นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพซ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เปิดเผยถึงโครงการขนาดใหญ่ภายใต้ชื่อ "มหานคร" มูลค่าโครงการในเบื้องต้น18,000ล้านบาท ว่า เป็นโครงการที่ถูกจับตามองกันเป็นอย่างมาก ด้วยรูปแบบโครงการที่โดดเด่นแห่งแรกแห่งเดียในเมืองไทย ตั้งอยู่บนทำเลที่เป็นแหล่งเศรษฐกิจที่สำคัญบนถนนสาทรและติดกับรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี ซึ่งในอนาคตบริเวณนี้จะกลายเป็นวอลสตรีทในกรุงเทพฯ เนื่องจากแถวๆสาทรมีอาคารสำนักงานเกือบ 50 ตึก มีพนักงานเข้ามาทำงานในแต่ละวัน 3-4 แสนคน
"ด้วยเครดิตที่ดีกับทางธนาคารกสิกรไทย ทำให้ได้รับสนับสนุนเงินกู้ในการจัดหาที่ดินแปลงนี้ มีเนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ และทางกสิกรไทยยังเป็นแกนนำหลักในการหาธนาคารร่วมในการปล่อยสินเชื่อโครงการมหานคร ทั้งนี้ หลักประกันทั้งหมดเป็นหลักประกันเดียวกัน "
สำหรับโครงการมหานคร จะมีรูปแบบผสมทั้งคอนโดมิเนียม 194 ห้อง ราคาขายเริ่มต้น 30 ล้านบาท ขนาดพื้นที่เริ่มตั้งแต่ 28 ตารางเมตร(ตร.ม.) เริ่มตั้งแต่ชั้น 23-72 จำนวน 50 ชั้น และที่พิเศษสุดจะเป็นชั้น 70-72 เพนท์เฮาส์ ที่ในแต่ละห้องจะสามารถเห็นทัศนีย์ภาพของกรุงเทพฯได้ 360 องศา ซึ่งราคานำเสนอจะสูงยูนิตละ 250 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ใช้สอยมากถึง 1,800 ตร.ม. (ประมาณครึ่งไร่ ) ส่วนของอาคารค้าปลีกติดถนน และโรงแรมจำนวน 150 ห้อง
" ห้องชั้นบนสุดมีชาวต่างชาติได้ซื้อไปแล้วจำนวน 2 ห้อง เพราะเค้ามองอนาคต และเป็นโครงการเดียวที่มีอยู่ในตอนนี้ ซึ่งราคาที่เรานำเสนอขายในตอนนี้เป็นราคาเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ราคาเท่ากับโครงการสุโขทัย เรสซิเด้นท์ และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2553 จะเริ่มเปิดขายจริง ราคาต่อตารางเมตรจะมีการปรับขึ้นไปอีก ที่สำคัญโครงการมหานครมีคู่แข่งน้อยมากๆ ทำให้มั่นใจว่าจะเป็นโครงการที่ลูกค้าตอบรับอย่างเต็มที่ ซึ่งตามแผนการก่อสร้างจะเริ่มประมาณปลายไตรมาสแรกปี 2553 โดยขณะนี้ได้เรื่องสิ่งแวดล้อม(EIA) ได้ผ่านเรียบร้อย ซึ่งการก่อสร้างจะอาศัย 39 ทวิดำเนินการ " นายสรพจน์กล่าวและว่า ทางบริษัทฯต้องเตรียมแผนเพื่อรองรับโครงการดังกล่าว ดังนั้นจะมีการเพิ่มเงินลงทุนอีก 1,000 ล้านบาท จากเงินลงทุนเบื้องต้น 2,150 ล้านบาท การเพิ่มทุนครั้งนี้ จะช่วยให้ทางโครงการประหยัดดอกเบี้ยไปได้เยอะมากๆ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฯกล่าวว่า ประเด็นการลงทุนโครงการเพิ่มในอนาคตนั้น เราคงต้องพิจารณาโครงการมหานครก่อน เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่มากๆ ซึ่งช่วง4 ปีที่ผ่านมา ทางกลุ่มมีการลงทุนพัฒนาโครงการมาเพียง 2 โครงการ และในอนาคตประมาณ 4 ปีข้างหน้า จะมีการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่เพิ่ม2 โครงการ
" ในเรื่องของการทำโครงการนี้ คุณแม่เป็นที่ปรึกษาให้ผมด้วย ซึ่งตลอดเวลา ก็ได้ปรึกษากับคุณแม่ตลอด และท่านยังช่วยขายห้องพักให้ด้วย และโดยส่วนตัวแล้ว ในแต่ละโครงการที่ได้ลงทุนพัฒนาโครงการไป จะเก็บไว้ โครงการมหานคร ก็เก็บไว้เหมือนกันประมาณ 3-4 ยูนิต เพราะแต่ละโครงการจะอยู่ในทำเลที่เด่นและหาได้ยากอีก "นายสรพจน์กล่าว
"ด้วยเครดิตที่ดีกับทางธนาคารกสิกรไทย ทำให้ได้รับสนับสนุนเงินกู้ในการจัดหาที่ดินแปลงนี้ มีเนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ และทางกสิกรไทยยังเป็นแกนนำหลักในการหาธนาคารร่วมในการปล่อยสินเชื่อโครงการมหานคร ทั้งนี้ หลักประกันทั้งหมดเป็นหลักประกันเดียวกัน "
สำหรับโครงการมหานคร จะมีรูปแบบผสมทั้งคอนโดมิเนียม 194 ห้อง ราคาขายเริ่มต้น 30 ล้านบาท ขนาดพื้นที่เริ่มตั้งแต่ 28 ตารางเมตร(ตร.ม.) เริ่มตั้งแต่ชั้น 23-72 จำนวน 50 ชั้น และที่พิเศษสุดจะเป็นชั้น 70-72 เพนท์เฮาส์ ที่ในแต่ละห้องจะสามารถเห็นทัศนีย์ภาพของกรุงเทพฯได้ 360 องศา ซึ่งราคานำเสนอจะสูงยูนิตละ 250 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ใช้สอยมากถึง 1,800 ตร.ม. (ประมาณครึ่งไร่ ) ส่วนของอาคารค้าปลีกติดถนน และโรงแรมจำนวน 150 ห้อง
" ห้องชั้นบนสุดมีชาวต่างชาติได้ซื้อไปแล้วจำนวน 2 ห้อง เพราะเค้ามองอนาคต และเป็นโครงการเดียวที่มีอยู่ในตอนนี้ ซึ่งราคาที่เรานำเสนอขายในตอนนี้เป็นราคาเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ราคาเท่ากับโครงการสุโขทัย เรสซิเด้นท์ และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2553 จะเริ่มเปิดขายจริง ราคาต่อตารางเมตรจะมีการปรับขึ้นไปอีก ที่สำคัญโครงการมหานครมีคู่แข่งน้อยมากๆ ทำให้มั่นใจว่าจะเป็นโครงการที่ลูกค้าตอบรับอย่างเต็มที่ ซึ่งตามแผนการก่อสร้างจะเริ่มประมาณปลายไตรมาสแรกปี 2553 โดยขณะนี้ได้เรื่องสิ่งแวดล้อม(EIA) ได้ผ่านเรียบร้อย ซึ่งการก่อสร้างจะอาศัย 39 ทวิดำเนินการ " นายสรพจน์กล่าวและว่า ทางบริษัทฯต้องเตรียมแผนเพื่อรองรับโครงการดังกล่าว ดังนั้นจะมีการเพิ่มเงินลงทุนอีก 1,000 ล้านบาท จากเงินลงทุนเบื้องต้น 2,150 ล้านบาท การเพิ่มทุนครั้งนี้ จะช่วยให้ทางโครงการประหยัดดอกเบี้ยไปได้เยอะมากๆ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฯกล่าวว่า ประเด็นการลงทุนโครงการเพิ่มในอนาคตนั้น เราคงต้องพิจารณาโครงการมหานครก่อน เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่มากๆ ซึ่งช่วง4 ปีที่ผ่านมา ทางกลุ่มมีการลงทุนพัฒนาโครงการมาเพียง 2 โครงการ และในอนาคตประมาณ 4 ปีข้างหน้า จะมีการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่เพิ่ม2 โครงการ
" ในเรื่องของการทำโครงการนี้ คุณแม่เป็นที่ปรึกษาให้ผมด้วย ซึ่งตลอดเวลา ก็ได้ปรึกษากับคุณแม่ตลอด และท่านยังช่วยขายห้องพักให้ด้วย และโดยส่วนตัวแล้ว ในแต่ละโครงการที่ได้ลงทุนพัฒนาโครงการไป จะเก็บไว้ โครงการมหานคร ก็เก็บไว้เหมือนกันประมาณ 3-4 ยูนิต เพราะแต่ละโครงการจะอยู่ในทำเลที่เด่นและหาได้ยากอีก "นายสรพจน์กล่าว