล้มเจ้าเกิดขึ้นมากมาย แต่ที่โดดเด่นและกำลังดีดดิ้นมากที่สุดมีชื่อที่แปลได้ว่า “ความจริงในสายลมร้อน”
เว็บนี้ได้รวบรวมบทความที่นำเสนอข้อมูลใส่ร้ายสถาบันสูงสุด และเชียร์ทักษิณอึงมี่ภายใต้ปลายปากกาของ “หน้าเดิม” คือ ใจ อึ๊งภากรณ์, สมศักดิ์ เจียมฯ, ชีพ ชูชัย, นปช.แคลิฟอร์เนีย, นปช.นิวยอร์ก, อาคม ซิดนีย์, นายสิน แซ่จิ้ว และพอล แฮนด์ลีย์ ผู้เขียน The King never smile, Thai E-news , ฟ้าเดียวกัน, Liberal Thai เป็นต้น
ที่น่าตกใจที่สุดคือ เวทีเสื้อแดงหน้าบ้านเขายายเที่ยง มีคนดังคนมีชื่อเสียงหลายๆคนที่เราเห็นๆ หน้ากันอยู่ตามสื่อต่างๆ พูดโจมตีใส่ร้าย “สถาบันสูงสุด” อย่างถึงลูกถึงคน ขาดความรัก หมดสิ้นความเคารพศรัทธา โดยมิพักต้องพูดถึงความจงรักภักดี
ทั้งหมดนี้หาดูและฟังได้อย่างง่ายดายจากทีวี – วิทยุ เสื้อแดง และถ้าขาดแคลนจริงๆ ก็จะมีพี่แท็กซี่หลายคน-หลายคัน นำเสนอด้วยซีดีและใบปลิว...เราคนไทยรักในหลวงจะไม่อินังขังขอบกับท่าทีของสื่อสีแดงเหล่านี้เลยเชียวหรือ
สื่อสีแดงทั้งแดงแจ๋และแดงหลบในเหมือนกางเกงลิง ต่างโชคดีในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ ลองทำอย่างนี้ในยุคเผด็จการทักษิณดูสิ มีหวังถูกปิดรายการ ขึ้นบัญชีดำ ตกงานตายหยังเขียด...โดนมาแล้วเลยรู้รสและเข้าใจ... พอๆ กับไม่เข้าใจว่ารัฐบาลปล่อยให้เกิดการสื่อสารข้อมูลแบบนี้ได้อย่างไร ไม่กลัวปรากฏการณ์น้ำหยดลงหินหรอกหรือ?
วันนี้ถ้าจะพูดว่า สังคมไทยแตกแยกเป็น 2 สี แดง-เหลือง คงไม่ถูกนัก เพราะเท่าที่ดมๆ ดู เห็นว่าเวลานี้ สีแดงขยายตัวรวดเร็วทับสีเหลืองที่ถูกรัฐบาลพลิกขั้วตัดไมตรีและทหาร-ตำรวจมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตรด้วยซ้ำ
ไม่อยากจะพูดแต่ก็ต้องย้ำกันว่า สื่อสีแดงนับวันจะแข็งแรงมากขึ้น เพราะผลพวงจากการรัฐประหารหน่อมแน้ม-รัฐบาลขิงแก่ และพวกรัฐบาลพลิกขั้วที่ไม่ใส่ใจกับกระบวนการการสื่อสาร และใช้สื่อของรัฐไม่เป็น แถมยังอวดดีไม่สนใจฟังคำติเตือน มองคนแนะนำและพันธมิตรฯ ไม่ต่างไปจากศัตรู แล้วปล่อยจนเลยเถิด จนเกิดปรากฏการณ์ “แดงทั้งแผ่นดิน” จริงอย่างที่ “คุณสนธิ” เคยวิเคราะห์ล่วงหน้า
เวลานี้กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า คนเสื้อแดง ที่มีแนวความคิดต้องการล้มอำนาจศักดินา และปฏิเสธ “สถาบันสูงสุด” มีอยู่ทุกอณูเนื้อในสังคมไทย ไม่เว้นแม้แต่ทหาร- ตำรวจ-ข้าราชการ-นักวิชาการ กระทั่งพระ-ครู และสื่อ!!!
ลองถามคนใกล้ตัวเราสิ จะพบว่า มีคนเสื้อแดงต้องการล้มทุน ล้มปืน ล้มเจ้า มากมายไปหมด ด้วยอิทธิพลของสื่อสีแดงที่ทำงานอย่างเป็นระบบสม่ำเสมอทั้งยังมีทุนหนา
ขณะที่สื่อปกติมีใจโอนเอียงไปทางทักษิณเสียครึ่ง และอีกครึ่งกลัวจนเก็บปากเก็บคำเงียบเชียบทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่นำพากับความเป็นความตายของชาติบ้านเมือง
ความที่สื่อสีแดงมีเสรีภาพมากมาย ประกอบกับความจริงที่ว่า สังคมไทยตกอยู่ภายใต้ปัญหาความเหลื่อมล้ำต่ำสูงที่เกาะกินมายาวนาน เดี๋ยวนี้จึงมีคนไทยกลุ่มหนึ่งเรียกหาประชาธิปไตยกับรัฐไทยใหม่ที่มี “ประธานาธิบดี” เป็นประมุขกันขรมแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะไม่เอาด้วยกับทักษิณก็ตาม
ใช้หูและใจฟังดูสิจะได้ยินว่า คนไทยกลุ่มหนึ่งพูดจาเหมือนผู้ปราศรัยบนเวทีเสื้อแดงไม่ผิดเพี้ยน และประเด็นที่ถกกันร้อนแรง คือ ความต้องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเก่าของสังคมไทย ที่เขาเรียกมันว่า สองมาตรฐานไปสู่โครงสร้างใหม่ ที่เขาเรียกว่า ประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยมีประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และย้ำว่า นี่คือคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับสังคมไทยในอนาคต “อันใกล้”
แน่นอนสื่อสีแดงที่รายล้อมรอบตัวเราพากันพูดโน้มน้าวว่า สังคมไทยถูกเอารัดเอาเปรียบจากศักดินามาโดยตลอด ถึงเวลาแล้วที่ความยุติธรรมมาตรฐานเดียวจะเกิดกับคนไทยถ้วนหน้า และทรัพยากรของชาติจะถูกนำมาแบ่งปันโดยเท่าเทียมกัน ไม่ใช่กระจุกตัวอยู่กับคนไม่กี่ตระกูล โดยประชาชนคนไทยในรัฐไทยใหม่จะลืมตาอ้าปาก และลูกหลานจะมีอนาคตที่เรืองรองในยุค “ฟ้าสีทองผ่องอำไพ”
ไม่ต้องประหลาดใจในข้อมูลเหล่านี้ เพราะสิ่งที่สื่อของคนเสื้อแดงไม่ได้พูดเลย คือ ประธานาธิบดีคนแรกชื่อ ทักษิณ ใช่หรือไม่? และยุคเผด็จการรัฐสภา การทุจริตคอร์รัปชัน การละเมิดสิทธิมนุษยชน การแทรกแซงองค์กรอิสระ สื่อมวลชนและงานวิชาการ จะหวนกลับคืนมา พร้อมๆ กับความกะล่อนปลิ้นปล้อนหลอกลวงตลบตะแลงตอแหล ของมนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนไทยที่เลวที่สุดเท่าที่เคยมีในประวัติศาสตร์ชาติไทย จะหวนคืนกลับมาด้วยใช่ไหม?
ถ้าจะมองลึกเข้าไปในสื่อเสื้อแดง เราจะพบกับความหลากหลายต่างลีลา มีทั้งคนเบื้องหน้าและคนเบื้องหลัง มีทั้ง “สื่อเทียม” ที่ประดิษฐขึ้นมาใหม่ในโลกนิวมีเดีย กับ สื่อจริงกางเกงในแดงที่ชอบแทรกเนื้อหาเสื้อแดงผ่านเครื่องมือของรัฐ ทั้งโทรทัศน์และวิทยุอย่างแนบเนียน ผสมผสานกับสื่อสิ่งพิมพ์ที่บางพวกอารมณ์ค้างมาจากเหตุการณ์เดือนตุลาคม และต้องการ “ล้มเจ้า” ให้สมกับที่เฝ้ารอมานาน กับบางพวกที่ถูกต้อนให้เป็นแดงเพราะ “งบโฆษณา”
ไม่แปลกใจแล้วว่า ทำไมภาวนา ชนะจิตรออกช่อง 9 ได้ ทำไมนักข่าว กางเกงในแดงบางคนได้พื้นที่อวดโฉมในนิตยสารชื่อดัง แต่กับคนเอเอสทีวี หรือพันธมิตรฯ ถูกเดียดฉันท์ แม้แต่กับรัฐบาลก็ไม่แยแสไยดี
สื่อสีแดงมีมากมายขนาดนี้ ต่อเนื่องขนาดนี้ เงินหนาเสียขนาดนี้จะไม่ให้วันนี้ “แดงทั้งแผ่นดิน” ก็บ้าแล้ว
ปัญหาอยู่ที่ว่า คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ได้รับข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงเท่าเทียมอย่างตรงไปตรงมาหรือยัง ก่อนตัดสินใจว่าจะเอา-ไม่เอาอย่างไร
ประเด็น ดารา-นักร้อง-นักธุรกิจ-คนมีชื่อเสียง ซึ่งจัดว่าเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล และ มีพลังในการโน้มน้าวชักจูง ได้ประกาศตัวชัดเจนหรือยังว่า พวกคุณเป็นแดงทักษิณในขณะที่กำลังทำงานสื่อสารไปยังมวลชน...เพราะเท่าที่เห็นดูเหมือนจะ “แทรกซึม” เพราะเท่าที่รู้ พระชื่อดังหลายรูป-สื่อมวลชนคนดังหลายคน และนักวิชาการชื่อดังมากมายซ่อน “แดง” ไว้ภายใน
แต่จะว่าไปในกลุ่มแดงเหล่านี้ บางคนชอบทักษิณอย่าหน้ามืดตามัว แต่บางคนต้องการ “ล้มเจ้า” เท่านั้น ถึงกับพูดกันว่า เสร็จนาจะฆ่าโคถึกให้แดดิ้นเสียในต่างแดน เพราะไม่ไว้ใจคนมือไวใจเลวหน้าเหลี่ยม
ประเด็นนี้สำคัญสามารถชักจูงคนทั่วไปให้เข้าร่วมกองทัพเสื้อแดงได้เป็นกอบเป็นกำ และกลุ่มนี้คือ พลังไทยใหม่ใจแดงที่เริ่มพูดกันดังขรมแล้วว่า “ล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า” ส่วนทักษิณจะ “ล้ม” ในภายหลัง
ที่เขาพูดกันว่า บทบาทหน้าที่ของสื่อสารมวลชน จำเป็นอย่างยิ่งต่อการ “ดับไฟ” ในสังคมไทย เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ลองสื่อทำหน้าที่ตรงไปตรงมา ไม่เห็นแก่หน้าใคร นอกจากประชาชน ไม่มีวันที่สื่อของคนเสื้อแดงจะสามารถกวาดต้อนคนไทยให้ไป “ล้มเจ้า” ได้มากมายถึงเพียงนี้ แถมเมืองไทยจะดีกว่านี้ด้วย ถ้าสื่อทำหน้าที่เที่ยงตรง
แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว เครื่องมือสำคัญของประชาชน คือ พระ-ครู และสื่อแบ่งข้างกันชัดเจนแล้ว โดยมีสถาบันสูงสุดเป็นเดิมพันผสมโรงกับ “สื่อเทียม” ของฝ่ายแดง ทักษิณ และฝ่ายน้ำเงิน จอมหิวกระหายของเนวิน ที่เข้ามาโรมรันพันตูอีก
ลองอีหรอบนี้แล้ว...เห็นจะอยู่กันได้ไม่เกินเมษายนนี้ละกระมัง
ถึงเวลานั้นหากเลือดนองท้องชาติ บ้านเมืองพังพินาศป่นปี้ และทักษิณยาตราทัพกลับเมืองไทย ก็อย่าได้โทษใคร เพราะไม่มีใครหักเหล็กกล้าได้นอกจากสนิม
