xs
xsm
sm
md
lg

ตั้งกงศุลช่วยเพิ่มนักเที่ยว ตัดงบราชการสัมนาตปท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ชุมพล เดินแผนเข้มกระตุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 53 ชงสารพัดมาตรการส่งเสริม ล่าสุด ผุด 3 มาตรการ ออก Visa on  arrival ดึงตลาดตะวันออกกลางเที่ยวไทย พร้อมหนุนตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ อำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวในต่างประเทศ  ส่วนตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศ หั่นงบสัมมนาต่างประเทศบีบหน่วยราชการจัดเดินทางแค่ในประเทศ ขณะที่การขายอีลิทการ์ดไม่คืบไร้แววคนสนใจ
             นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า  รัฐบาล และ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีแผนกระตุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา   โดยล่าสุด คณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้เห็นชอบมาตรการกระตุ้นนักท่องเที่ยวอีก 3 มาตรการ ได้แก่ 1.การเพิ่มประเทศที่สามารรถได้รับสิทธิ์ขอวีซ่าที่ปลายทาง(Visa on  arrival) รวม  6 ประเทศในตะวันออกกลาง ได้แก่ โอมาน เยเมน อิหร่าน และ รัฐดูไบ เป็นต้น  เพราะถือเป็นประเทศเป้าหมายในการทำตลาดของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) 2.การขยายเวลาในการเข้าพำนักในประเทศไทยได้นาน 90 วัน จากเดิมอนุญาตให้เพียง 30 วัน เพื่อเตรียมเจาะตลาดผู้สูงอายุ และ เมดิคัลทัวริส  และ 3.ให้มีการจัดตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ในประเทศที่มีความยากลำบากในการขอวีซ่าเข้ามาประเทศไทย นำร่องที่ ประเทศ อุซเบกิสถาน โดยแต่งตั้งให้ผู้จัดการสายการบินอุซเบกิสถานเป็นทูตกิตติมศักดิ์คนแรก
ทั้งนี้การเพิ่มมาตรการดังกล่าว ก็เพื่อต้องการส่งเสริมให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นในปี 2553 จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าต้องการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ให้ได้ถึง 16 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ  6 แสนล้านบาท  
ดังนั้นนอกจากการเพิ่มมาตรการกระตุ้นนักท่องเที่ยวแล้วยังให้ความสำคัญกับการเสนอให้รัฐบาลต่ออายุมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวของเดิมที่จะครบกำหนดในเดือนมี.ค.ศกนี้ด้วย  เช่น โครงการประกันภัยนักท่องเที่ยวต่างชาติ โครงการยกเว้นค่าลงจอดสนามบิน(แลนดิ้งฟี)  โครงการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า และ โครงการยกเว้นค่าเข้าชมอุทยาน เป็นต้น เพราะถือว่ามาตรการทั้งหมดจะสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะตัดสินใจเดินทางเข้ามาประเทศไทย
  ****ตัดงบสัมนาต่างประเทศ****
สำหรับตลาดในประเทศ  ครม.ได้เห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลังได้ตัดงบประมาณในส่วนราชการที่จะใช้เพื่อจัดประชุมสัมมนาและดูงานในต่างประเทศออกไป เพื่อต้องการให้ทุกหน่วยราชการหันมาจัดประชุมสัมมนาและดูงานภายในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ  นอกจากนั้น
ยังจะเสนอให้รัฐบาลโดยครม.เห็นชอบต่ออายุมาตรการลดหย่อนภาษีให้แก่ผู้ประกอบการการในกรณีที่จัดสัมมนาภายในประเทศแทนการเดินทางไปต่างประเทศ ให้นำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษีได้ 200%  ทั้งหมดจะก่อให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศและการส่งเสริมโดเมสติกไมซ์    ก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนภายในประเทศเพิ่มขึ้น
สัปดาห์หน้าจะหารือกับทุกหน่วยงานภายในกระทรวงการท่องเที่ยวฯเพื่อเตรียมการจัดทำงบประมาณประจำปี 2554  จากนั้นจะนำเข้าหารือกับสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง
****ยังไม่มีใครสนใจซื้ออีลิท******
นายชุมพล กล่าวถึงความคืบหน้าการประกาศขายกิจการบริษัท ไทยแลนด์พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ผู้บริหารโครงการบัตรไทยแลนด์อีลิท ว่า อยู่ระหว่างรอให้สำนักนายกรัฐมนตรีดำเนินการแก้ระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง ทั้งนี้เพราะคณะกรรมการตรวจสอบวิธีการจัดซื้อจัดจ้าง ของเดิมต้องมีกรรมการที่ประกอบด้วย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) และ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง) แต่ในกรณีการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการประมูลขายอีลิทการ์ดในครั้งนี้ สตง.ได้ออกตัวไม่ขอเข้าเป็นกรรมการ ทำให้ผิดระเบียบปฎิบัติจึงไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ จนกว่าจะมีการแก้ระเบียบให้เสร็จก่อน แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่
ครม.มีมติขายกิจการอีลิทการ์ด เกือบ 1 เดือนแล้ว ยังไม่มีเอกชนหรือผู้สนใจรายใดสนใจเข้ามาสอบถามข้อมูลเลย
กำลังโหลดความคิดเห็น