xs
xsm
sm
md
lg

คุก 15 ปี"พ.ต.ท.ครรชิต"คดีลักเบนซ์เสี่ยติงนัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-“พ.ต.ท.ครรชิต แตงจุ้ย”อดีตรอง ผกก.จร. สน.บางรัก ติดคุกอีก 15 ปี 6 เดือน ฐานฉ้อโกงลักเบนซ์ “เสี่ยติงนัง”ไปขายเต็นท์ พร้อมสั่งให้นับโทษต่อคดีปลอมเอกสารอีก 3 ปี

วานนี้(25 ธ.ค.)ที่ศาลอาญา ศาลมีคำพิพากษาคดีที่ พ.ต.ท.ครรชิต แตงจุ้ย อดีตรอง ผกก.จร. สน.บางรัก เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกัน, เอาไปเสียซึ่งเอกสาร, ปลอมและใช้ตั๋วเงินปลอม, ปลอมและใช้เอกสารปลอม, ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จฯ ,ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และข้อหาอื่นรวม 14 ข้อหา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137,188,264,265 266,267,268,335,341,342 พระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน และกระทำผิด พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชนพ.ศ. 2526 มาตรา 14

คดีนี้อัยการฟ้องเมื่อวันที่ 21 พ.ย.50 ระบุว่า ระหว่างวันที่ 29 - 30 มิ.ย.42 จำเลยกับพวก ร่วมกันลักทรัพย์รถยนต์ เบนซ์ ทะเบียน พฮ – 9895 กรุงเทพมหานคร ราคา1,470,000 บาท และแคชเชียร์เช็คธนาคารศรีนคร จำกัด(มหาชน) สาขาสมุทรปราการ จำนวนเงิน 1.6 ล้านบาท กับแคชเชียร์เช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) สาขาถนนนางลิ้นจี่ จำนวนเงิน 500,000 บาท รวมมูลค่า 2.1 ล้านบาท ของนายชัยรัตน์ รุ่งเรือง พนักงานต้อนรับชาย ( สจ๊วต) สายการบินลุฟต์ฮันซ่า ผู้เสียหาย โดยจำเลยกับพวก ยังได้ร่วมกันปลอมตั๋วเงิน ซึ่งร่วมกันเขียนปลอมลายมือชื่อนายชัยรัตน์ ผู้เสียหาย ลงในด้านหลังแคชเชียร์เช็ค ธ.ศรีนคร และ ธ.กรุงศรีอยุธยา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ธนาคารหลงเชื่อว่าแคชเชียร์เช็คทั้งสองฉบับดังกล่าว เป็นตั๋วเงินที่แท้จริง และจำเลยกับพวกได้ร่วมกันนำตั๋วเงินแคชเชียร์เช็ค ไปเรียกเก็บเงินต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาถนนจันทร์ นอกจากนี้จำเลยกับพวก ยังร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จกับ ร.ต.อ.ประเสริฐ โตศักดิ์สิทธิ์ พนักงานสอบสวน สน.บางรัก เกี่ยวกับคดี รวมทั้งร่วมกันปลอมลายมือชื่อในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของนายชัยรัตน์ ผู้เสียหาย ในเอกสารหนังสือมอบอำนาจ เพื่อให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่าสำเนาเอกสารนั้นถูกต้อง เหตุเกิดที่แขวงสี่พระยา เขตบางรัก และที่แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่าที่จำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ก็เป็นเพียงการเบิกความลอยๆ ไม่มีน้ำหนักให้รับฟังและไม่สามารถหักล้างพยานโจทก์ได้

จึงพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188, 264-268 ,342 ประกอบมาตรา 83และ 84 และ พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชนฯ ซึ่งการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมผิดกฎหมายหลายบท ให้เรียงกระทงลงโทษทุกกระทงความผิด รวมจำคุกจำเลย 15 ปี 6 เดือนและให้ชดใช้เงิน 102,150 บาท แก่ผู้เสียหายและให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.2518/2551ซึ่งศาลมีคำพิพากษา ให้จำคุก 3 ปีฐานใช้เอกสารปลอมตามมาตรา 268 ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับ พ.ต.ท.ครรชิต ได้ถูกพนักงานอัยการฟ้องในข้อหาปลอมลายมือชื่อบุคคลอื่นและใช้เอกสารปลอมอีก 2 คดี คือ คดีหมายเลขดำที่ อ.4482/2551 ที่ พ.ต.ท.ครรชิต ปลอมลายมือชื่อนางทัศนีย์ พรรณพานิช ผู้เสียหายและนำรถยนต์ฮอนด้าแจ๊ส มูลค่า 6.2 แสนบาทไป เหตุเกิดเมื่อเดือน พ.ย.2550 ซึ่งศาลพิพากษาจำคุก 2 ปีและคดีหมายเลขดำที่ อ.1816/2552 ที่ พ.ต.ท.ครรชิต ปลอมลายมือชื่อและใช้บัตรประจำตัวประชาชนปลอมของนายสุริยะ วิริยะสวัสดิ์ และนางมยุรี วงศ์สามี ผู้เสียหายเพื่อเบิกสมุดเช็คธนาคารไทยพาณิชย์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ก.ค.-11 ต.ค.2550 ซึ่งศาลพิพากษาจำคุก 9 เดือน

ส่วนนายชัยรัตน์ สจ๊วตหนุ่ม หรือที่เรียกกัน “เสี่ยติงนัง ” นั้นหายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่ปี 2542 โดยพบว่ามีผู้นำรถเบนซ์ไปขายที่เต็นท์รถมือสองย่านรัชดาภิเษก ต่อมาเจ้าน้าที่ตำรวจจึงได้ออกหมายจับ พ.ต.ท.ครรชิต , จ.ส.ต.ประเสริฐ สุทธิศักดิ์ และส.ต.อ.ยุทธนา เติมภักดี อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.บางรัก ในข้อหาปลอมเอกสารที่นำรถเบนซ์ไปขาย ขณะที่จนถึงวันนี้ยังไม่มีการยืนยันว่านายชัยรัตน์ เสียชีวิตแล้วหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น