ASTVผู้จัดการรายวัน-“อลงกรณ์”ติวรัฐและเอกชน 76 จังหวัดรับมือการเปิดเสรีอาฟตาปีหน้า
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังประชุมผ่านการสื่อสารทางไกล (วิดีโอคอนเฟอเรนซ์) กับพาณิชย์จังหวัด หอการค้าจังหวัด และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ ว่า ได้ชี้แจงว่าตั้งแต่ 1 ม.ค.2553 การเปิดเสรีการค้าภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟตา) จะมีผลบังคับใช้ จึงอยากที่จะให้คนในต่างจังหวัดได้เตรียมความพร้อมในการใช้ประโยชน์ และหากมีผลกระทบ ก็ขอให้รวบรวมประเด็นปัญหาและข้อเสนอแนะ เพื่อส่งมายังกระทรวงพาณิชย์เพื่อหาทางเยียวยาแก้ไขต่อไป โดยกองทุนเพื่อการปรับตัวรองรับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า (กองทุนเอฟทีเอ) พร้อมให้การช่วยเหลือเต็มที่
นอกจากนี้ ยังขอให้ภาครัฐและภาคธุรกิจในต่างจังหวัด ได้เตรียมความพร้อมจากการที่อาเซียนจะก้าวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 ที่จะมีการเปิดเสรีด้านการค้า การลงทุน การเงิน และการเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมืออย่างเสรี เพราะอาเซียนจะกลายเป็นตลาดที่สำคัญของไทย
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังประชุมผ่านการสื่อสารทางไกล (วิดีโอคอนเฟอเรนซ์) กับพาณิชย์จังหวัด หอการค้าจังหวัด และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ ว่า ได้ชี้แจงว่าตั้งแต่ 1 ม.ค.2553 การเปิดเสรีการค้าภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟตา) จะมีผลบังคับใช้ จึงอยากที่จะให้คนในต่างจังหวัดได้เตรียมความพร้อมในการใช้ประโยชน์ และหากมีผลกระทบ ก็ขอให้รวบรวมประเด็นปัญหาและข้อเสนอแนะ เพื่อส่งมายังกระทรวงพาณิชย์เพื่อหาทางเยียวยาแก้ไขต่อไป โดยกองทุนเพื่อการปรับตัวรองรับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า (กองทุนเอฟทีเอ) พร้อมให้การช่วยเหลือเต็มที่
นอกจากนี้ ยังขอให้ภาครัฐและภาคธุรกิจในต่างจังหวัด ได้เตรียมความพร้อมจากการที่อาเซียนจะก้าวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 ที่จะมีการเปิดเสรีด้านการค้า การลงทุน การเงิน และการเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมืออย่างเสรี เพราะอาเซียนจะกลายเป็นตลาดที่สำคัญของไทย