นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ตั้งฉายาให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่า เปรียบเสมือนเป็นนายกรักษาการ เพราะถูกตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับภาวะผู้นำมาตลอด
นอกจากนี้ ยังได้ตั้งฉายาให้รัฐบาลที่มีปัญหาการทุจริต และรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ เพื่อสะท้อนการทำงานในรอบ 1 ปี
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวอีกว่า พรรคได้รับเรื่องร้องเรียนทุจริต เรื่องไม่โปร่งใสของรัฐบาล และหน่วยงานต่างๆ รวมถึงความเดือดร้อนของประชาชน รวมกว่า 10,000 เรื่อง ซึ่งได้ตรวจสอบและดำเนินการไปแล้วประมาณ 7,000 เรื่อง พร้อมแสดงความกังวลเกี่ยวกับกรณีที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก และ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย ส่งสัญญาณให้กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.นัดชุมนุมใหญ่อย่างยืดเยื้อ หลังวันที่ 14 กุมภาพันธ์ปีหน้า เพื่อขับไล่รัฐบาลทุกวิถีทาง โดยมองว่าการชุมนุมในช่วงนั้นอาจเกิดเหตุวุ่นวายและนำไปสู่ความรุนแรง
นายแพทย์บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ไม่เห็นด้วยที่กลุ่ม นปช.จะนำกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.พิจารณาคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาท ของพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นข้ออ้างในการเคลื่อนไหว เพราะถือเป็นการแทรกแซง และกดดันการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระ ซึ่งพรรคขอยืนยันว่า ไม่เคยใช้อำนาจรัฐหรือความสัมพันธ์ส่วนตัวแทรกแซงการทำงานของ กกต.
นอกจากนี้ ยังได้ตั้งฉายาให้รัฐบาลที่มีปัญหาการทุจริต และรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ เพื่อสะท้อนการทำงานในรอบ 1 ปี
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวอีกว่า พรรคได้รับเรื่องร้องเรียนทุจริต เรื่องไม่โปร่งใสของรัฐบาล และหน่วยงานต่างๆ รวมถึงความเดือดร้อนของประชาชน รวมกว่า 10,000 เรื่อง ซึ่งได้ตรวจสอบและดำเนินการไปแล้วประมาณ 7,000 เรื่อง พร้อมแสดงความกังวลเกี่ยวกับกรณีที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก และ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย ส่งสัญญาณให้กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.นัดชุมนุมใหญ่อย่างยืดเยื้อ หลังวันที่ 14 กุมภาพันธ์ปีหน้า เพื่อขับไล่รัฐบาลทุกวิถีทาง โดยมองว่าการชุมนุมในช่วงนั้นอาจเกิดเหตุวุ่นวายและนำไปสู่ความรุนแรง
นายแพทย์บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ไม่เห็นด้วยที่กลุ่ม นปช.จะนำกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.พิจารณาคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาท ของพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นข้ออ้างในการเคลื่อนไหว เพราะถือเป็นการแทรกแซง และกดดันการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระ ซึ่งพรรคขอยืนยันว่า ไม่เคยใช้อำนาจรัฐหรือความสัมพันธ์ส่วนตัวแทรกแซงการทำงานของ กกต.