ASTVผู้จัดการรายวัน-“อลงกรณ์”สั่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าตรวจสอบจีจีเอฟมีต่างชาติเป็นนอมินีหรือไม่ หลังดีเอสไอตั้งข้อสงสัยทำสัญญาเช่าไซโลส่อทุจริต
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเข้าไปตรวจสอบบริษัท จีจีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด ว่ามีการกระทำความผิดภายใต้พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวหรือไม่ หลังจากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เข้ามาตรวจสอบพบว่าสัญญาที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ทำกับจีจีเอฟ มีความไม่โปร่งใส และอาจเป็นไปได้ว่าจีจีเอฟเป็นนอมินีของคนต่างชาติ
ทั้งนี้ แนวทางที่ขอให้ไปตรวจสอบ คือ ขอให้ดูว่าจีจีเอฟกระทำผิดกฎหมายคนต่างด้าวหรือไม่ โดยต้องตรวจสอบดูข้อเท็จจริง เพราะมีพฤติกรรมที่มีเหตุอันสงสัยว่าเข้าข่ายการเป็นนอมินี ซึ่งหากได้ข้อสรุปออกมา ก็จะรายงานให้นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สั่งการต่อไป
“ถ้าผลออกมาไม่เป็นนอมินี ก็ไม่ผิด แต่ถ้าเป็นนอมินี สัญญาที่อคส.ทำกับจีจีเอฟ ก็จะถือเป็นโมฆะ ส่วนจะลงโทษอย่างไรก็ว่าไปตามกฎหมาย”นายอลงกรณ์กล่าว
ก่อนหน้านี้ อคส.ได้เซ็นบันทึกข้อตกลง (MOU) กับจีจีเอฟ ซึ่งมีบริษัทแม่อยู่ที่มาเลเซีย ให้เป็นนายหน้าขายข้าวให้กับอคส. โดยอคส. จะได้ส่วนแบ่ง 2% จากการขายข้าว และยังได้เซ็นสัญญาเช่าไซโลระยะเวลา 30 ปี แต่เมื่อเกิดข้อสงสัยว่าอคส. ได้แต่งตั้งจีจีเอฟ ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นบริษัทคนไทยหรือไม่มาเป็นนายหน้าขายข้าว จึงได้มีการยกเลิก MOU ไปก่อนหน้านี้ แต่ไม่ยกเลิกสัญญาเช่าไซโล จนทำให้ดีเอสไอเข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้ และชี้ว่ามีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีความไม่โปร่งใส และเกิดการทุจริตขึ้น
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเข้าไปตรวจสอบบริษัท จีจีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด ว่ามีการกระทำความผิดภายใต้พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวหรือไม่ หลังจากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เข้ามาตรวจสอบพบว่าสัญญาที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ทำกับจีจีเอฟ มีความไม่โปร่งใส และอาจเป็นไปได้ว่าจีจีเอฟเป็นนอมินีของคนต่างชาติ
ทั้งนี้ แนวทางที่ขอให้ไปตรวจสอบ คือ ขอให้ดูว่าจีจีเอฟกระทำผิดกฎหมายคนต่างด้าวหรือไม่ โดยต้องตรวจสอบดูข้อเท็จจริง เพราะมีพฤติกรรมที่มีเหตุอันสงสัยว่าเข้าข่ายการเป็นนอมินี ซึ่งหากได้ข้อสรุปออกมา ก็จะรายงานให้นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สั่งการต่อไป
“ถ้าผลออกมาไม่เป็นนอมินี ก็ไม่ผิด แต่ถ้าเป็นนอมินี สัญญาที่อคส.ทำกับจีจีเอฟ ก็จะถือเป็นโมฆะ ส่วนจะลงโทษอย่างไรก็ว่าไปตามกฎหมาย”นายอลงกรณ์กล่าว
ก่อนหน้านี้ อคส.ได้เซ็นบันทึกข้อตกลง (MOU) กับจีจีเอฟ ซึ่งมีบริษัทแม่อยู่ที่มาเลเซีย ให้เป็นนายหน้าขายข้าวให้กับอคส. โดยอคส. จะได้ส่วนแบ่ง 2% จากการขายข้าว และยังได้เซ็นสัญญาเช่าไซโลระยะเวลา 30 ปี แต่เมื่อเกิดข้อสงสัยว่าอคส. ได้แต่งตั้งจีจีเอฟ ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นบริษัทคนไทยหรือไม่มาเป็นนายหน้าขายข้าว จึงได้มีการยกเลิก MOU ไปก่อนหน้านี้ แต่ไม่ยกเลิกสัญญาเช่าไซโล จนทำให้ดีเอสไอเข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้ และชี้ว่ามีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีความไม่โปร่งใส และเกิดการทุจริตขึ้น