ญาติผู้ต้องหาถูก ตร.ภูเก็ตวิสามัญฯ แบกศพประท้วงขอความเป็นธรรม ผวจ.

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ญาติผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ถูกตำรวจวิสามัญฯ แบกศพประท้วงขอความเป็นธรรมผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตระบุตำรวจทำเกิดกว่าเหตุ เชื่อไม่น่าจะเป็นกายิงต่อสู้

วันนี้ (25 พ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ญาติของนายองอาจ รอดประดิษฐ์ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองภูเก็ตวิสามัญฆาตกรรมเสียชีวิตที่บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา นำโดยนายวิชิต รอดประดิษฐ์ อายุ 55 ปี บิดา นายสุรัตน์ รอดประดิษฐ์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125/45 ม.ร็อคการ์เด้น ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยบุตรชายของผู้ต้องหาและญาติๆ จำนวนหนึ่งได้นำโลงบรรจุศพของนายองอาจขึ้นรถยนต์กระบะมาจอดบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต พร้อมป้ายข้อความต่างๆ เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมากนายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ระบุ เจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ รวมทั้งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย

โดย นายวิชิต รอดประดิษฐ์ อายุ 55 ปี บิดาผู้ตาย กล่าวว่า ครอบครัวยอมรับว่า นายองอาจ มีความผิดฐานลักทรัพย์จริง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจคงจะไม่ต้องถึงขั้นวิสามัญ เพราะเป็นคดีเล็กน้อย โดยส่วนตัวตนเชื่อว่า ลูกชายไม่ได้ยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่มีการเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ ก่อนหน้านี้ เพราะลูกชายไม่มีอาวุธปืน ประกอบอาชีพขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง

ทั้งนี้ หลังจากที่ตนได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.ของวันที่ 23 พฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมาว่า นายองอาจ เสียชีวิตแล้ว เนื่องจากถูกวิสามัญฯ โดยตำรวจ และทางตำรวจแจ้งว่า นายองอาจพร้อมเพื่อนขโมยพระพุทธรูป จึงเดินทางไปยังที่เกิดเหตุบริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 พบศพนายองอาจ จึงสอบถามเจ้าหน้าที่อีกครั้ง ก็ได้คำตอบว่า นายองอาจ ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ ขณะกำลังเข้าทำการจับกุม

แต่จากการสอบถามชาวบ้าน ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ และผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ ได้เล่าให้ตนฟังว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพานายองอาจ ไปทางด้านหลังร้านเช่าพระเครื่อง บริเวณติดกับบึงน้ำสวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ซึ่งไม่ทราบเหตุการณ์หลังจากนั้น จนมาทราบอีกครั้งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิสามัญคนร้ายบริเวณดังกล่าว


นายวิชิตกล่าวต่อไปด้วยว่า จากการตรวจสอบตามร่างกายของลูกชาย ช่วงที่เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลพบว่า มีรอยฟกช้ำหลายแห่ง ซึ่งตนเชื่อว่าลูกชายน่าจะถูกทำร้ายร่างกายด้วย และที่สำคัญรอยกระสุนที่พบบริเวณใต้รักแร้ขวา และบริเวณใต้ราวนมด้านซ้าย ทำให้ตนเชื่อว่าไม่น่าจะเกิดจากการยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะว่าลูกชายถนัดขวา หากขณะยกอาวุธปืนขึ้นยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่กระสุนปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยิงสวนมา ไม่น่าจะถูกบริเวณใต้รักแร้ขวาแล้วผ่านทะลุราวใต้นมด้านซ้ายจนตัดขั้วหัวใจได้แบบพอเหมาะพอดี แต่อาจจะเป็นการยิงจากใต้ราวนมด้านซ้ายมาทะลุใต้รักแร้ด้านขวา ในท่ายืนยกมือทั้ง 2 ข้าง หันหน้าเข้ากำแพงมากกว่า

และจากการสังเกตสภาพศพลูกชายในที่เกิดเหตุ ลักษณะมือทั้ง 2 แบออกโดยมีอาวุธปืนอยู่ในมือด้านขวา ซึ่งไม่เหมือนกับลักษณะอาการคนที่ยิงต่อสู้ที่ความเป็นจริงมือยังคงต้องกำอาวุธปืนแน่น และตนยังสังเกตเห็นรอยคราบเลือดบนกำแพง ที่ตนเชื่อว่าอาจจะเกิดจากการจ่อยิงในระยะเผาขนมากกว่า และตนไม่เชื่อว่าลูกชายจะแต่งกายเป็นตำรวจ และทหารตระเวนก่อเหตุอย่างที่ถูกระบุอย่างแน่นอน

ดังนั้น สิ่งที่ครอบครัวรอดประดิษฐ์จะร้องขอความเป็นธรรมจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต มีด้วยกัน 4 ข้อ คือ 1.ด้วยความเคารพอยากจะเรียนถามผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตว่า ถ้ามีโจรลักเล็กขโมยน้อยในลักษณะอย่างนี้ ตำรวจจะยิงทิ้งทั้งจังหวัดภูเก็ตหรือไม่ 2.ตำรวจเอาอะไรมาเป็นเกณฑ์ตัดสินที่ยิงชีวิตประชาชนทิ้ง 3.ถ้ามีตำรวจคิดตัดสินคดีด้วยวิธีแบบนี้แล้ว ศาลยุติธรรมที่ตั้งขึ้นมีไว้ทำไม และ 4.ด้วยความเคารพครอบครัวรอดประดิษฐ์ขอความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิตด้วย

ขณะที่ นายสุรัตน์ รอดประดิษฐ์ อายุ 43 ปี อาของผู้ตาย ระบุว่า ขอให้ทางจังหวัดประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจจากส่วนกลางลงมาติดตามสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น เพราะไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ และครอบครัวจะเก็บศพนายองอาจ ไว้ที่วัดโฆษิตวิหารไปเรื่อยๆ จนกว่าคดีจะสิ้นสุด ไม่ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ก็ตาม

จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้ลงมาพบกับทางครอบครัวของผู้ตาย พร้อมกับมอบเงินเป็นทุนการศึกษาให้กับ ด.ช.อนุพนธิ์ รอดประดิษฐ์ หรือน้องเบียร์ อายุ 12 ปี บุตรชายผู้ตาย ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี โดยบอกให้น้องเบียร์ ตั้งใจเรียน ส่วนเรื่องที่ครอบครัวรอดประดิษฐ์ ยื่นหนังสือให้นั้น ตนจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย สร้างความพอใจให้กับครอบครัวรอดประดิษฐ์ จึงพากันนำโลงศพเดินทางกลับในที่สุด

ทางด้าน พ.อ.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติตามหน้าที่ โดยยืนยันว่าสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมต้องยิงตอบโต้คนร้าย เนื่องจากถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ก่อนจำนวน 5 นัด และขณะนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าวตามขั้นตอนระเบียบแล้ว ส่วนผลการสืบสวนจะออกมาอย่างไรก็ให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้กระทำเกินกว่าเหตุแต่อย่างใด และขณะนี้ได้มีผู้เสียหายที่ถูกผู้ตายลักทรัพย์เดินทางมายืนยันของกลางแล้วเป็นจำนวนมาก