นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ นพ.พงษ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ เลขาธิการมูลนิธิแพทย์ชนบท ในฐานะผู้ช่วย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน จ.น่าน ยื่นหนังสือให้กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการให้การจัดงานกาชาดในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากยังมีอีกหลายจังหวัดเตรียมจัดงานกาชาด ว่าได้สั่งการให้นายวิชัย ศรีขวัญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ให้กำชับดูแลการจัดงานกาชาด ไม่อนุญาตให้มีการวางจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมไปถึงการโฆษณา โดยให้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ที่ระบุห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่สาธารณะ สถานที่ราชการ ซึ่งจะผิดกฎหมาย มาตรา 27, 31 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากมีมีการโฆษณาแฝงจริง ถือว่าจะมีความผิดมาตรา 32 ของ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
นายชวรัตน์ กล่าวว่า ได้กำชับกับปลัดกระทรวงมหาดไทยว่า ต้องดูแลทุกจังหวัดทั่วประเทศ ให้งานกาชาดเป็นงานที่ปลอดเหล้า เพราะคำว่า กาชาด คือ สภากาชาดไทย ที่เป็นหน่วยงานช่วยเหลือชีวิตคน แต่เหล้าเป็นเครื่องดื่มที่ทำลายชีวิตคน จึงไม่ควรจะอยู่ในงานเดียวกัน เพราะไม่เหมาะสม และได้ทราบจากเลขาธิการแพทย์ชนบทว่า ยังมีบางจังหวัดที่ยังอนุญาตให้มีการขายเหล้าในงานกาชาดอยู่ ซึ่งถือว่าทำผิดกฎหมาย จึงอยากให้ทุกจังหวัดช่วยกันปฏิบัติตามกฎหมาย แม้อาจจะมีการลักลอบขาย ก็ต้องช่วยกันสอดส่องดูแล ซึ่งจะส่งผลดีต่อประชาชนโดยตรง ที่ผ่านมายอมรับว่าคนไทยยังมีนิสัยชอบดื่มเหล้า ชอบสังสรรค์ ที่เป็นปัญหาเพราะดื่มจนเมา ครองสติไม่อยู่
อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมเหล่านี้ คงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกหน่วยงานในการรณรงค์ ให้คนไทยลดพฤติกรรมการดื่มเหล้าและพฤติกรรมดื่มไม่ขับ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาพอสมควร
นายสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า ด้วยความพยายาม และความร่วมมือของทุกภาคส่วนในจังหวัดต่างๆโดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด อาทิ ขอนแก่น สุรินทร์ มหาสารคาม อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สระบุรี ที่เห็นถึงความสำคัญ ต้องการลดความสูญเสียจากการดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้การจัดงานกาชาดปลอดเหล้า ไม่มีการขาย และดื่มในบริเวณงาน สามารถช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้อย่างชัดเจน เห็นได้จากการจัดงานกาชาดที่ จ.ขอนแก่น ทำให้ไม่พบผู้เสียชีวิต มีเพียงเหตุทะเลาะวิวาท 8 ราย ซึ่งต่างจากปี 2551 ที่มีเหตุทะเลาะวิวาททั้งหมด 86 ราย เสียชีวิต 2 ราย เช่นเดียวกับ จ.สุรินทร์ ที่ไม่พบผู้เสียชีวิตในงานกาชาด ต่างจากปี 51 ที่มีผู้เสียชีวิต 4 ราย
"จากการรณรงค์ดังกล่าว ยังมีบางจังหวัดเท่านั้นที่ผู้ว่าฯไม่เห็นถึงความสำคัญ อีกทั้งยังสนับสนุนให้ลานกาชาด กลายเป็นลานเบียร์ โดยเห็นแก่เงินสนับสนุนเพียงเล็กน้อย ซึ่งเทียบไม่ได้กับความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินที่เกิดขึ้น และอุบัติเหตุจากเหล้า ทำให้ต้องเสียเลือดเป็นจำนวนมหาศาล ทั้งๆ ที่การรับบริจาคเลือดแต่ละครั้งทางสภากาชาดต้องทำด้วยความยากลำบาก" นายสงกรานต์ กล่าว
นายชวรัตน์ กล่าวว่า ได้กำชับกับปลัดกระทรวงมหาดไทยว่า ต้องดูแลทุกจังหวัดทั่วประเทศ ให้งานกาชาดเป็นงานที่ปลอดเหล้า เพราะคำว่า กาชาด คือ สภากาชาดไทย ที่เป็นหน่วยงานช่วยเหลือชีวิตคน แต่เหล้าเป็นเครื่องดื่มที่ทำลายชีวิตคน จึงไม่ควรจะอยู่ในงานเดียวกัน เพราะไม่เหมาะสม และได้ทราบจากเลขาธิการแพทย์ชนบทว่า ยังมีบางจังหวัดที่ยังอนุญาตให้มีการขายเหล้าในงานกาชาดอยู่ ซึ่งถือว่าทำผิดกฎหมาย จึงอยากให้ทุกจังหวัดช่วยกันปฏิบัติตามกฎหมาย แม้อาจจะมีการลักลอบขาย ก็ต้องช่วยกันสอดส่องดูแล ซึ่งจะส่งผลดีต่อประชาชนโดยตรง ที่ผ่านมายอมรับว่าคนไทยยังมีนิสัยชอบดื่มเหล้า ชอบสังสรรค์ ที่เป็นปัญหาเพราะดื่มจนเมา ครองสติไม่อยู่
อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมเหล่านี้ คงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกหน่วยงานในการรณรงค์ ให้คนไทยลดพฤติกรรมการดื่มเหล้าและพฤติกรรมดื่มไม่ขับ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาพอสมควร
นายสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า ด้วยความพยายาม และความร่วมมือของทุกภาคส่วนในจังหวัดต่างๆโดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด อาทิ ขอนแก่น สุรินทร์ มหาสารคาม อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สระบุรี ที่เห็นถึงความสำคัญ ต้องการลดความสูญเสียจากการดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้การจัดงานกาชาดปลอดเหล้า ไม่มีการขาย และดื่มในบริเวณงาน สามารถช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้อย่างชัดเจน เห็นได้จากการจัดงานกาชาดที่ จ.ขอนแก่น ทำให้ไม่พบผู้เสียชีวิต มีเพียงเหตุทะเลาะวิวาท 8 ราย ซึ่งต่างจากปี 2551 ที่มีเหตุทะเลาะวิวาททั้งหมด 86 ราย เสียชีวิต 2 ราย เช่นเดียวกับ จ.สุรินทร์ ที่ไม่พบผู้เสียชีวิตในงานกาชาด ต่างจากปี 51 ที่มีผู้เสียชีวิต 4 ราย
"จากการรณรงค์ดังกล่าว ยังมีบางจังหวัดเท่านั้นที่ผู้ว่าฯไม่เห็นถึงความสำคัญ อีกทั้งยังสนับสนุนให้ลานกาชาด กลายเป็นลานเบียร์ โดยเห็นแก่เงินสนับสนุนเพียงเล็กน้อย ซึ่งเทียบไม่ได้กับความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินที่เกิดขึ้น และอุบัติเหตุจากเหล้า ทำให้ต้องเสียเลือดเป็นจำนวนมหาศาล ทั้งๆ ที่การรับบริจาคเลือดแต่ละครั้งทางสภากาชาดต้องทำด้วยความยากลำบาก" นายสงกรานต์ กล่าว