ASTV ผู้จัดการรายวัน - แบงก์กสิกรไทยเดินหน้าสร้างรายได้ค่าธรรมเนียม ตั้งเป้ารายใหญ่ปีนี้โต 30% เน้นทำให้บริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ รับฝากเช็ค-โอนเงิน เชื่ออนาคตทั้งแบงก์และนอนแบงก์แข่งดุ เพื่อชิงลูกค้า
นางสาวจิตราวิณี วรรณกร ผู้อำนวยการฝ่ายบริการ จัดการด้านการเงิน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยว่า เป้าหมายการเติบโตรายได้ค่าธรรมเนียมจากการให้บริการลูกค้าสินเชื่อรายใหญ่ของธนาคารในปี 2553 ยังดำเนินแผนงานอย่างต่อเนื่องจากปี 2552 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการให้บริการผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ แบงก์กิ้ง เน้นในการทำธุรกรรมทางการเงินทั้งขารับและขาจ่าย อาทิ บริการรับฝากเช็ค บริการการโอนเงิน บริการเพย์เม้นท์ การหักบัญชี เป็นต้น เพื่อเป็นการเปลี่ยนพฤติกรรมของลูกค้าจากการใช้บริการผ่านสาขามาเป็นแบบออนไลน์มากขึ้น
"โดยธนาคารตั้งเป้าหมายเติบโตรายได้ค่าฟีจากการให้บริการลูกค้ารายใหญ่ในปีนี้ไว้ที่ 30% ซึ่งพยายามเน้นหนักไปที่ธุรกรรมการเงินที่เป็นขารับคือรับฝากเช็คและการโอนเงินที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ชาแนล เนื่องจากแนวโน้มลูกค้าที่ใช้บริการผ่านช่องทางดังกล่าว กำลังปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างชัดเจนต่อจากนี้ไป ซึ่งจะเห็นได้จากในปัจจุบันสัดส่วนดังกล่าวเติบโตเป็น 30% ขณะที่ผ่านช่องทางสาขาอยู่ที่ 70% โดยธนาคารคาดหวังว่าในอนาคตอันใกล้สัดส่วนการใช้บริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์จะเพิ่มเป็น 40%"นางสาวจิตราวิณี กล่าว
สำหรับในช่วงเดียวกันของปีก่อนธุรกรรมการให้บริการทั้งการรับฝากเช็คและการโอนเงินเป็นตัวที่สร้างรายได้หลักให้กับธนาคาร และในปีนี้ธนาคารก็ยังเน้นเติบโตรายได้ค่าธรรมเนียมดังกล่าวอีก โดยเราจะเป็นองค์กรที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ด้วยการมองความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญในการช่วยสรรหาผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับพฤติกรรมของลูกค้ามาให้บริการ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการให้บริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ แบงก์กิ้งในตลาดโดยรวมจะมีการแข่งกันรุนแรงมากขึ้น ทั้งในส่วนของธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร(นอนแบงก์)เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการดึงลูกค้ารายใหญ่ให้มาใช้บริการและเข้ามาเป็นฐานลูกค้าของธนาคารต่อไป
นางสาวจิตราวิณี วรรณกร ผู้อำนวยการฝ่ายบริการ จัดการด้านการเงิน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยว่า เป้าหมายการเติบโตรายได้ค่าธรรมเนียมจากการให้บริการลูกค้าสินเชื่อรายใหญ่ของธนาคารในปี 2553 ยังดำเนินแผนงานอย่างต่อเนื่องจากปี 2552 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการให้บริการผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ แบงก์กิ้ง เน้นในการทำธุรกรรมทางการเงินทั้งขารับและขาจ่าย อาทิ บริการรับฝากเช็ค บริการการโอนเงิน บริการเพย์เม้นท์ การหักบัญชี เป็นต้น เพื่อเป็นการเปลี่ยนพฤติกรรมของลูกค้าจากการใช้บริการผ่านสาขามาเป็นแบบออนไลน์มากขึ้น
"โดยธนาคารตั้งเป้าหมายเติบโตรายได้ค่าฟีจากการให้บริการลูกค้ารายใหญ่ในปีนี้ไว้ที่ 30% ซึ่งพยายามเน้นหนักไปที่ธุรกรรมการเงินที่เป็นขารับคือรับฝากเช็คและการโอนเงินที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ชาแนล เนื่องจากแนวโน้มลูกค้าที่ใช้บริการผ่านช่องทางดังกล่าว กำลังปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างชัดเจนต่อจากนี้ไป ซึ่งจะเห็นได้จากในปัจจุบันสัดส่วนดังกล่าวเติบโตเป็น 30% ขณะที่ผ่านช่องทางสาขาอยู่ที่ 70% โดยธนาคารคาดหวังว่าในอนาคตอันใกล้สัดส่วนการใช้บริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์จะเพิ่มเป็น 40%"นางสาวจิตราวิณี กล่าว
สำหรับในช่วงเดียวกันของปีก่อนธุรกรรมการให้บริการทั้งการรับฝากเช็คและการโอนเงินเป็นตัวที่สร้างรายได้หลักให้กับธนาคาร และในปีนี้ธนาคารก็ยังเน้นเติบโตรายได้ค่าธรรมเนียมดังกล่าวอีก โดยเราจะเป็นองค์กรที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ด้วยการมองความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญในการช่วยสรรหาผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับพฤติกรรมของลูกค้ามาให้บริการ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการให้บริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ แบงก์กิ้งในตลาดโดยรวมจะมีการแข่งกันรุนแรงมากขึ้น ทั้งในส่วนของธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร(นอนแบงก์)เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการดึงลูกค้ารายใหญ่ให้มาใช้บริการและเข้ามาเป็นฐานลูกค้าของธนาคารต่อไป
