เรื่องของ “เสธ.แดง” หลายคนอาจจะมองว่าไร้ค่า และไร้ราคา เสียเวลาที่จะมานั่งพูดถึงชื่อคนคนนี้ ชื่อ “เสธ.แดง” ครั้งหนึ่งก็เคยถูกประเมินว่าเป็นเพียงโมฆบุรุษ ไม่มีราคาค่างวดมาแล้วในยุคคุณสนธิ ลิ้มทองกุล จัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ทางช่อง 9 อสมท. กรณีที่มีเรื่องอื้อฉาว รื้อบาร์เบียร์ที่มี เดวิด กรุ๊ป ของเฮียชูวิทย์ และชื่อของ เสธ.แดง เข้าไปเกี่ยวข้อง
ในอดีตเสธ.แดงอาจจะถูกมองว่าเป็นเพียง “ม้าใช้” ของนักการเมือง และผู้มีสี ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาขี่..บงการอยู่เบื้องหลัง ดูได้จากชื่อเสธ.แดงที่ล้วนเข้าไปพัวพันกับสถานการณ์ การใช้กำลัง และการรับคำสั่งจากนักการเมืองฟากโน้น ฝ่ายนี้มาแล้วมากมาย อาทิ
กรณีคุกคามหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ถึงสำนักงานสมัยยังติดตาม ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี
หรือกรณีถูกนายหัวชวน สมัยยังเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้าน นำชื่อร้องเรียนต่อ พล.อ.ชวลิต รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมในขณะนั้นว่า ก่อวีรกรรมยกพวกไปข่มขู่ชาวบ้านที่กาญจนบุรี ไม่ให้สนับสนุน นายประชา โพธิพิพิธ หรือกำนันเซี้ยะ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อช่วยจะเหลือ พล.ต.ศรชัย มนตริวัต ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 จ.กาญจนบุรี พรรคความหวังใหม่ ให้ชนะการเลือกตั้ง
หรือกระทั่งมีชื่อเป็นศัตรูหมายเลข 1 กับ พลตำรวจเอกสันต์ ศรุตานนท์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึงขั้นฟ้องร้อง และศาลเพิ่งมีคำสั่งจำคุก 6 เดือนไปเมื่อเร็วๆ นี้
กรณีของสันต์ กับ เสธ. แดง ถูกรุ่งอรุณ สุริยามณี เฉลยไว้ในคอลัมน์ป้อมพระสุเมรุ ว่า เป็นเพราะทักษิณ ชินวัตร (ดำรงตำแหน่งนายกฯ ในขณะนั้น) ไม่พอใจในประสิทธิภาพของสันต์ ศรุตานนท์ และขัตติยะ สวัสดิผล หรือ “เสธ.แดง” ที่ออกมาบู๊กับสันต์ ศรุตานนท์ รายวัน
นั่น “มองให้ลึกลงไปก็เปรียบเสมือนทัพหน้าของสงครามใหญ่นั่นเอง”
แต่สำหรับวันนี้ สงครามตัวแทนที่มีเสธ.แดงออกด่านหน้า ดับเครื่องชน “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” และรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะแบบไม่ยั้ง ถึงขั้นที่พันธมิตรฯ ชุมนุมทีไร ก็ออกปากเรียกปืน เรียกดาบให้ล่วงหน้า ทำให้มีผู้บริสุทธิ์ต้องล้มตายระหว่างระยะเวลา 193 วันของการชุมนุมนั้น ยังไม่รวมการขนอาวุธสงครามถล่มสำนักข่าวเอเอสทีวี หรือแม้แต่การชุมนุมของคนหลากสี ก่อนหน้าวันพ่อแห่งชาติ
ทำให้น่าคิด และหาคำตอบว่า ใครกันแน่ที่เป็นผู้ปองร้ายตัวจริง ต่อเครือข่ายภาคประชาชนที่นับวันจะมีบทบาทสำคัญบนเวทีการเมืองบ้านเรา
ใครกันแน่ ที่แอบอยู่ในเงาของเสธ.แดง ใช้เสธ.แดง และพวกให้ออกรบแทน และใช้นายทหารนอกแถวคนนี้ให้ทำร้ายประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวด้วยความบริสุทธิ์ใจ
มันเป็นใครกันแน่... ที่ชั่วร้ายได้ขนาดนั้น
ทั้งนี้ ตามกฎหมายทางทหารผู้ที่มีความรับผิดชอบโดยตรงต่อการพิจารณาลงโทษเสธ.แดง จากกรณีการสอบสวนการกระทำผิด 2 ข้อหา คือ เดินทางไปกัมพูชาโดยไม่ได้รับอนุญาต และด่าผู้บังคับบัญชา รายชื่อของผู้ที่จะมีสิทธิให้คุณให้โทษกลายเป็นพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ‘บิ๊กป้อม’ พี่ใหญ่แห่งค่ายบูรพาพยัคฆ์ ผู้กินตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
แต่วันนี้ สังคมกลับเพ่งมองสายสัมพันธ์ของนายทหารสองคน อย่างน่าสนอกสนใจ
เอเอสทีวีผู้จัดการ โดยโต๊ะข่าวอาชญากรรมเคยตั้งข้อสังเกตไว้เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ในหลายประการถึงความเอื้ออาทรระหว่างนายและลูกน้อง ทั้งในและนอกเวลาราชการคู่นี้ อาทิ ทั้งประเด็นที่ เสธ.แดงเคยไปฝึกการใช้อาวุธ จัดตั้งกองกำลังให้คนเสื้อแดง และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เพียงสั่งตั้งกรรมการสอบ แต่ไม่มีบทสรุปใดๆ ออกมา
ทั้งประเด็นที่ เสธ. แดง ออกมาอ้างตัวเป็นผู้รู้ลึกเรื่องเบื้องหลังการลอบยิงคุณสนธิ โดยเบือนเป้า “ผู้บงการ” ว่ามาจากสาย “บ้านใหญ่” กลุ่มอำมาตย์เก่า ศูนย์รวมผู้มีบารมีที่เสาฐานบัญชาการโยกคลอนด้วยถูกคลื่นลูกใหม่ ก้าวร้าว คิดวัดรอยเท้า
เสธ.แดง เหมือนจงใจเบือนเป้าให้สังคมสับสน ทั้งที่ก่อนหน้าจะถูกยิงไม่กี่วันคุณสนธิเพิ่งจัดรายการ Good Morning Thailand ชี้หน้ากลุ่มอำนาจใหม่ ผู้ที่อยากได้ครุฑตัวที่สองเป็นผู้เตรียมการวางแผน จะคว่ำกระดานการเมือง ชิงอำนาจรัฐบาล
งานชงหวาน ช่วยนายให้พ้นจากสายตาประณามของประชาชน อันเนื่องมาจากความมักใหญ่ใฝ่สูง ทำให้ภาพต่างๆ เริ่มชัดเจนมากขึ้นว่า ที่ผ่านมา เสธ.ทหารปากกล้าคนนี้รับงานใครเหล่านี้ ยังไม่รวมมุกจี้ๆ ที่เสธ.แดง ยิงให้ล่วงหน้าหลายเม็ด อาทิ “ปลดป๊อก.. ป้อมออกแน่” ก็เป็นคำพูดเสธ.แดงในยุควิกฤตเก้าอี้ ผบ.ตร.ของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ หรือแม้แต่การออกมาโยนหินถามสังคม เรื่องอนาคตทางการเมืองของเจ้านาย …
“ตอนนี้มีท่านเพียงคนเดียวที่มีบารมี ท่านทำได้คือต้องชี้แจงให้นายกฯ รู้ว่าสภาพการเมืองตอนนี้แตกแยกกัน เราต้องละลาย โดยยุบสภาฯ เลือกตั้งใหม่ ล้างเสื้อเหลือง เสื้อแดง เสื้อน้ำเงิน ให้หมด แล้วกลับสู่สนามเลือกตั้ง เพราะตอนนี้มีท่านเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะมีบารมี มีน้องๆ ในกองทัพที่รับฟัง แถมยังเข้าถึง ‘ป๋าเปรม’ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้อีกด้วย ซึ่งนายเนวิน ชิดชอบ เห็นว่าท่านมีประโยชน์ สามารถคุมสภาพได้หมด แต่เมื่อทุกอย่างสำเร็จตามจุดประสงค์ทำอะไรได้ตามเป้าหมาย นายเนวิน ก็จะหักหลังท่านอีก ซึ่งเมื่อผมวิเคราะห์ตรงนี้ให้พี่ประวิตรนั่งฟังถึงกับหน้าเปลี่ยนสี” (พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล, ไทยรัฐ 27 เมษายน 52)
ในอดีตเสธ.แดงอาจจะถูกมองว่าเป็นเพียง “ม้าใช้” ของนักการเมือง และผู้มีสี ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาขี่..บงการอยู่เบื้องหลัง ดูได้จากชื่อเสธ.แดงที่ล้วนเข้าไปพัวพันกับสถานการณ์ การใช้กำลัง และการรับคำสั่งจากนักการเมืองฟากโน้น ฝ่ายนี้มาแล้วมากมาย อาทิ
กรณีคุกคามหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ถึงสำนักงานสมัยยังติดตาม ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี
หรือกรณีถูกนายหัวชวน สมัยยังเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้าน นำชื่อร้องเรียนต่อ พล.อ.ชวลิต รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมในขณะนั้นว่า ก่อวีรกรรมยกพวกไปข่มขู่ชาวบ้านที่กาญจนบุรี ไม่ให้สนับสนุน นายประชา โพธิพิพิธ หรือกำนันเซี้ยะ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อช่วยจะเหลือ พล.ต.ศรชัย มนตริวัต ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 จ.กาญจนบุรี พรรคความหวังใหม่ ให้ชนะการเลือกตั้ง
หรือกระทั่งมีชื่อเป็นศัตรูหมายเลข 1 กับ พลตำรวจเอกสันต์ ศรุตานนท์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึงขั้นฟ้องร้อง และศาลเพิ่งมีคำสั่งจำคุก 6 เดือนไปเมื่อเร็วๆ นี้
กรณีของสันต์ กับ เสธ. แดง ถูกรุ่งอรุณ สุริยามณี เฉลยไว้ในคอลัมน์ป้อมพระสุเมรุ ว่า เป็นเพราะทักษิณ ชินวัตร (ดำรงตำแหน่งนายกฯ ในขณะนั้น) ไม่พอใจในประสิทธิภาพของสันต์ ศรุตานนท์ และขัตติยะ สวัสดิผล หรือ “เสธ.แดง” ที่ออกมาบู๊กับสันต์ ศรุตานนท์ รายวัน
นั่น “มองให้ลึกลงไปก็เปรียบเสมือนทัพหน้าของสงครามใหญ่นั่นเอง”
แต่สำหรับวันนี้ สงครามตัวแทนที่มีเสธ.แดงออกด่านหน้า ดับเครื่องชน “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” และรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะแบบไม่ยั้ง ถึงขั้นที่พันธมิตรฯ ชุมนุมทีไร ก็ออกปากเรียกปืน เรียกดาบให้ล่วงหน้า ทำให้มีผู้บริสุทธิ์ต้องล้มตายระหว่างระยะเวลา 193 วันของการชุมนุมนั้น ยังไม่รวมการขนอาวุธสงครามถล่มสำนักข่าวเอเอสทีวี หรือแม้แต่การชุมนุมของคนหลากสี ก่อนหน้าวันพ่อแห่งชาติ
ทำให้น่าคิด และหาคำตอบว่า ใครกันแน่ที่เป็นผู้ปองร้ายตัวจริง ต่อเครือข่ายภาคประชาชนที่นับวันจะมีบทบาทสำคัญบนเวทีการเมืองบ้านเรา
ใครกันแน่ ที่แอบอยู่ในเงาของเสธ.แดง ใช้เสธ.แดง และพวกให้ออกรบแทน และใช้นายทหารนอกแถวคนนี้ให้ทำร้ายประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวด้วยความบริสุทธิ์ใจ
มันเป็นใครกันแน่... ที่ชั่วร้ายได้ขนาดนั้น
ทั้งนี้ ตามกฎหมายทางทหารผู้ที่มีความรับผิดชอบโดยตรงต่อการพิจารณาลงโทษเสธ.แดง จากกรณีการสอบสวนการกระทำผิด 2 ข้อหา คือ เดินทางไปกัมพูชาโดยไม่ได้รับอนุญาต และด่าผู้บังคับบัญชา รายชื่อของผู้ที่จะมีสิทธิให้คุณให้โทษกลายเป็นพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ‘บิ๊กป้อม’ พี่ใหญ่แห่งค่ายบูรพาพยัคฆ์ ผู้กินตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
แต่วันนี้ สังคมกลับเพ่งมองสายสัมพันธ์ของนายทหารสองคน อย่างน่าสนอกสนใจ
เอเอสทีวีผู้จัดการ โดยโต๊ะข่าวอาชญากรรมเคยตั้งข้อสังเกตไว้เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ในหลายประการถึงความเอื้ออาทรระหว่างนายและลูกน้อง ทั้งในและนอกเวลาราชการคู่นี้ อาทิ ทั้งประเด็นที่ เสธ.แดงเคยไปฝึกการใช้อาวุธ จัดตั้งกองกำลังให้คนเสื้อแดง และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เพียงสั่งตั้งกรรมการสอบ แต่ไม่มีบทสรุปใดๆ ออกมา
ทั้งประเด็นที่ เสธ. แดง ออกมาอ้างตัวเป็นผู้รู้ลึกเรื่องเบื้องหลังการลอบยิงคุณสนธิ โดยเบือนเป้า “ผู้บงการ” ว่ามาจากสาย “บ้านใหญ่” กลุ่มอำมาตย์เก่า ศูนย์รวมผู้มีบารมีที่เสาฐานบัญชาการโยกคลอนด้วยถูกคลื่นลูกใหม่ ก้าวร้าว คิดวัดรอยเท้า
เสธ.แดง เหมือนจงใจเบือนเป้าให้สังคมสับสน ทั้งที่ก่อนหน้าจะถูกยิงไม่กี่วันคุณสนธิเพิ่งจัดรายการ Good Morning Thailand ชี้หน้ากลุ่มอำนาจใหม่ ผู้ที่อยากได้ครุฑตัวที่สองเป็นผู้เตรียมการวางแผน จะคว่ำกระดานการเมือง ชิงอำนาจรัฐบาล
งานชงหวาน ช่วยนายให้พ้นจากสายตาประณามของประชาชน อันเนื่องมาจากความมักใหญ่ใฝ่สูง ทำให้ภาพต่างๆ เริ่มชัดเจนมากขึ้นว่า ที่ผ่านมา เสธ.ทหารปากกล้าคนนี้รับงานใครเหล่านี้ ยังไม่รวมมุกจี้ๆ ที่เสธ.แดง ยิงให้ล่วงหน้าหลายเม็ด อาทิ “ปลดป๊อก.. ป้อมออกแน่” ก็เป็นคำพูดเสธ.แดงในยุควิกฤตเก้าอี้ ผบ.ตร.ของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ หรือแม้แต่การออกมาโยนหินถามสังคม เรื่องอนาคตทางการเมืองของเจ้านาย …
“ตอนนี้มีท่านเพียงคนเดียวที่มีบารมี ท่านทำได้คือต้องชี้แจงให้นายกฯ รู้ว่าสภาพการเมืองตอนนี้แตกแยกกัน เราต้องละลาย โดยยุบสภาฯ เลือกตั้งใหม่ ล้างเสื้อเหลือง เสื้อแดง เสื้อน้ำเงิน ให้หมด แล้วกลับสู่สนามเลือกตั้ง เพราะตอนนี้มีท่านเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะมีบารมี มีน้องๆ ในกองทัพที่รับฟัง แถมยังเข้าถึง ‘ป๋าเปรม’ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้อีกด้วย ซึ่งนายเนวิน ชิดชอบ เห็นว่าท่านมีประโยชน์ สามารถคุมสภาพได้หมด แต่เมื่อทุกอย่างสำเร็จตามจุดประสงค์ทำอะไรได้ตามเป้าหมาย นายเนวิน ก็จะหักหลังท่านอีก ซึ่งเมื่อผมวิเคราะห์ตรงนี้ให้พี่ประวิตรนั่งฟังถึงกับหน้าเปลี่ยนสี” (พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล, ไทยรัฐ 27 เมษายน 52)
