xs
xsm
sm
md
lg

รุมอัดสิงห์เละ สธ.ลุยต่อมั่นใจ คำฟ้องไร้ผล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-“วิทยา”กำชับ“หมอสมาน”เดินหน้าคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามข้อกฎหมาย ด้าน“หมอประเวศ”จวกภาคธุรกิจอย่าเห็นแต่กำไร ส่วน“หมอสมาน"เผยไม่หนักใจ สู้ไม่ถอย นักวิชาการ-นักกฎหมายประสานเสียงสิงห์ฯฟ้องไม่เป็นผล ภาคีเครือข่ายงดเหล้าตบเท้าให้กำลังใจ "หมอสมาน"

นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ฟ้อง น.พ.สมาน ฟูตระกูล ผอ.สำนักงานควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค ที่ออกหนังสือเวียนแจ้งสื่อโทรทัศน์ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการประชาสัมพันธ์นั้น นายวิทยากล่าวว่า ได้สอบถาม นพ.สมานและได้รับการยืนยันว่าเป็นการดำเนินการตามข้อกฎหมาย จึงกำชับให้ดำเนินการโดยคำนึงถึงข้อกฎหมายและหลักความเป็นจริง ซึ่ง นพ.สมานเป็นเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่แต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรี ความเห็นของน.พ.สมานเป็นความเห็นเบื้องต้น ในฐานะที่เป็นเจ้าพนักงานที่รับผิดชอบดูแลในเรื่องนี้ ขอยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) พร้อมดูแลข้าราชการที่ตั้งใจทำงานและปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้อง

**“หมอประเวศ”จี้ สธ.ดูแล“หมอสมาน”

ด้าน ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวว่า จากการประชุมมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ พบตัวเลขคนไทยตายจากอุบัติเหตุจราจรประมาณ 12,000 คนต่อปี บาดเจ็บกว่าล้านคนต่อปี รวมถึงมียอดความเสียหายรวมกว่า 2.5 แสนล้านบาท ทั้งนี้ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สำหรับกรณีปฏิทินลีโอนั้น พบว่ามีความขัดแย้งกันอยู่ คือในภาคธุรกิจ ที่หวังแต่ยอดขาย กำไร สิ่งไหนที่จะเป็นการส่งเสริมการขายได้ก็อยากจะทำ ส่วนด้านหนึ่งคือคนที่พยายามป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา หาแนวทางป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการดื่มแอลกอฮอล์ ที่ทำงานกันเป็นปีๆ

ในส่วนของ นพ.สมาน เป็นคนดี มีความตั้งใจในการทำงาน และที่โดนภาคธุรกิจฟ้องนั้น ก็ต้องเข้าใจว่าผู้ที่ทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ทำเพื่อส่วนร่วมนั้น อาจต้องเสี่ยงกับการถูกฟ้อง ถูกดำเนินคดีโดยภาคธุรกิจ จึงอยากให้กำลังใจว่าเป็นเรื่องธรรมดาของการทำงานเพื่อสังคม ภาคธุรกิจมีพลังมาก ในหลักการหากใครทำอะไรให้เขาได้ประโยชน์ก็จะยินดี แต่หากใครทำให้เสียผลประโยชน์ก็จะจัดการ หากหวังแต่เอากำไรเป็นตัวตั้งก็จะเกิดแต่วิกฤต ทุกวันนี้ภาคธุรกิจยังไม่รู้ตัวว่าภาคสังคมเริ่มตื่นตัว มีพลังมากขึ้น

“ที่ผ่านมาภาคการเมืองจะเข้าข้างภาคธุรกิจ เพราะอาจมีแรงจูงใจมากกว่า ให้ผลประโยชน์มากกว่า ดังนั้นภาคประชาชนต้องแข็งแรง ไม่งั้นจะไม่สามารถหยุดยั้งเรื่องไม่ดีได้ ในส่วนของ สธ.ก็ควรเข้าใจทั้งฝ่ายการเมือง และ ข้าราชการ ด้วยว่าในอนาคตการที่จะทำอะไรแบบไม่ชอบธรรมจะไปต่อได้ยาก ต้องตั้งใจทำสิ่งที่ถูกต้องเมื่อมีข้าราชการดีๆ ช่วยทำงานก็ต้องสนับสนุน ดังนั้น สธ.ต้องช่วยตั้งทนาย ช่วยเหลือค่าใช้จ่าย อะไรที่ช่วยได้ก็ให้ช่วยอย่าปล่อยให้เขาเดียวดาย” ศ.นพ.ประเวศ กล่าว

**"หมอสมาน”ฟุ้ง “วิทยา”หนุนทำงานเต็มที่

ขณะที่ นพ.สมาน กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจที่ถูกบริษัท สิงห์ฯ ฟ้องร้อง และยืนยันว่าได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องตามอำนาจของเจ้าพนักงานสาธารณสุขตามที่ได้รับแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ใช้อำนาจนอกเหนือจากที่พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กำหนดแต่อย่างใด

นพ.สมาน กล่าวอีกว่าว่า พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.2551 โดยไม่มีบทเฉพาะกาล ดังนั้น ทุกมาตราสามารถบังคับใช้ได้ทันทีตั้งแต่วันเวลาดังกล่าว ซึ่งประกาศสำนักงานฯ ที่แจ้งเวียนไปนั้น เป็นการสรุปตามมติของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่แต่งตั้งโดยคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อเป็นแนวปฏิบัติให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ในการดำเนินคดีตามกฎหมายให้เป็นไปในแนวเดียวกัน ดังนั้นผู้เกี่ยวข้องจะต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างเคร่งครัด ห้ามฝ่าฝืนกฎหมายอย่างเด็ดขาด

นพ.สมาน กล่าวว่า ส่วนที่ระบุว่า ตนเลือกปฏิบัติเฉพาะบริษัท สิงห์ฯ เท่านั้น ไม่เป็นความจริง ยืนยันว่า สธ. จะดำเนินการกับทุกบริษัทที่ทำผิดกฎหมาย แต่เนื่องจากบริษัท สิงห์ฯ ทำผิดกฎหมายจำนวนมาก จึงถูกแจ้งความดำเนินคดีมากกว่าบริษัทอื่น ซึ่งตนมีกำลังใจดีมากจากทั้ง รมว. และ รมช.สธ.โดยเฉพาะนายวิทยาที่บอกให้ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบในฐานะเจ้าพนักงานที่จะดำเนินการเอาผิดกับผู้ฝ่าฝืนกฎหมายได้ รวมถึงได้หารือกับที่ปรึกษาทางกฎหมาย โดยให้ความเห็นว่า ไม่น่าเป็นห่วง สามารถชี้แจ้งต่อศาลปกครองตามข้อเท็จจริงได้ทุกประการ

**มั่นใจ“สิงห์”ฟ้องไม่เป็นผล

ศ.นพ.วิฑูรย์ อึ้งประพันธ์ ประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 และคณะกรรมการยกร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า ที่ปรึกษาทางกฎหมายได้พิจารณาแล้วว่า กระบวนการฟ้องร้องศาลปกครองของบริษัท สิงห์ฯ ไม่น่าเป็นห่วง เพราะ นพ.สมาน ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีอำนาจเทียบเท่าเจ้าพนักงานสาธารณสุขตามที่ได้รับแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรี โดยหน้าที่ในการดำเนินการในการแจ้งความดำเนินคดี ร้องทุกข์กล่าวโทษกับทุกบริษัทที่ดำเนินการฝ่าฝืนพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

**แพทย์ชนบทออกโรงป้อง

นพ.พงษ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ เลขาธิการมูลนิธิแพทย์ชนบท กล่าวว่า กรณีดังกล่าวถือว่า บริษัท สิงห์ ทำเกินกว่าเหตุ เพราะที่ผ่านมา นพ.สมาน ถือว่าปฏิบัติตามกระบวนการกฎหมายทุกประการไม่ได้เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ และมั่นใจว่าหากนพ.สมาน ถูกฟ้องร้อง ศาลก็จะให้ความเป็นธรรม และมูลนิธิแพทย์ชนบท ยินดีที่จะเข้าให้ปากคำต่อศาล เนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมากที่แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการหลายรายมีการกระทำผิด และแพทย์ชนบทฯ จะเคลื่อนไหว โดยจะชักชวนให้โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง พูดคุยทำความเข้าใจกับร้านค้าในพื้นที่ ให้ปลดป้ายโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นการกระทำผิดกฎหมายลง เ

**เครือข่ายตบเท้าให้กำลังใจ“นพ.สมาน”

นายสงกรานต์ ภาคโชคดี ผอ.สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (ศคล.) กล่าวว่า ในวันที่ 25 ธ.ค.เครือข่ายภาคีงดเหล้า อาทิ เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ มูลนิธิเพื่อนหญิง ฯลฯ จะเดินทางไปให้กำลังใจ นพ.สมาน ซึ่งไม่ได้ทำผิดอะไร การทำหน้าที่ของ นพ.สมานเป็นไปตามกฎหมาย หากบริษัทฯ คิดว่า กระกระทำของตนเองไม่ผิดก็ควรไปต่อสู้ในชั้นศาลไม่ใช่มาฟ้องร้องผู้ที่ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งตนอยากรู้เช่นกันว่า จะสามารถอธิบายให้สังคมเข้าใจได้อย่างไร ว่าปฏิทินวาบหวิวที่ทำขึ้นช่วยสร้างสรรค์สังคมและไม่ได้เป็นการจูงใจให้มีการซื้อเหล้าและเบียร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2552 เวลา 10.30 น. นพ.อำพล จินดาวัฒนะ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 1 ในผู้ร่วมผลักดัน พ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 จะเดินทางเข้าให้กำลังใจ นพ.สมานด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น