นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในปี 2552 มีเงินปันผลค้างอยู่ที่ บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ TSD เป็นเงิน 32.8 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 21,746 ราย โดยเพิ่มขึ้น 3.5% และ14 % ตามลำดับ เมื่อเทียบกับปี 2551 ที่มีเงินปันผลค้างอยู่ที่ TSD 31.7 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 19,049ราย โดยการที่มูลค่าเงินปันผลและจำนวนรายนักลงทุนเพิ่มขึ้นนั้นเนื่องจาก จำนวนนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น และนักลงทุนให้ข้อมูลที่ไม่ชัดเจนจึงทำให้เอกสารส่งเงินปันผลถูกตีกลับเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีเงินปันผลสะสมค้างอยู่ที่ TSD รวมทั้งหมดเป็นเงิน 134 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนผู้ถือหุ้น 79,347 ราย โดยเงินปันผลค้างอยู่ที่มีมูลค่าสูงสุด 1,573,956 บาท ต่ำสุดที่ 0.02 บาท โดยเงินปันผลค้างอยู่กับ TSD ยังเป็นมูลค่าที่สูงนั้นเนื่องจากเงินปันผลที่ได้รับต่อรายอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ผู้ถือหุ้นไม่ค่อยสนใจติดตามเงินในส่วนนี้ จากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯจะจัดโครงการจ่ายเงินปันผลผ่านบัญชีธนาคาร( อีดิวิเดนท์ ) แต่ผู้ถือหุ้นสมัครเข้าโครงการนี้มีสัดส่วนที่น้อยอยู่เพียง 60% เท่านั้น
สำหรับการที่นักลงทุนใช้บริการโอนเงินปันผลผ่านบัญชีธนาคารน้อยนั้น เนื่องจากมีข้อจำกัดในการทำรายการดังกล่าวได้ไม่เกิน 2 ล้านบาท หากเกินกว่านี้จะต้องจ่ายด้วยเช็ค หรืออาจต้องใช้บริการการโอนเงินสำหรับลูกค้ารายใหญ่ในมูลค่าที่สูงผ่านระบบอินเตอร์เน็ต (บาทเน็ต) แต่มีค่าธรรมเนียมในการใช้บริการสูงถึง 250 บาทต่อรายการ ซึ่งอาจเป็นภาระของผู้ลงทุน โดยตลาดหลักทรัพย์เองได้หยิบยกข้อจำกัดนี้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)แล้ว เพราะไม่เช่นนั้นการโอนเงินปันผลผ่านบัญชีธนาคารคงจะไม่สมบูรณ์
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีเงินปันผลสะสมค้างอยู่ที่ TSD รวมทั้งหมดเป็นเงิน 134 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนผู้ถือหุ้น 79,347 ราย โดยเงินปันผลค้างอยู่ที่มีมูลค่าสูงสุด 1,573,956 บาท ต่ำสุดที่ 0.02 บาท โดยเงินปันผลค้างอยู่กับ TSD ยังเป็นมูลค่าที่สูงนั้นเนื่องจากเงินปันผลที่ได้รับต่อรายอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ผู้ถือหุ้นไม่ค่อยสนใจติดตามเงินในส่วนนี้ จากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯจะจัดโครงการจ่ายเงินปันผลผ่านบัญชีธนาคาร( อีดิวิเดนท์ ) แต่ผู้ถือหุ้นสมัครเข้าโครงการนี้มีสัดส่วนที่น้อยอยู่เพียง 60% เท่านั้น
สำหรับการที่นักลงทุนใช้บริการโอนเงินปันผลผ่านบัญชีธนาคารน้อยนั้น เนื่องจากมีข้อจำกัดในการทำรายการดังกล่าวได้ไม่เกิน 2 ล้านบาท หากเกินกว่านี้จะต้องจ่ายด้วยเช็ค หรืออาจต้องใช้บริการการโอนเงินสำหรับลูกค้ารายใหญ่ในมูลค่าที่สูงผ่านระบบอินเตอร์เน็ต (บาทเน็ต) แต่มีค่าธรรมเนียมในการใช้บริการสูงถึง 250 บาทต่อรายการ ซึ่งอาจเป็นภาระของผู้ลงทุน โดยตลาดหลักทรัพย์เองได้หยิบยกข้อจำกัดนี้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)แล้ว เพราะไม่เช่นนั้นการโอนเงินปันผลผ่านบัญชีธนาคารคงจะไม่สมบูรณ์
