ASTVผู้จัดการรายวัน - ส.ว.คำนูณ แจง "สุรยุทธ์" เป็นผู้บริสุทธิ์กรณีเขายายเที่ยง เนื่องจากไม่มีเจตนา เชื่อพร้อมคืนที่ดินหลังกรมทรัพยากรฯ ทำหนังสือแจ้งกรมป่าไม้ให้คืนที่ ขณะที่ "สุรยุทธ์" พร้อมปฏิบัติตามมติ อสส. "เทือก" ยันไม่ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงคุมม็อบแดงถ่อย กห.ยันไม่ถึงขั้นปฏิวัติ "ป๊อก" แฉรัฐบาลในอดีตเคยสั่งฆ่าประชาชน แต่ทหารไม่ทำ
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีกลุ่มเสื้อแดงนัดชุมนุมที่เขายายเที่ยง จ.นครราชสีมาในวันที่ 11 ม.ค. เพื่อโจมตีการถือครองที่ดินเขายายเที่ยงของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ว่า ตนและส.ว.กลุ่มหนึ่งได้ติดตามเรื่องนี้และได้ตรวจสอบแล้ว เห็นว่ากรณีที่เกิดขึ้นไม่ใช่การบังคับใช้กฎหมายสองมาตรฐาน และพล.อ.สรยุทธ์ ไม่ได้มีเจตนากระทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้จาการตรวจสอบพบว่า กรณีดังกล่าวเคยมีผู้แจ้งความพล.อ.สุรยุทธ์ ตั้งแต่ปี 2550 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการจังหวัดสั่งไม่ฟ้อง โดยให้เหตุผลว่า พล.อ.สุรยุทธ์ได้ถือครองที่ดินโดยซื้อมาเป็นทอดที่ 3 ไม่ได้มีเจตนาที่จะกระทำผิดแต่อย่างใด โดยล่าสุดจากการติดตามของส.ว. พบว่าอัยการจังหวัดได้ทำหนังสือถึงกรมทรัพยากรธรรมชาติ ในวันนี้ (7 ม.ค.) ไปยังสำนักงานป่าไม้ เพื่อให้ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี 29 เม.ย.18 กรณีที่ราษฎรได้รับจัดสรรที่ดินทำกิน จะต้องเป็นที่ดินทำกินของราษฎรผู้นั้น กรณีที่ตกทอดจะต้องตกทอดไปยังทายาทโดยธรรมเท่านั้น ไม่มีสิทธิขาย หรือโอนให้บุคคลอื่น กรณีเช่นนี้จึงมีผลให้เจ้าของที่ดินทั้ง 150 แปลง และ พล.อ.สุรยุทธ์ จะไม่มีสิทธิถือครองที่ดินนี้ต่อไป
นายคำนูณ กล่าวอีกว่า เชื่อว่าพล.อ.สุรยุทธ์ไม่มีเจตนาทำความผิด โดยเมื่อทราบว่าต้องคืนที่ดินให้กรมป่าไม้ จะพร้อมคืนที่ดินให้ เมื่อทราบความเห็นของกรมทรัพยากรฯ กลุ่มส.ว.จึงมาแถลงข่าวโดยหวังว่า กระบวนการคืนที่ดินน่าจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนที่บุคคลกลุ่มหนึ่งจะไปชุมนุมที่เขายายเที่ยง
ส่วนที่กล่าวหาว่ารัฐบาลปฏิบัติสองมาตรฐาน มีการดำเนินคดีกับราษฎรที่บริเวณเชิงเขา แต่ไม่ดำเนินคดีกับองคมนตรี จากการตรวจสอบพบว่า เป็นคนละกรณีกัน โดยพบว่ากรณีของราษฎรเป็นการถือครองที่ดินเกินกว่าที่กำหนดไว้ ทั้งกลุ่ม ส.ว.เห็นว่ารัฐบาลควรดำเนินการเผยแพร่คำสั่งไม่ฟ้องของอัยการ และคำสั่งที่กรมทรัพยากรฯ ส่งไปยังกรมป่าไม้เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง
"เท่าที่ทราบพล.อ.สุรยุทธ์ เคยดำริไว้ว่า พร้อมที่จะคืนที่ดินผืนนี้ให้กับทางการ หากมีความชัดเจนเกี่ยวกับการครอบครอง เพียงแต่ก่อนหน้านี้ยังไม่มีความชัดเจน เมื่อมีความชัดเจนแล้วเชื่อว่าพล.อ.สุรยุทธ์ ยินดีคืนที่ดินให้" นายคำนูณกล่าว
**"สุรยุทธ์" ยันปฏิบัติตามมติ อสส.
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี กล่าวถึงปัญหาที่ดินเขายายเที่ยงว่า ขอยืนยันที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย หากอัยการสูงสุดมีมติอย่างไร จะดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งจะรอให้อัยการสูงสุดได้เป็นผู้ชี้แจง จากนั้นจะดำเนินการทุกอย่างตามกระบวนการ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ารัฐบาลจะไม่ประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ควบคุมพื้นที่ดังกล่าว เพราะเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหญ่ระดับประเทศ และไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง รวมถึงไม่ต้องการเพิ่มแรงกดดัน หรือแรงยั่วยุ จึงขอยืนยันว่า จะทำทุกอย่างตามกฎหมาย หากมีผลตัดสินที่สุดเป็นอย่างไร พร้อมที่จะปฏิบัติตาม
**ไม่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินคุมม็อบแดง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัญมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกลุ่มเสื้อแดง ที่ยังยืนยันจะบุกเขายายเที่ยงว่า ก็ต้องดูแลไม่ให้เกิดการปะทะ เพราะขณะนี้มีชาวบ้านบางส่วนออกมาติดป้ายไม่ต้อนรับ โดยคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย ก็ต้องรับผิดชอบ การที่จะออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอย่างไร ก็ต้องให้อยู่ในกรอบกฎเกณฑ์ของกฎหมายและอย่าทำร้ายประชาชนกลุ่มอื่น
"จะไม่ประกาศ พ.ร.ก. ไม่ประกาศพื้นที่ตามพ.ร.บ.ความมั่นคง แต่จะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลไม่ให้คนเสื้อแดงไปทำร้ายประชาชน"
เมื่อถามว่า หากมีการปิดถนนมิตรภาพ นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าเขาทำอะไรผิดกฎหมาย ตนก็ดำเนินคดีกับผู้ที่เป็นหัวหน้า และผู้ที่ดำเนินการ โดยจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย รักษากฎหมาย ใครทำผิดกฎหมายก็ดำเนินคดี ให้ตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบในการควบคุมดูแล ส่วนทหารนั้นจะไม่ใช้ ซึ่งกำลังตำรวจจะเตรียมให้เพียงพอ โดยวันนี้ (8 ม.ค.) เวลา 12.00 น. ตนนัดประชุมรักษาการ ผบ.ตร. และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคต่างๆ ที่ห้องทำงานทำเนียบฯ เพราะกลุ่มเสื้อแดงมีแผนการจะไปดำเนินการในหลายจังหวัด
**ทหารเตรียมพร้อม-ชุดเจรจา
พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ตนได้ประชุมร่วมกับ ผบช.ภ.3 และผวจ.นครราสีมา เพื่อสรุปสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งได้มีการทบทวนในเรื่องที่อัยการสั่งไม่ฟ้องเพื่อให้เกิดความชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องที่กรมป่าไม้จะต้องไปพิจารณาในเรื่องมติครม. เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่กรมป่าไม้ เคยจัดเป็นบ้านป่าไม้ เพียงแต่ผิดเงื่อนไข ในมติครม. เรื่องการจัดทำที่ดินทำกิน
ในเรื่องของเอกสารชุดเก่า การมอบให้กับราษฎรไว้ใช้เป็นพื้นที่ทำกินสำหรับการครอบครองนั้น จะต้องตกทอดสู่ทายาทโดยธรรม เพราะฉะนั้นในเงื่อนไขดังกล่าว สำนวนของอัยการได้ส่งกลับให้กรมป่าไม้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงของกรมป่าไม้พิจารณาข้อเสนอแนะของอัยการ ซึ่งมั่นใจว่ากรมป่าไม้ปฏิบัติตามระเบียบของหมู่บ้านป่าไม้ เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะคลี่คลาย
"ผมได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ที่ควบคุมสถานการณ์ใช้การเจรจาเป็นหลัก โดยยึดในเรื่องของสันติวิธี โดยไม่ต้องการให้มีการกระทบกระทั่ง หรือความรุนแรงใดๆเกิดขึ้น โดยได้กำชับให้ บช.ภ.3 ดูแลอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งการจัดวางกำลังควบคุมสถานการณ์ และให้ใช้การเจรจาตามหลักสันติวิธี ห้ามการใช้กำลัง หรือเกิดความรุนแรงเกิดขึ้นโดยเด็ดดาด ขณะที่การระบุว่า กลุ่มคนสื้อแดงจะเข้าไปถึงบ้านขององคมนตรี นั้นต้องดูว่าการจะบุกเข้าไปเพื่ออะไร ซึ่งยังคงต้องรอฟังคำชี้แจงจากกรมปาไม้ ที่จะมีความชัดจนขึ้นภายใน 1-2 วันนี้"
แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวต่อว่าได้มีการจัดวางกำลัง ประจำบริเวณโดยรอบของบ้านพักองคมนตรี และพื้นที่โดยรอบ โดยมอบหมายให้ตำรจภูธรภาค 3 เป็นผู้กำหนดแผนการรักษาความปลอดภัย ขณะที่กำลังทหารจะคอยเป็นกำลังเสริม
อย่างไรก็ตามได้มีการเตรียมชุดเจรจากับกลุ่มแกนนำ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง หรือการชุมนุมที่บานปลาย ซึ่งยังคงมั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงหรือสถานการณ์ใดๆ เกิดขึ้น
**เชื่อไม่ลามถึงปฏิวัติ
พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า กองทัพคงมีการติดตามสถานการณ์ แต่ทุกฝ่ายคงทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของชาติ หากคิดให้รอบคอบคงไม่มีประโยชน์อะไรที่ออกมาปะทะกัน การพูดคุยกันน่าจะดีกว่า อย่างไรก็ตาม เรื่องการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่นั้น เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมการอยู่ โดยจะใช้แผนกรกฎ นำกำลังตำรวจเข้าไป ทั้งนี้หากตำรวจไม่ร้องขอ ทหารก็คงเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง
ส่วนกรณีที่มีการทำนายว่า เดือนเม.ย.นี้ จะมีการนองเลือดนั้น ตนไม่เชื่อว่าจะมี ซึ่งบนพื้นฐานข้อเท็จจริงคงไม่มีใครอยากให้บ้านเมืองวุ่นวาย ส่วนกองทัพมีความเป็นกลางอยู่แล้ว ไม่เข้าข้างฝ่ายใด เพราะเราเป็นทหารของประชาชน อยู่บนพื้นฐานความถูกต้อง
เมื่อถามว่าหากสถานการณ์การเมืองรุนแรง จะนำพาไปสู่การรัฐประหารหรือไม่ พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า เงื่อนไขปฏิวัติไม่ใช่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก่อความรุนแรงแล้วปะทะกัน โอกาสนี้อยากขอร้องทุกฝ่ายอย่าใช้ความรุนแรงเข้าหากัน คงต้องใช้หลักการ และเหตุผลเข้ามาคุยกัน คิดว่ากองทัพไม่หนักใจในสถานการณ์ เพราะช่วงเวลา1–2 ปีที่ผ่านมา กองทัพมีความชำนาญพอสมควรในการดูแลเหตุการณ์ต่างๆให้เรียบร้อย
"การยุติปัญหาไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรง หรือไม่ต้องออกมาทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง ที่ผ่านมามีการประกาศใช้กฎหมาย พระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (พ.ร.บ.ความมั่นคง) สามารถรักษาความสงบได้ คงไม่มีปัญหาอะไร และบนสมมุติฐานที่ผมตั้งเชื่อว่าไม่น่าจะเกิดการนองเลือด หรือความรุนแรง และการที่ทหารจะออกมาทำอะไรในสิ่งไม่ถูกต้อง คิดว่าไม่มีความจำเป็นไปถึงจุดนั้นที่ต้องทำ หากทำกฎหมายเป็นกฎหมาย และทำทุกอย่างเป็นสิ่งถูกต้อง" พล.อ.อภิชาตกล่าว
เมื่อถามว่ามีหลายฝ่ายเรียกร้องให้ทหารออกมาแก้ไขปัญหา พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ต้องดูเหตุผลว่า เราเข้ามาช่วยดูแลแค่ไหน และเป็นอำนาจให้กองทัพเข้ามาดูแลได้หรือไม่ หากรัฐบาลไม่มอบให้เราดำเนินการ เราคงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว เมื่อถามว่า แสดงว่าการปฏิวัติไม่ใช่คำตอบสุดท้ายในการแก้ปัญหา พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า แน่นอนการปฏิวัติไม่ใช่คำตอบสุดท้าย ตนไม่เคยคิดว่าจะมีการปฏิวัติเกิดขึ้น
**"ป๊อก"ยันทหารไม่ฆ่าประชาชน
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวว่า แนวทางการดำเนินงานของทหารหลักคือ ทหารไม่เป็นผู้ฆ่าประชาชน แต่ถ้าทางรัฐบาลให้นโยบายมา เราก็พร้อมจะปฏิบัติแต่ต้องถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งในรัฐบาลในอดีตสั่งมา แต่ทหารไม่ทำ เพราะอะไรแต่นั่นไม่ต้องพูด
"ตอนนี้รู้สึกดี ที่ทั้งแดงและเหลืองด่าทหาร ทำให้เราถูกมองว่าเราไม่เลือกข้าง แต่ถ้าหากแดงด่าอย่างเดียว ก็เท่ากับว่าเราถูกจับไปอยู่อีกข้างหนึ่ง" ผบ.ทบ.กล่าว.
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีกลุ่มเสื้อแดงนัดชุมนุมที่เขายายเที่ยง จ.นครราชสีมาในวันที่ 11 ม.ค. เพื่อโจมตีการถือครองที่ดินเขายายเที่ยงของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ว่า ตนและส.ว.กลุ่มหนึ่งได้ติดตามเรื่องนี้และได้ตรวจสอบแล้ว เห็นว่ากรณีที่เกิดขึ้นไม่ใช่การบังคับใช้กฎหมายสองมาตรฐาน และพล.อ.สรยุทธ์ ไม่ได้มีเจตนากระทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้จาการตรวจสอบพบว่า กรณีดังกล่าวเคยมีผู้แจ้งความพล.อ.สุรยุทธ์ ตั้งแต่ปี 2550 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการจังหวัดสั่งไม่ฟ้อง โดยให้เหตุผลว่า พล.อ.สุรยุทธ์ได้ถือครองที่ดินโดยซื้อมาเป็นทอดที่ 3 ไม่ได้มีเจตนาที่จะกระทำผิดแต่อย่างใด โดยล่าสุดจากการติดตามของส.ว. พบว่าอัยการจังหวัดได้ทำหนังสือถึงกรมทรัพยากรธรรมชาติ ในวันนี้ (7 ม.ค.) ไปยังสำนักงานป่าไม้ เพื่อให้ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี 29 เม.ย.18 กรณีที่ราษฎรได้รับจัดสรรที่ดินทำกิน จะต้องเป็นที่ดินทำกินของราษฎรผู้นั้น กรณีที่ตกทอดจะต้องตกทอดไปยังทายาทโดยธรรมเท่านั้น ไม่มีสิทธิขาย หรือโอนให้บุคคลอื่น กรณีเช่นนี้จึงมีผลให้เจ้าของที่ดินทั้ง 150 แปลง และ พล.อ.สุรยุทธ์ จะไม่มีสิทธิถือครองที่ดินนี้ต่อไป
นายคำนูณ กล่าวอีกว่า เชื่อว่าพล.อ.สุรยุทธ์ไม่มีเจตนาทำความผิด โดยเมื่อทราบว่าต้องคืนที่ดินให้กรมป่าไม้ จะพร้อมคืนที่ดินให้ เมื่อทราบความเห็นของกรมทรัพยากรฯ กลุ่มส.ว.จึงมาแถลงข่าวโดยหวังว่า กระบวนการคืนที่ดินน่าจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนที่บุคคลกลุ่มหนึ่งจะไปชุมนุมที่เขายายเที่ยง
ส่วนที่กล่าวหาว่ารัฐบาลปฏิบัติสองมาตรฐาน มีการดำเนินคดีกับราษฎรที่บริเวณเชิงเขา แต่ไม่ดำเนินคดีกับองคมนตรี จากการตรวจสอบพบว่า เป็นคนละกรณีกัน โดยพบว่ากรณีของราษฎรเป็นการถือครองที่ดินเกินกว่าที่กำหนดไว้ ทั้งกลุ่ม ส.ว.เห็นว่ารัฐบาลควรดำเนินการเผยแพร่คำสั่งไม่ฟ้องของอัยการ และคำสั่งที่กรมทรัพยากรฯ ส่งไปยังกรมป่าไม้เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง
"เท่าที่ทราบพล.อ.สุรยุทธ์ เคยดำริไว้ว่า พร้อมที่จะคืนที่ดินผืนนี้ให้กับทางการ หากมีความชัดเจนเกี่ยวกับการครอบครอง เพียงแต่ก่อนหน้านี้ยังไม่มีความชัดเจน เมื่อมีความชัดเจนแล้วเชื่อว่าพล.อ.สุรยุทธ์ ยินดีคืนที่ดินให้" นายคำนูณกล่าว
**"สุรยุทธ์" ยันปฏิบัติตามมติ อสส.
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี กล่าวถึงปัญหาที่ดินเขายายเที่ยงว่า ขอยืนยันที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย หากอัยการสูงสุดมีมติอย่างไร จะดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งจะรอให้อัยการสูงสุดได้เป็นผู้ชี้แจง จากนั้นจะดำเนินการทุกอย่างตามกระบวนการ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ารัฐบาลจะไม่ประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ควบคุมพื้นที่ดังกล่าว เพราะเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหญ่ระดับประเทศ และไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง รวมถึงไม่ต้องการเพิ่มแรงกดดัน หรือแรงยั่วยุ จึงขอยืนยันว่า จะทำทุกอย่างตามกฎหมาย หากมีผลตัดสินที่สุดเป็นอย่างไร พร้อมที่จะปฏิบัติตาม
**ไม่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินคุมม็อบแดง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัญมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกลุ่มเสื้อแดง ที่ยังยืนยันจะบุกเขายายเที่ยงว่า ก็ต้องดูแลไม่ให้เกิดการปะทะ เพราะขณะนี้มีชาวบ้านบางส่วนออกมาติดป้ายไม่ต้อนรับ โดยคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย ก็ต้องรับผิดชอบ การที่จะออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอย่างไร ก็ต้องให้อยู่ในกรอบกฎเกณฑ์ของกฎหมายและอย่าทำร้ายประชาชนกลุ่มอื่น
"จะไม่ประกาศ พ.ร.ก. ไม่ประกาศพื้นที่ตามพ.ร.บ.ความมั่นคง แต่จะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลไม่ให้คนเสื้อแดงไปทำร้ายประชาชน"
เมื่อถามว่า หากมีการปิดถนนมิตรภาพ นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าเขาทำอะไรผิดกฎหมาย ตนก็ดำเนินคดีกับผู้ที่เป็นหัวหน้า และผู้ที่ดำเนินการ โดยจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย รักษากฎหมาย ใครทำผิดกฎหมายก็ดำเนินคดี ให้ตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบในการควบคุมดูแล ส่วนทหารนั้นจะไม่ใช้ ซึ่งกำลังตำรวจจะเตรียมให้เพียงพอ โดยวันนี้ (8 ม.ค.) เวลา 12.00 น. ตนนัดประชุมรักษาการ ผบ.ตร. และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคต่างๆ ที่ห้องทำงานทำเนียบฯ เพราะกลุ่มเสื้อแดงมีแผนการจะไปดำเนินการในหลายจังหวัด
**ทหารเตรียมพร้อม-ชุดเจรจา
พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ตนได้ประชุมร่วมกับ ผบช.ภ.3 และผวจ.นครราสีมา เพื่อสรุปสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งได้มีการทบทวนในเรื่องที่อัยการสั่งไม่ฟ้องเพื่อให้เกิดความชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องที่กรมป่าไม้จะต้องไปพิจารณาในเรื่องมติครม. เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่กรมป่าไม้ เคยจัดเป็นบ้านป่าไม้ เพียงแต่ผิดเงื่อนไข ในมติครม. เรื่องการจัดทำที่ดินทำกิน
ในเรื่องของเอกสารชุดเก่า การมอบให้กับราษฎรไว้ใช้เป็นพื้นที่ทำกินสำหรับการครอบครองนั้น จะต้องตกทอดสู่ทายาทโดยธรรม เพราะฉะนั้นในเงื่อนไขดังกล่าว สำนวนของอัยการได้ส่งกลับให้กรมป่าไม้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงของกรมป่าไม้พิจารณาข้อเสนอแนะของอัยการ ซึ่งมั่นใจว่ากรมป่าไม้ปฏิบัติตามระเบียบของหมู่บ้านป่าไม้ เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะคลี่คลาย
"ผมได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ที่ควบคุมสถานการณ์ใช้การเจรจาเป็นหลัก โดยยึดในเรื่องของสันติวิธี โดยไม่ต้องการให้มีการกระทบกระทั่ง หรือความรุนแรงใดๆเกิดขึ้น โดยได้กำชับให้ บช.ภ.3 ดูแลอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งการจัดวางกำลังควบคุมสถานการณ์ และให้ใช้การเจรจาตามหลักสันติวิธี ห้ามการใช้กำลัง หรือเกิดความรุนแรงเกิดขึ้นโดยเด็ดดาด ขณะที่การระบุว่า กลุ่มคนสื้อแดงจะเข้าไปถึงบ้านขององคมนตรี นั้นต้องดูว่าการจะบุกเข้าไปเพื่ออะไร ซึ่งยังคงต้องรอฟังคำชี้แจงจากกรมปาไม้ ที่จะมีความชัดจนขึ้นภายใน 1-2 วันนี้"
แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวต่อว่าได้มีการจัดวางกำลัง ประจำบริเวณโดยรอบของบ้านพักองคมนตรี และพื้นที่โดยรอบ โดยมอบหมายให้ตำรจภูธรภาค 3 เป็นผู้กำหนดแผนการรักษาความปลอดภัย ขณะที่กำลังทหารจะคอยเป็นกำลังเสริม
อย่างไรก็ตามได้มีการเตรียมชุดเจรจากับกลุ่มแกนนำ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง หรือการชุมนุมที่บานปลาย ซึ่งยังคงมั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงหรือสถานการณ์ใดๆ เกิดขึ้น
**เชื่อไม่ลามถึงปฏิวัติ
พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า กองทัพคงมีการติดตามสถานการณ์ แต่ทุกฝ่ายคงทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของชาติ หากคิดให้รอบคอบคงไม่มีประโยชน์อะไรที่ออกมาปะทะกัน การพูดคุยกันน่าจะดีกว่า อย่างไรก็ตาม เรื่องการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่นั้น เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมการอยู่ โดยจะใช้แผนกรกฎ นำกำลังตำรวจเข้าไป ทั้งนี้หากตำรวจไม่ร้องขอ ทหารก็คงเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง
ส่วนกรณีที่มีการทำนายว่า เดือนเม.ย.นี้ จะมีการนองเลือดนั้น ตนไม่เชื่อว่าจะมี ซึ่งบนพื้นฐานข้อเท็จจริงคงไม่มีใครอยากให้บ้านเมืองวุ่นวาย ส่วนกองทัพมีความเป็นกลางอยู่แล้ว ไม่เข้าข้างฝ่ายใด เพราะเราเป็นทหารของประชาชน อยู่บนพื้นฐานความถูกต้อง
เมื่อถามว่าหากสถานการณ์การเมืองรุนแรง จะนำพาไปสู่การรัฐประหารหรือไม่ พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า เงื่อนไขปฏิวัติไม่ใช่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก่อความรุนแรงแล้วปะทะกัน โอกาสนี้อยากขอร้องทุกฝ่ายอย่าใช้ความรุนแรงเข้าหากัน คงต้องใช้หลักการ และเหตุผลเข้ามาคุยกัน คิดว่ากองทัพไม่หนักใจในสถานการณ์ เพราะช่วงเวลา1–2 ปีที่ผ่านมา กองทัพมีความชำนาญพอสมควรในการดูแลเหตุการณ์ต่างๆให้เรียบร้อย
"การยุติปัญหาไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรง หรือไม่ต้องออกมาทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง ที่ผ่านมามีการประกาศใช้กฎหมาย พระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (พ.ร.บ.ความมั่นคง) สามารถรักษาความสงบได้ คงไม่มีปัญหาอะไร และบนสมมุติฐานที่ผมตั้งเชื่อว่าไม่น่าจะเกิดการนองเลือด หรือความรุนแรง และการที่ทหารจะออกมาทำอะไรในสิ่งไม่ถูกต้อง คิดว่าไม่มีความจำเป็นไปถึงจุดนั้นที่ต้องทำ หากทำกฎหมายเป็นกฎหมาย และทำทุกอย่างเป็นสิ่งถูกต้อง" พล.อ.อภิชาตกล่าว
เมื่อถามว่ามีหลายฝ่ายเรียกร้องให้ทหารออกมาแก้ไขปัญหา พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ต้องดูเหตุผลว่า เราเข้ามาช่วยดูแลแค่ไหน และเป็นอำนาจให้กองทัพเข้ามาดูแลได้หรือไม่ หากรัฐบาลไม่มอบให้เราดำเนินการ เราคงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว เมื่อถามว่า แสดงว่าการปฏิวัติไม่ใช่คำตอบสุดท้ายในการแก้ปัญหา พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า แน่นอนการปฏิวัติไม่ใช่คำตอบสุดท้าย ตนไม่เคยคิดว่าจะมีการปฏิวัติเกิดขึ้น
**"ป๊อก"ยันทหารไม่ฆ่าประชาชน
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวว่า แนวทางการดำเนินงานของทหารหลักคือ ทหารไม่เป็นผู้ฆ่าประชาชน แต่ถ้าทางรัฐบาลให้นโยบายมา เราก็พร้อมจะปฏิบัติแต่ต้องถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งในรัฐบาลในอดีตสั่งมา แต่ทหารไม่ทำ เพราะอะไรแต่นั่นไม่ต้องพูด
"ตอนนี้รู้สึกดี ที่ทั้งแดงและเหลืองด่าทหาร ทำให้เราถูกมองว่าเราไม่เลือกข้าง แต่ถ้าหากแดงด่าอย่างเดียว ก็เท่ากับว่าเราถูกจับไปอยู่อีกข้างหนึ่ง" ผบ.ทบ.กล่าว.