เมื่อเวลา 12.30 น. วานนี้ (23 ธ.ค.) กลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 300 คน นำโดยนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง และนายสุพร อัตถาวงศ์ ได้มาชุมนุมที่บริเวณประตูทางเข้าศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานกกต. เพื่อเรียกร้องให้ นายอภิชาติ สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง และ กกต.ลงมาชี้แจงเหตุที่เลื่อนพิจารณาคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาท ของพรรคประชาธิปัตย์ และชี้แจงว่าเหตุใดต้องให้นายทะเบียนพรรคการเมือง เป็นผู้ทำความเห็นทั้งๆ ที่ได้ลงมติยกคำร้อง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บก.น.2 จำนวน 2 กองร้อย และหน่วยปราบจลาจล บก.ตปพ. หนึ่งกองร้อย มาตรึงกำลังทั้งด้านในและนอกอาคาร เพื่อดูแลความปลอดภัย อีกทั้งเตรียมแก๊สนำตาเผื่อไว้สำหรับกรณีที่ผู้ชุมนุมบุกเข้ามาภายในอาคาร
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมได้เรียกร้องให้ นายอภิชาต หรือกกต. คนอื่นลงมาชี้แจงด้วยตนเอง ขณะที่กกต.ก็ไม่ได้อยู่ภายในสำนักงานแล้ว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือให้เดินทางออกไปก่อนหน้านี้ เพื่อควมสะดวกในการรักษาความปลอดภัย ทำให้กกต. ต้องงดการประชุมในช่วงบ่าย แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังไม่ยอมเชื่อ และเรียกร้องให้กกต. ลงมาด้วยตัวเอง มิเช่นนั้นบุกเข้าไปในอาคาร พร้อมทั้งระบุว่า เคยบุกเข้าไปที่พัทยาเมื่อครั้งการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนมาแล้ว ทำไมจะบุเข้าไปในกกต.ไม่ได้ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่มีกกต.คนใดอยู่ ทางผู้ชุมนุมก็ระบุว่า หากไม่อยู่จริง ขอให้ กกต. คนใดคนหนึ่งโฟนอินเข้ามาชี้แจงก็ได้ และเพื่อให้แน่ใจว่ากกต.ไม่อยู่ในสำนักงานฯจริง ก็ขอจัดตัวแทนประมาณ 10 คน เข้าไปตรวจสอบ แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ยินยอม
ต่อมาสถานการณ์เริ่มตึงเครียด โดยผู้ชุมนุมได้บุกฝ่าแนวรั้วเหล็ก และแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาประชิดประตูทางเข้าอาคาร โดยมีการยื้อยุดฉุดกระชาก และปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงไปมากกว่านั้น
ขณะเดียวกันก็มีชายคนหนึ่ง พยายามที่จะถ่ายรูปกลุ่มผู้ชุมนุมทำให้ผู้ชุมนุมเกิดความไม่พอใจ และลุกฮือเข้าไปทำร้ายร่างกายชายคนดังกล่าว จนต้องหนีหัวซุกหัวซุน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะกันตัวออกนอกพื้นที่ โดยมีผู้ชุมนุมบางส่วนพยายามติดตามไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ไม่สามารถขอเข้าไปตรวจสอบภายในสำนักงาน ว่าไม่มีกกต.คนใดอยู่แล้ว ที่สุดกลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้นำโลงศพ ซึ่งมีชื่อของกกต. 4 คนเว้นแต่เพียง นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น มาวางที่หน้าสำนักงาน และปัสสาวะรดโลงดังกล่าว ก่อนที่จะจุดไฟเผา พร้อมทั้งจุดประทัดไล่
หลังจากนั้นนายอริสมันต์ได้ขึ้นปราศรัยว่า นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น หากกกต. ยัง 2 มาตรฐาน วันหน้าก็จะเจอของจริงและจะไปเผาบ้านกกต.ทั้ง 4 คน พร้อมทั้งบอกเลขที่บ้านของประธานกกต.ให้ผู้ชุมนุมทราบ
ด้านนายสุพร กล่าวว่าหลังจากผ่านพ้นช่วงเทศกาลปีใหม่ กลุ่มคนเสื้อแดงจะนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้ง วันที่ 11 ม.ค. 53 แต่ยังไม่เปิดเผยว่าจะชุมนุมที่ใด
**"เหลิม"ขู่ปธ.กกต.อยู่ไม่เป็นสุขแน่
เมื่อเวลา14.15 วันเดียวกันนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่กกต. มีมติมอบหมายให้นายทะเบียนพรรคการเมือง เป็นผู้ตัดสินคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ว่า กรณีที่นายอภิชาติ ระบุว่าจะไปทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง แต่คาดว่าจะตัดสินใจเหมือนเดิมนั้น ไม่รู้ว่านายอภิชาติ พูดได้อย่างไร หากเป็นอย่างนั้นนายอภิชาติ ตัดสินไปเลยจะดีกว่า ซึ่งหากปล่อยไปแบบนี้บ้านเมืองหายนะแน่ ดังนั้นพรรคเพื่อไทยไม่ยอมเด็ดขาด ต้องปะทะกันทางความคิด จะเวทีไหนก็ได้ ขอให้เลือกมาเลย
นอกจากนี้ ขอให้นายอภิชาติ กลับไปอ่านสำนวนให้ครบแล้วค่อยออกมาให้สัมภาษณ์ เพราะหลักฐานมันชัดเจนว่าผิดแน่นอน ความจริงกรณีนี้ในตอนที่รับเรื่องมาครั้งแรก หากนายทะเบียนพรรคการเมืองบอกว่าไม่ผิด ก็สั่งระงับไป เรื่องก็จบ แต่เมื่อรับเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของกกต. ก็เท่ากับว่ามีส่วนร่วมแล้ว จำเป็นต้องพิจารณาต่อ
" ขอย้ำว่าหากนายอภิชาติตัดสินว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีความผิด ผมจะเดินหน้าต่อไม่มีหยุดจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม จะเล่นไม่เลิก จะทำการฟ้องร้องต่อ เพราะไม่มีกฎหมายข้อไหนที่ห้ามไม่ให้ฟ้องร้องอีก เพราะยังมีหลักฐานเพิ่มเติม กกต.รวมหัวกันทำอย่างนี้ เราไม่ยอม และจะเล่นเกมแรงๆ กลับคืนบ้าง มีบางคนบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ยุบไม่ได้ อยากถามว่าเป็นพรรคเทวดาหรืออย่างไร ถึงทำความผิดแล้วถูกยุบไม่ได้ ขอเตือนนายอภิชาติว่า จากนี้ไปจะอยู่ไม่เป็นสุขแน่" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
**จี้ถอนประกัน"อริสมันต์"
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พฤติกรรมที่นายอริสมันต์ นำคนเสื้อแดงไปปิดล้อมสำนักงาน กกต. ถือว่าไม่เหมาะสม โดยเฉพาะท่าทีที่แสดงออกถึงความต่ำช้าป่าเถือน การเคลื่อนไหวดังกล่าวถือว่าเป็นการข่มขู่ คุกคามการปฏิบัติหน้าที่ของกกต. และอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายควรให้อิสระในการทำงานอย่างเต็มที่ อีกทั้งผลการพิจารณาในคดี 258 ล้านบาท ก็ยังไม่เป็นที่สิ้นสุด ก็ไม่ควรจะออกมาตีโพยตีพาย ถ้ามีความบริสุทธิ์ใจจริงก็ควรปล่อยให้เรื่องนี้ได้ข้อยุติเป็นทางการเสียก่อน แล้วค่อยมาดำเนินการต่อไป ไม่อยากให้เอากระแสข่าวเรื่องที่ว่า กกต.บางคนมีมติเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วมาเป็นประเด็น
อย่างไรก็ตาม การที่นายอริสมันต์ ออกมาเคลื่อนไหวในลักษณะเช่นนี้ ถือว่าหมิ่นเหม่การกระทำผิดกฎหมายอีกครั้ง ซึ่งไม่ทราบว่ายังคงมีคดีความที่อยู่ระหว่างการประกันตัวหรือไม่ จึงอยากให้ผู้มีหน้าที่ได้ตรวจสอบว่าพฤติกรรมดังกล่าว ขัดต่อเงื่อนไขการประกันตัวในคดีความครั้งก่อนหรือไม่ ซึ่งถ้าเข้าข่าย ก็ควรยื่นคำร้องถอนประกัน เพื่อให้คนเหล่านี้ไปสงบสติอารมณ์ในห้องขังบ้าง
**เย้ย"เหลิม"ข้อมูลเก่ามาเล่าใหม่
ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ให้สัมภาษณ์ในลักษณะข่มขู่จะฟ้องร้อง กกต.หากตัดสินยกคำร้องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์นั้น อยากให้กกต.หนักแน่น อย่าไปฟังเสียงนกเสียงกา ถ้าหาก กกต.ยึดหลักตามกฎหมาย ก็ไม่สามารถฟ้องร้องเอาผิดได้ เพราะกฎหมายย่อมคุ้มครองผู้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอยู่แล้ว และการจะมาอ้างว่ามีข้อมูลเพิ่มเติม จะยื่นให้กกต. ก็อยากถามว่าทำไมไม่ยื่นตั้งแต่ต้น ทำไมเพิ่งคิดจะยื่นตอนที่กกต.พิจารณาจะเสร็จแล้ว และข้อมูลที่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอ้างนั้น เป็นข้อมูลเดิเที่เคยใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนบอกได้คำเดียวว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ พรรคประชาธิปัตย์เคยชี้แจงข้อกล่าวหาเหล่านี้ตกไปทุกประเด็นแล้ว และยังเชื่อมั่นว่าความจริงย่อมเป็นความจริง
**อย่าคิดว่าคนอื่นเลวเหมือนตัวเอง
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทวิตเตอร์ กล่าวหาว่าทางกกต.ได้รับใบสั่ง ให้มีการตัดตอนไม่ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ก็กล่าวหาไปอย่างนั้น เพราะตอนที่เขามีอำนาจ ก็รู้กันว่าเป็นคนที่เข้าไปแทรกแซงการทำงานขององค์กรอิสระทั้งหลาย พยายามที่จะเข้าไปติดสินบนผู้พิพากษา พยายามที่จะไปซื้อศาล ก็เลยคิดว่าพวกเราจะทำอย่างนั้นบ้าง
"ผมกราบเรียนว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้มีนิสัยอย่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มี หรือที่เคยทำ ถ้าเราทำอย่างนั้นบ้านเมืองก็คงเละเทะ แย่ไปกว่านี้แล้ว พวกผมเคารพกฎเกณฑ์ กติกา ดูได้จากที่ผมถูกกกต. ตัดสินให้พ้นสมาชิกภาพจาก ส.ส.ไป ผมก็ยอมรับ ก็เป็นการพิสูจน์ได้ ดังนั้นที่คุณ ทักษิณ กล่าวหานั้นไม่จริง ความจริงก็คือสมัยที่คุณทักษิณ อยู่พวกคุณทักษิณ ไม่ผิดเลย เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่ ซึ่งคนจะพูดอะไรก็ได้ แต่ถ้าประชาชนได้ติดตามตรวจสอบก็จะรู้ว่าใครพูดจริงหรือไม่จริง สิ่งที่ปรากฏมันพิสูจน์ได้" นายสุเทพกล่าว
-------------------
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมได้เรียกร้องให้ นายอภิชาต หรือกกต. คนอื่นลงมาชี้แจงด้วยตนเอง ขณะที่กกต.ก็ไม่ได้อยู่ภายในสำนักงานแล้ว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือให้เดินทางออกไปก่อนหน้านี้ เพื่อควมสะดวกในการรักษาความปลอดภัย ทำให้กกต. ต้องงดการประชุมในช่วงบ่าย แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังไม่ยอมเชื่อ และเรียกร้องให้กกต. ลงมาด้วยตัวเอง มิเช่นนั้นบุกเข้าไปในอาคาร พร้อมทั้งระบุว่า เคยบุกเข้าไปที่พัทยาเมื่อครั้งการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนมาแล้ว ทำไมจะบุเข้าไปในกกต.ไม่ได้ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่มีกกต.คนใดอยู่ ทางผู้ชุมนุมก็ระบุว่า หากไม่อยู่จริง ขอให้ กกต. คนใดคนหนึ่งโฟนอินเข้ามาชี้แจงก็ได้ และเพื่อให้แน่ใจว่ากกต.ไม่อยู่ในสำนักงานฯจริง ก็ขอจัดตัวแทนประมาณ 10 คน เข้าไปตรวจสอบ แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ยินยอม
ต่อมาสถานการณ์เริ่มตึงเครียด โดยผู้ชุมนุมได้บุกฝ่าแนวรั้วเหล็ก และแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาประชิดประตูทางเข้าอาคาร โดยมีการยื้อยุดฉุดกระชาก และปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงไปมากกว่านั้น
ขณะเดียวกันก็มีชายคนหนึ่ง พยายามที่จะถ่ายรูปกลุ่มผู้ชุมนุมทำให้ผู้ชุมนุมเกิดความไม่พอใจ และลุกฮือเข้าไปทำร้ายร่างกายชายคนดังกล่าว จนต้องหนีหัวซุกหัวซุน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะกันตัวออกนอกพื้นที่ โดยมีผู้ชุมนุมบางส่วนพยายามติดตามไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ไม่สามารถขอเข้าไปตรวจสอบภายในสำนักงาน ว่าไม่มีกกต.คนใดอยู่แล้ว ที่สุดกลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้นำโลงศพ ซึ่งมีชื่อของกกต. 4 คนเว้นแต่เพียง นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น มาวางที่หน้าสำนักงาน และปัสสาวะรดโลงดังกล่าว ก่อนที่จะจุดไฟเผา พร้อมทั้งจุดประทัดไล่
หลังจากนั้นนายอริสมันต์ได้ขึ้นปราศรัยว่า นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น หากกกต. ยัง 2 มาตรฐาน วันหน้าก็จะเจอของจริงและจะไปเผาบ้านกกต.ทั้ง 4 คน พร้อมทั้งบอกเลขที่บ้านของประธานกกต.ให้ผู้ชุมนุมทราบ
ด้านนายสุพร กล่าวว่าหลังจากผ่านพ้นช่วงเทศกาลปีใหม่ กลุ่มคนเสื้อแดงจะนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้ง วันที่ 11 ม.ค. 53 แต่ยังไม่เปิดเผยว่าจะชุมนุมที่ใด
**"เหลิม"ขู่ปธ.กกต.อยู่ไม่เป็นสุขแน่
เมื่อเวลา14.15 วันเดียวกันนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่กกต. มีมติมอบหมายให้นายทะเบียนพรรคการเมือง เป็นผู้ตัดสินคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ว่า กรณีที่นายอภิชาติ ระบุว่าจะไปทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง แต่คาดว่าจะตัดสินใจเหมือนเดิมนั้น ไม่รู้ว่านายอภิชาติ พูดได้อย่างไร หากเป็นอย่างนั้นนายอภิชาติ ตัดสินไปเลยจะดีกว่า ซึ่งหากปล่อยไปแบบนี้บ้านเมืองหายนะแน่ ดังนั้นพรรคเพื่อไทยไม่ยอมเด็ดขาด ต้องปะทะกันทางความคิด จะเวทีไหนก็ได้ ขอให้เลือกมาเลย
นอกจากนี้ ขอให้นายอภิชาติ กลับไปอ่านสำนวนให้ครบแล้วค่อยออกมาให้สัมภาษณ์ เพราะหลักฐานมันชัดเจนว่าผิดแน่นอน ความจริงกรณีนี้ในตอนที่รับเรื่องมาครั้งแรก หากนายทะเบียนพรรคการเมืองบอกว่าไม่ผิด ก็สั่งระงับไป เรื่องก็จบ แต่เมื่อรับเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของกกต. ก็เท่ากับว่ามีส่วนร่วมแล้ว จำเป็นต้องพิจารณาต่อ
" ขอย้ำว่าหากนายอภิชาติตัดสินว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีความผิด ผมจะเดินหน้าต่อไม่มีหยุดจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม จะเล่นไม่เลิก จะทำการฟ้องร้องต่อ เพราะไม่มีกฎหมายข้อไหนที่ห้ามไม่ให้ฟ้องร้องอีก เพราะยังมีหลักฐานเพิ่มเติม กกต.รวมหัวกันทำอย่างนี้ เราไม่ยอม และจะเล่นเกมแรงๆ กลับคืนบ้าง มีบางคนบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ยุบไม่ได้ อยากถามว่าเป็นพรรคเทวดาหรืออย่างไร ถึงทำความผิดแล้วถูกยุบไม่ได้ ขอเตือนนายอภิชาติว่า จากนี้ไปจะอยู่ไม่เป็นสุขแน่" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
**จี้ถอนประกัน"อริสมันต์"
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พฤติกรรมที่นายอริสมันต์ นำคนเสื้อแดงไปปิดล้อมสำนักงาน กกต. ถือว่าไม่เหมาะสม โดยเฉพาะท่าทีที่แสดงออกถึงความต่ำช้าป่าเถือน การเคลื่อนไหวดังกล่าวถือว่าเป็นการข่มขู่ คุกคามการปฏิบัติหน้าที่ของกกต. และอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายควรให้อิสระในการทำงานอย่างเต็มที่ อีกทั้งผลการพิจารณาในคดี 258 ล้านบาท ก็ยังไม่เป็นที่สิ้นสุด ก็ไม่ควรจะออกมาตีโพยตีพาย ถ้ามีความบริสุทธิ์ใจจริงก็ควรปล่อยให้เรื่องนี้ได้ข้อยุติเป็นทางการเสียก่อน แล้วค่อยมาดำเนินการต่อไป ไม่อยากให้เอากระแสข่าวเรื่องที่ว่า กกต.บางคนมีมติเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วมาเป็นประเด็น
อย่างไรก็ตาม การที่นายอริสมันต์ ออกมาเคลื่อนไหวในลักษณะเช่นนี้ ถือว่าหมิ่นเหม่การกระทำผิดกฎหมายอีกครั้ง ซึ่งไม่ทราบว่ายังคงมีคดีความที่อยู่ระหว่างการประกันตัวหรือไม่ จึงอยากให้ผู้มีหน้าที่ได้ตรวจสอบว่าพฤติกรรมดังกล่าว ขัดต่อเงื่อนไขการประกันตัวในคดีความครั้งก่อนหรือไม่ ซึ่งถ้าเข้าข่าย ก็ควรยื่นคำร้องถอนประกัน เพื่อให้คนเหล่านี้ไปสงบสติอารมณ์ในห้องขังบ้าง
**เย้ย"เหลิม"ข้อมูลเก่ามาเล่าใหม่
ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ให้สัมภาษณ์ในลักษณะข่มขู่จะฟ้องร้อง กกต.หากตัดสินยกคำร้องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์นั้น อยากให้กกต.หนักแน่น อย่าไปฟังเสียงนกเสียงกา ถ้าหาก กกต.ยึดหลักตามกฎหมาย ก็ไม่สามารถฟ้องร้องเอาผิดได้ เพราะกฎหมายย่อมคุ้มครองผู้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอยู่แล้ว และการจะมาอ้างว่ามีข้อมูลเพิ่มเติม จะยื่นให้กกต. ก็อยากถามว่าทำไมไม่ยื่นตั้งแต่ต้น ทำไมเพิ่งคิดจะยื่นตอนที่กกต.พิจารณาจะเสร็จแล้ว และข้อมูลที่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอ้างนั้น เป็นข้อมูลเดิเที่เคยใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนบอกได้คำเดียวว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ พรรคประชาธิปัตย์เคยชี้แจงข้อกล่าวหาเหล่านี้ตกไปทุกประเด็นแล้ว และยังเชื่อมั่นว่าความจริงย่อมเป็นความจริง
**อย่าคิดว่าคนอื่นเลวเหมือนตัวเอง
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทวิตเตอร์ กล่าวหาว่าทางกกต.ได้รับใบสั่ง ให้มีการตัดตอนไม่ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ก็กล่าวหาไปอย่างนั้น เพราะตอนที่เขามีอำนาจ ก็รู้กันว่าเป็นคนที่เข้าไปแทรกแซงการทำงานขององค์กรอิสระทั้งหลาย พยายามที่จะเข้าไปติดสินบนผู้พิพากษา พยายามที่จะไปซื้อศาล ก็เลยคิดว่าพวกเราจะทำอย่างนั้นบ้าง
"ผมกราบเรียนว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้มีนิสัยอย่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มี หรือที่เคยทำ ถ้าเราทำอย่างนั้นบ้านเมืองก็คงเละเทะ แย่ไปกว่านี้แล้ว พวกผมเคารพกฎเกณฑ์ กติกา ดูได้จากที่ผมถูกกกต. ตัดสินให้พ้นสมาชิกภาพจาก ส.ส.ไป ผมก็ยอมรับ ก็เป็นการพิสูจน์ได้ ดังนั้นที่คุณ ทักษิณ กล่าวหานั้นไม่จริง ความจริงก็คือสมัยที่คุณทักษิณ อยู่พวกคุณทักษิณ ไม่ผิดเลย เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่ ซึ่งคนจะพูดอะไรก็ได้ แต่ถ้าประชาชนได้ติดตามตรวจสอบก็จะรู้ว่าใครพูดจริงหรือไม่จริง สิ่งที่ปรากฏมันพิสูจน์ได้" นายสุเทพกล่าว
-------------------