นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของ TFEX ในปี 52 นั้นเป็นที่น่าพอใจ แม้จะเป็นปีที่ผู้ลงทุนมีความกังวลอย่างมากจากผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยมีการเติบโตทั้งในด้านปริมาณการซื้อขายและจำนวนผู้ลงทุน ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มสินค้าโกลด์ฟิวเจอร์ส (Gold Futures) หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับทองคำ การรับผู้ค้าทองเป็นสมาชิกใหม่ รวมถึงการจัดโครงการส่งเสริมการซื้อขาย การทำการตลาดและการให้ความรู้แก่ผู้เกี่ยวข้องตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการซื้อขายใน TFEX ในปี 52 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,334,318 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 5,589 ล้านบาทต่อวัน ในเชิงปริมาณการซื้อขายนั้น TFEX มีปริมาณการซื้อขายรวมทั้งหมด 3.075 ล้านสัญญา หรือเฉลี่ย 12,771 สัญญาต่อวัน เพิ่มขึ้นกว่า 44 % จากปลายปี 51 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 8,837 สัญญาต่อวัน โดยเป็นการซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ตประมาณ 21% สำหรับสินค้าที่มีการซื้อขายมากที่สุด คือ สัญญาล่วงหน้าที่อ้างอิงกับดัชนี SET50 (SET50 Index Futures) ซึ่งมีการซื้อขายคิดเป็น 84 % ของปริมาณการซื้อขายรวม ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 ธันวาคม 52 ตลาดอนุพันธ์มีสถานะคงค้างรวม 28,281 สัญญา และมีจำนวนบัญชีซื้อขายอนุพันธ์รวมทั้งสิ้น 29,647 บัญชี เพิ่มขึ้น 86.5% จากสิ้นปี 51
โดยปี 52 ที่ผ่านมา TFEX ได้จัดให้มีการซื้อขายสินค้าใหม่ 2 ประเภท ได้แก่ Gold Futures ซึ่งเริ่มซื้อขายในเดือนกุมภาพันธ์ และเพิ่มจำนวนหุ้นอ้างอิงของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับหุ้นสามัญรายตัว (Stock Futures) อีก 11 ตัว ในเดือนมิถุนายน โดยสินค้าทั้ง 2 ประเภทดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี สำหรับ Gold Futures มีปริมาณการซื้อขายโดยเฉลี่ยทั้งปี 1,397 สัญญาต่อวัน หรือประมาณ 10% ของปริมาณการซื้อขายรวมของทั้งตลาด TFEX ส่วน Stock Futures มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย 600 สัญญาต่อวันเพิ่มจากปีก่อนหน้าถึง 3 เท่า นอกจากนี้ TFEX ยังได้รับสมาชิกผู้ค้าทองจำนวน 5 ราย เพื่อเป็นการสนับสนุนการซื้อขาย Gold Futures ให้ผู้ลงทุนมีช่องทางการซื้อขายครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
โบรกเกอร์อนุพันธ์ที่มีปริมาณการซื้อขายปี 52 สูงสุด 5 ลำดับแรก มีปริมาณการซื้อขายรวมกันถึง 43.05% ของปริมาณการซื้อขายรวมทั้งหมด ได้แก่ บมจ. หลักทรัพย์ กิมเอ็ง ( ประเทศไทย ) 10.75% บมจ. หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) 9.8% บมจ. หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) 7.78% บล. ทรีนีตี้7.46 % และ บล. โกลเบล็ก 7.26 % ตามลำดับ
สำหรับปี 53 นี้ ตลาดอนุพันธ์จะให้ความสำคัญกับการเพิ่มสภาพคล่องของสินค้า โดยจะมีการจัดโครงการส่งเสริมการซื้อขายตลอดปี การผลักดันให้มีการปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศสามารถเข้ามาซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ได้โดยสะดวก การจัดให้มีการซื้อขา สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ย หรือ Interest Rate Futures เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันที่ถือครองตราสารหนี้ รวมถึงการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดให้มีการซื้อขายสินค้าใหม่ที่อ้างอิงกับสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน เป็นต้น
" TFEX เชื่อว่าการส่งเสริมสภาพคล่องในสินค้าเดิมและการจัดให้มีสินค้าใหม่เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุน จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของตลาดอนุพันธ์ คาดว่าปี 53 ปริมาณการซื้อขายใน TFEX น่าจะเติบโตได้อีก 15-20 % โดยตั้งเป้าว่าจะมีปริมาณการซื้อขายรวมประมาณ 15,000 สัญญาต่อวัน " นางเกศรากล่าวเสริม
สำหรับ ตลาดอนุพันธ์ประจำวันที่ 4 มกราคม 53 พบว่าปริมาณการซื้อขายรวมทั้งตลาดอนุพันธ์ 11,018 สัญญา โดย SET50 Index Futures มีปริมาณการซื้อขาย 7,232 สัญญา, Stock Futures 664 สัญญา SET50 Index Options 84 สัญญา และ Gold Futures 2,967 สัญญา
สำหรับการซื้อขายใน TFEX ในปี 52 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,334,318 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 5,589 ล้านบาทต่อวัน ในเชิงปริมาณการซื้อขายนั้น TFEX มีปริมาณการซื้อขายรวมทั้งหมด 3.075 ล้านสัญญา หรือเฉลี่ย 12,771 สัญญาต่อวัน เพิ่มขึ้นกว่า 44 % จากปลายปี 51 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 8,837 สัญญาต่อวัน โดยเป็นการซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ตประมาณ 21% สำหรับสินค้าที่มีการซื้อขายมากที่สุด คือ สัญญาล่วงหน้าที่อ้างอิงกับดัชนี SET50 (SET50 Index Futures) ซึ่งมีการซื้อขายคิดเป็น 84 % ของปริมาณการซื้อขายรวม ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 ธันวาคม 52 ตลาดอนุพันธ์มีสถานะคงค้างรวม 28,281 สัญญา และมีจำนวนบัญชีซื้อขายอนุพันธ์รวมทั้งสิ้น 29,647 บัญชี เพิ่มขึ้น 86.5% จากสิ้นปี 51
โดยปี 52 ที่ผ่านมา TFEX ได้จัดให้มีการซื้อขายสินค้าใหม่ 2 ประเภท ได้แก่ Gold Futures ซึ่งเริ่มซื้อขายในเดือนกุมภาพันธ์ และเพิ่มจำนวนหุ้นอ้างอิงของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับหุ้นสามัญรายตัว (Stock Futures) อีก 11 ตัว ในเดือนมิถุนายน โดยสินค้าทั้ง 2 ประเภทดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี สำหรับ Gold Futures มีปริมาณการซื้อขายโดยเฉลี่ยทั้งปี 1,397 สัญญาต่อวัน หรือประมาณ 10% ของปริมาณการซื้อขายรวมของทั้งตลาด TFEX ส่วน Stock Futures มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย 600 สัญญาต่อวันเพิ่มจากปีก่อนหน้าถึง 3 เท่า นอกจากนี้ TFEX ยังได้รับสมาชิกผู้ค้าทองจำนวน 5 ราย เพื่อเป็นการสนับสนุนการซื้อขาย Gold Futures ให้ผู้ลงทุนมีช่องทางการซื้อขายครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
โบรกเกอร์อนุพันธ์ที่มีปริมาณการซื้อขายปี 52 สูงสุด 5 ลำดับแรก มีปริมาณการซื้อขายรวมกันถึง 43.05% ของปริมาณการซื้อขายรวมทั้งหมด ได้แก่ บมจ. หลักทรัพย์ กิมเอ็ง ( ประเทศไทย ) 10.75% บมจ. หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) 9.8% บมจ. หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) 7.78% บล. ทรีนีตี้7.46 % และ บล. โกลเบล็ก 7.26 % ตามลำดับ
สำหรับปี 53 นี้ ตลาดอนุพันธ์จะให้ความสำคัญกับการเพิ่มสภาพคล่องของสินค้า โดยจะมีการจัดโครงการส่งเสริมการซื้อขายตลอดปี การผลักดันให้มีการปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศสามารถเข้ามาซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ได้โดยสะดวก การจัดให้มีการซื้อขา สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ย หรือ Interest Rate Futures เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันที่ถือครองตราสารหนี้ รวมถึงการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดให้มีการซื้อขายสินค้าใหม่ที่อ้างอิงกับสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน เป็นต้น
" TFEX เชื่อว่าการส่งเสริมสภาพคล่องในสินค้าเดิมและการจัดให้มีสินค้าใหม่เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุน จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของตลาดอนุพันธ์ คาดว่าปี 53 ปริมาณการซื้อขายใน TFEX น่าจะเติบโตได้อีก 15-20 % โดยตั้งเป้าว่าจะมีปริมาณการซื้อขายรวมประมาณ 15,000 สัญญาต่อวัน " นางเกศรากล่าวเสริม
สำหรับ ตลาดอนุพันธ์ประจำวันที่ 4 มกราคม 53 พบว่าปริมาณการซื้อขายรวมทั้งตลาดอนุพันธ์ 11,018 สัญญา โดย SET50 Index Futures มีปริมาณการซื้อขาย 7,232 สัญญา, Stock Futures 664 สัญญา SET50 Index Options 84 สัญญา และ Gold Futures 2,967 สัญญา