เอเจนซี – นายกรัฐมนตรียูกิโอะ ฮาโตยามะแห่งญี่ปุ่นกล่าวในวันพฤหัสบดี (24) ว่าเขาจะไม่ลาออก หลังจากอดีตผู้ช่วยใกล้ชิด 2 คนของเขา ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าเจตนาบันทึกข้อมูลอันเป็นเท็จในเรื่องการระดมทุนทางการเมือง อย่างไรก็ดี คาดกันว่ากรณีนี้จะทำให้คะแนนสนับสนุนรัฐบาลของเขายิ่งหดหาย
อันที่จริง สาธารณชนรับทราบกรณีอื้อฉาวนี้มาหลายเดือนแล้ว แต่การที่คะแนนนิยมของฮาโตยามะดิ่งลงมาต่ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์จากระดับ 70 เปอร์เซ็นต์ในช่วงแรกที่เข้ารับตำแหน่ง ทำให้โอกาสที่พรรคเดโมเครติก ปาร์ตี้ ออฟ แจแปน (ดีพีเจ) ของเขาจะมีชัยชนะในการเลือกตั้งวุฒิสภาช่วงกลางปีหน้าเพื่อกุมเสียงเด็ดขาดในรัฐสภา พลอยริบหรี่ลงตามไปด้วย
ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นระบุว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่พอใจกับคำอธิบายของฮาโตยามะในเรื่องเงินบริจาคที่ไม่ได้รายงานต่อทางการ แต่ก็ไม่ถึงกับเรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่งเพราะเรื่องดังกล่าว
สื่อมวลชนรายงานว่า กรณีที่ผู้ช่วยฮาโตยามะรับเงินบริจาคทางการเมือง โดยไม่ได้บันทึกข้อมูลให้ถูกต้องคราวนี้ ไม่ได้มีข้อต้องสงสัยว่าเป็นการรับสินบน เพราะเงินบริจาคดังกล่าวที่มีจำนวนมากกว่า 3.28 ล้านดอลลาร์ เป็นการโอนมาจากทรัพย์สินของครอบครัวฮาโตยามะเอง ส่วนฮาโตยามะกล่าวว่าเขายินดีจะชำระภาษีให้ครบถ้าหากว่าเงินที่เขาได้รับจากมารดานี้จะต้องเสียภาษีด้วย
“เนื่องจากนี่ไม่ใช่กรณีคอร์รัปชั่น แต่การรับมือกับเรื่องนี้ของฮาโตยามาก็จะเป็นการทดสอบครั้งสำคัญในขณะที่มีคนสงสัยกันมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะผู้นำของเขา รวมทั้งความสามารถในการตัดสินใจ และทักษะในการบริหารวิกฤตการณ์” สึเนโอะ วาทานาเบ นักวิจัยอาวุโสแห่งมูลนิธิโตเกียวกล่าว
อันที่จริง สาธารณชนรับทราบกรณีอื้อฉาวนี้มาหลายเดือนแล้ว แต่การที่คะแนนนิยมของฮาโตยามะดิ่งลงมาต่ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์จากระดับ 70 เปอร์เซ็นต์ในช่วงแรกที่เข้ารับตำแหน่ง ทำให้โอกาสที่พรรคเดโมเครติก ปาร์ตี้ ออฟ แจแปน (ดีพีเจ) ของเขาจะมีชัยชนะในการเลือกตั้งวุฒิสภาช่วงกลางปีหน้าเพื่อกุมเสียงเด็ดขาดในรัฐสภา พลอยริบหรี่ลงตามไปด้วย
ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นระบุว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่พอใจกับคำอธิบายของฮาโตยามะในเรื่องเงินบริจาคที่ไม่ได้รายงานต่อทางการ แต่ก็ไม่ถึงกับเรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่งเพราะเรื่องดังกล่าว
สื่อมวลชนรายงานว่า กรณีที่ผู้ช่วยฮาโตยามะรับเงินบริจาคทางการเมือง โดยไม่ได้บันทึกข้อมูลให้ถูกต้องคราวนี้ ไม่ได้มีข้อต้องสงสัยว่าเป็นการรับสินบน เพราะเงินบริจาคดังกล่าวที่มีจำนวนมากกว่า 3.28 ล้านดอลลาร์ เป็นการโอนมาจากทรัพย์สินของครอบครัวฮาโตยามะเอง ส่วนฮาโตยามะกล่าวว่าเขายินดีจะชำระภาษีให้ครบถ้าหากว่าเงินที่เขาได้รับจากมารดานี้จะต้องเสียภาษีด้วย
“เนื่องจากนี่ไม่ใช่กรณีคอร์รัปชั่น แต่การรับมือกับเรื่องนี้ของฮาโตยามาก็จะเป็นการทดสอบครั้งสำคัญในขณะที่มีคนสงสัยกันมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะผู้นำของเขา รวมทั้งความสามารถในการตัดสินใจ และทักษะในการบริหารวิกฤตการณ์” สึเนโอะ วาทานาเบ นักวิจัยอาวุโสแห่งมูลนิธิโตเกียวกล่าว