ASTVผู้จัดการรายวัน –ศึกแอลอีดี ทีวี ปีหน้าบูมเต็มขั้น คาดดีมานด์โตพรวด 10เท่า หรือกว่า 1.5 แสนเครื่อง ซัมซุงกางแผนลุยจอภาพไซส์ใหญ่ เชื่อลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรมใช้แอลซีดีแทน ซีอาร์ที ทีวี ส่วนฟุตบอลโลก ปัจจัยสำคัญบูมตลาดจอาพไซส์ใหญ่ มั่นใจปีหน้ารายได้กลุ่มจอภาพโตแน่ 30% หลังสิ้นปีนี้ เชื่อทำได้ 8,200 ล้านบาท เติบโต 14%
นายรัชตะ สุทธาพัฒน์ธานนท์ หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ภาพและเสียง บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดจอภาพตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาพบว่า ตลาดค่อนข้างทรงตัวหรือเติบโตไม่น่าจะเกิน 2% โดยสิ้นปีคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดรวมที่ 26,000 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของซัมซุง 9 เดือนที่ผ่านมา เป็นผู้นำและมีส่วนแบ่งทางการตลาดรวมจอภาพที่ 37%
ขณะที่เฉพาะเดือนก.ย.เพียงเดือนเดียว ยอดขายเติบโตขึ้นสูงถึง 42% สาเหตุจากความมั่นใจของผู้บริโภคกลับคืน ดังนั้นจึงมองว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ในสิ้นปีนี้ ซัมซุงจะส่วนแบ่งทางการตลาดรวมจอภาพเป็น 39-40% โดยเมื่อแยกย่อยออกมาแล้ว ในส่วนของแอลซีดี ทีวี 9 เดือนที่ผ่านมา มีส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 37% ส่วนแอลอีดี ทีวีมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น 100% เนื่องจากปัจจุบันมีเพียงซัมซุงรายเดียวที่ทำตลาดนี้อย่างจริงจัง
นายอัศวิน ชูสถาพรกุล หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์แอลอีดี ทีวี และแอลซีดี ทีวี บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวต่อว่า ในส่วนของแอลอีดี ทีวี เชื่อว่าในปีหน้าจะมีดีมานด์เพิ่มขึ้นอีกกว่า 10 เท่า จากดีมานด์ในปีนี้ที่ 11,000 เครื่อง ปีหน้าคาดว่าจะสูงขึ้นเป็น 1.4-1.5 แสนเครื่อง ส่วนสำคัญมาจาก การที่จะมีผู้เล่นอีกหลายแบรนด์เข้ามาทำตลาดอย่างเต็มรูปแบบ ขณะเดียวกันผู้บริโภคมีความมั่นใจขึ้นว่า เทคโนโลยีจอภาพแอลอีดี ทีวี จะเป็นกระแสใหม่ที่เข้ามา
อย่างไรก็ตามในปีนี้ ทางบริษัท มีไลน์สินค้ากลุ่ม แอลอีดี ทีวี 3 รุ่น คือ 32นิ้ว 46นิ้ว และ 55นิ้ว โดยเมื่อเทียบราคาแอลอีดี ทีวี กับแอลซีดี ทีวี ในขนาดเดียวกันแล้ว แอลอีดี ทีวี จะมีราคาสูงกว่าราว 30-40% ในปีหน้าบริษัทเตรียมนำเสนอแอลอีดี ทีวี เข้ามาอีกหลายรุ่น ซึ่งจะเน้นไซส์ใหญ่เป็นหลัก
เนื่องจากมองว่า ในปีหน้ากำลังซื้อจะกลับมา พร้อมกับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูโทรทัศน์จากซีอาร์ที ทีวี มาเป็น แอลซีดี ทีวีมากขึ้น เนื่องจากปีหน้าแอลซีดี ทีวี จะมีราคาถูกลง โดยเฉพาะขนาด 32 นิ้ว ที่จะมีราคาจำหน่ายต่ำกว่า 1 หมื่นบาทในปีหน้า ที่สำคัญการแข่งขันฟุตบอลโลก ถือเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ผู้บริโภคจะหันมาซื้อจอภาพขนาดใหญ่มากขึ้น
นอกจากนี้ในปีหน้า บริษัทจะให้ความสำคัญกับช่องทางขายอย่างไฮเปอร์มาร์เก็ตมากขึ้น จากเดิมที่ให้ความสำคัญกับโมเดิร์นเทรด และดีลเลอร์ ทั้งนี้เพื่อต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเปลี่ยนพฤติกรรมจากการใช้จากจอภาพแบบซีอาร์ที ทีวี มาเป็นแอลซีดีมากยิ่งขึ้น โดยเชื่อว่า สัดส่วนยอดขายจอภาพในปีหน้า จะเปลี่ยนเป็น ซีอาร์ที 20% และกลุ่มจอแบนเพิ่มเป็น 80% จากในปีนี้ซีอาร์ที ทีวีอยู่ที่ 30% และ กลุ่มจอแบน 70% มั่นใจว่าปีหน้าซัมซุงจะมียอดขายรวมในกลุ่มจอภาพเติบโตขึ้นอีก 30% จาก 8,200 ล้านบาทในปีนี้
ส่วนภาพรวมตลาดจอภาพคาดว่าจะโตขึ้น 20% จาก 26,000 ล้านบาทในปีนี้เช่นกัน โดยในกลุ่มแอลซีดี ทีวี มองว่าปีหน้าจะมีความต้องการอยู่ที่ 1 ล้านเครื่อง จากปีนี้มีความต้องการราว 8 แสนเครื่อง ขณะที่ซีอาร์ที ทีวี
ปีหน้าคาดว่าจะมีดีมานด์เพียง 1.4 ล้านเครื่อง จากในปีนี้มีดีมานด์กว่า 2 ล้านเครื่อง
นายรัชตะ สุทธาพัฒน์ธานนท์ หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ภาพและเสียง บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดจอภาพตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาพบว่า ตลาดค่อนข้างทรงตัวหรือเติบโตไม่น่าจะเกิน 2% โดยสิ้นปีคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดรวมที่ 26,000 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของซัมซุง 9 เดือนที่ผ่านมา เป็นผู้นำและมีส่วนแบ่งทางการตลาดรวมจอภาพที่ 37%
ขณะที่เฉพาะเดือนก.ย.เพียงเดือนเดียว ยอดขายเติบโตขึ้นสูงถึง 42% สาเหตุจากความมั่นใจของผู้บริโภคกลับคืน ดังนั้นจึงมองว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ในสิ้นปีนี้ ซัมซุงจะส่วนแบ่งทางการตลาดรวมจอภาพเป็น 39-40% โดยเมื่อแยกย่อยออกมาแล้ว ในส่วนของแอลซีดี ทีวี 9 เดือนที่ผ่านมา มีส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 37% ส่วนแอลอีดี ทีวีมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น 100% เนื่องจากปัจจุบันมีเพียงซัมซุงรายเดียวที่ทำตลาดนี้อย่างจริงจัง
นายอัศวิน ชูสถาพรกุล หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์แอลอีดี ทีวี และแอลซีดี ทีวี บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวต่อว่า ในส่วนของแอลอีดี ทีวี เชื่อว่าในปีหน้าจะมีดีมานด์เพิ่มขึ้นอีกกว่า 10 เท่า จากดีมานด์ในปีนี้ที่ 11,000 เครื่อง ปีหน้าคาดว่าจะสูงขึ้นเป็น 1.4-1.5 แสนเครื่อง ส่วนสำคัญมาจาก การที่จะมีผู้เล่นอีกหลายแบรนด์เข้ามาทำตลาดอย่างเต็มรูปแบบ ขณะเดียวกันผู้บริโภคมีความมั่นใจขึ้นว่า เทคโนโลยีจอภาพแอลอีดี ทีวี จะเป็นกระแสใหม่ที่เข้ามา
อย่างไรก็ตามในปีนี้ ทางบริษัท มีไลน์สินค้ากลุ่ม แอลอีดี ทีวี 3 รุ่น คือ 32นิ้ว 46นิ้ว และ 55นิ้ว โดยเมื่อเทียบราคาแอลอีดี ทีวี กับแอลซีดี ทีวี ในขนาดเดียวกันแล้ว แอลอีดี ทีวี จะมีราคาสูงกว่าราว 30-40% ในปีหน้าบริษัทเตรียมนำเสนอแอลอีดี ทีวี เข้ามาอีกหลายรุ่น ซึ่งจะเน้นไซส์ใหญ่เป็นหลัก
เนื่องจากมองว่า ในปีหน้ากำลังซื้อจะกลับมา พร้อมกับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูโทรทัศน์จากซีอาร์ที ทีวี มาเป็น แอลซีดี ทีวีมากขึ้น เนื่องจากปีหน้าแอลซีดี ทีวี จะมีราคาถูกลง โดยเฉพาะขนาด 32 นิ้ว ที่จะมีราคาจำหน่ายต่ำกว่า 1 หมื่นบาทในปีหน้า ที่สำคัญการแข่งขันฟุตบอลโลก ถือเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ผู้บริโภคจะหันมาซื้อจอภาพขนาดใหญ่มากขึ้น
นอกจากนี้ในปีหน้า บริษัทจะให้ความสำคัญกับช่องทางขายอย่างไฮเปอร์มาร์เก็ตมากขึ้น จากเดิมที่ให้ความสำคัญกับโมเดิร์นเทรด และดีลเลอร์ ทั้งนี้เพื่อต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเปลี่ยนพฤติกรรมจากการใช้จากจอภาพแบบซีอาร์ที ทีวี มาเป็นแอลซีดีมากยิ่งขึ้น โดยเชื่อว่า สัดส่วนยอดขายจอภาพในปีหน้า จะเปลี่ยนเป็น ซีอาร์ที 20% และกลุ่มจอแบนเพิ่มเป็น 80% จากในปีนี้ซีอาร์ที ทีวีอยู่ที่ 30% และ กลุ่มจอแบน 70% มั่นใจว่าปีหน้าซัมซุงจะมียอดขายรวมในกลุ่มจอภาพเติบโตขึ้นอีก 30% จาก 8,200 ล้านบาทในปีนี้
ส่วนภาพรวมตลาดจอภาพคาดว่าจะโตขึ้น 20% จาก 26,000 ล้านบาทในปีนี้เช่นกัน โดยในกลุ่มแอลซีดี ทีวี มองว่าปีหน้าจะมีความต้องการอยู่ที่ 1 ล้านเครื่อง จากปีนี้มีความต้องการราว 8 แสนเครื่อง ขณะที่ซีอาร์ที ทีวี
ปีหน้าคาดว่าจะมีดีมานด์เพียง 1.4 ล้านเครื่อง จากในปีนี้มีดีมานด์กว่า 2 ล้านเครื่อง
