รองนายกฯ ด้านความมั่นคงหายงัวเงีย สั่งจับตา “เสธ.แดง” ปูดข่าวแผนลอบสังหารผู้พิพากษาเข้าข่ายข่มขู่หรือไม่ ทำมาดขรึม “แม้ว” ขู่ยกระดับคดียึดทรัพย์ไปสู้ในศาลโลก กวักมือเรียกมาขึ้นศาลไทยก่อน
วันนี้ (31 ม.ค.) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกอภิสิทธิ์” ว่าการพูดของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ว่าจะต้องขยายผลว่าเป็นการพูดจาข่มขู่หรือไม่ว่า ตนไม่ทราบ บังเอิญเมื่อช่วงเช้าตนติดภารกิจ จึงพลาดที่จะชมรายการ ไม่ได้ฟังนายกฯพูด
เมื่อถามว่าพล.ต.ขัตติยะระบุว่าจะมีการลอบสังหารบุคคลสำคัญในองค์กรอิสระนั้นเข้าข่าย สามารถดำเนินคดีได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องดูว่าเป็นการพูดจาในลักษณะเข้าข่ายข่มขู่หรือไม่ ตนไม่ใช่นักกฎหมายคงต้องไปตรวจสอบ ที่สำคัญต้องดูว่าคำพูดจริงๆเป็นอย่างไร ถ้าเป็นการพูดในลักษณะข่มขู่จริงเราก็ยอมไม่ได้ เพราะผู้พิพากษาเหล่านี้ก็ทำหน้าที่ของท่าน เราคงจะไม่ยอมให้ใครมาขู่ศาลหรือผู้พิพากษาไม่ได้
เมื่อถามว่า ในฐานะดูแลฝ่ายความมั่นคงจะเพิ่มการดูแลอารักขาบุคคลเหล่านี้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เราในฐานะฝ่ายความมั่นคง ได้ตรวจสอบเรื่องนี้ และพยายามดูแลเรื่องความปลอดภัยของบรรดาผู้ที่อยู่ในข่ายที่ปรากฏเป็นข่าว แต่ว่าจะไปทำอะไรที่เป็นพิเศษคงไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะถูกพวกที่ไม่หวังดีกล่าววหาว่าเป็นพวกเดียวกัน ซึ่งระบบของศาลจะต้องเป็นอิสระ ผู้พิพากษาต้องรักษาความเป็นกลาง ซึ่งหากเราเข้าไปใกล้ชิดท่านเกินไปเป็นอันตราย จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ท่านก็เสียหาย แต่ถ้าอยู่ห่างออกไปก็เป็นห่วงท่าน เพราะฉะนั้นเราจึงรักษาความพอดี เพราะการเมืองขณะนี้มันกล่าวหาและใส่ร้ายป้ายสีกันง่าย แต่เราก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลให้ความปลอดภัย เพราะถือว่าท่านเป็นประชาชนคนหนึ่ง เมื่อมีข่าวว่าจะถูกปองร้ายเราก็ไม่ประมาท เช่นจัดให้มีเวรยามที่บ้านพักของท่านคอยตรวจสอบเป็นระยะๆ แต่คงไม่ถึงให้มีรถมาประกบตามไปไหนมาไหนด้วยทุกที่เหมือนอย่างตน ท่านก็คงไม่ยอม
ผู้สื่อข่าวถามว่าต้องขอหน่วยพิเศษมาคอยดูแลหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปกติ โดยให้รรท.ผบ.ตร.ดูแล ซึ่งได้สั่งการไว้นานแล้ว และผบช.น.ได้ดูแลเต็มที่ด้วยเช่นกัน เมื่อถามว่าจะต้องดูแลไปอีกนานแค่ไหน นายสุเทพกล่าวว่า ดูแลไปจนกว่าจะไม่มีปัญหา ซึ่งตนขอถือโอกาสฝากพี่น้องประชาชนว่าหากเห็นอะไรที่ผิดสังเกต หรือเรื่องไม่ดีก็ขอให้แจ้งข้อมูลข่าวสารให้กับทางราชการด้วย
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าจะเอาผิดกับคนที่พูดลักษณะนี้ได้อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ยังตอบไม่ได้ แต่มันต้องเป็นไปตามกฎหมาย บางคนเราเห็นแล้วว่าพูดจามีเจตนาแต่เมื่อถอดคำพูดออกมาแล้วไม่เข้าข่ายกฎหมาย เราก็ต้องอดทนเอา แต่ถ้าเข้าข่ายก็ต้องดำเนินคดี เมื่อถามว่าการพูดในที่สาธารณะอย่างนี้จะต้องมีการปรามกันหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เราคงจะปรามเขาไม่ได้เพราะเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยจะเชื่อฟังใคร โดยเฉพาะกับเราแต่เขาก็คงรู้ว่าถ้าทำอะไรที่ผิดกฎหมายต้องดำเนินคดีแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่าหน่วยข่าวกรองรายงานข้อมูลตรงกับน.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่ระบุว่ามีแนวโน้มเกิดการลอบฆ่าและวินาศกรรมหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคงตอบไม่ได้ว่าข้อมูลของหน่วยข่าวกรองตรงกับใครหรือไม่ตรงกับใคร แต่ตรวจสอบทุกข่าวโดยไม่ประมาท ไม่มองข้ามทุกเรื่อง เมื่อมีหน้าที่ดูแลต้องทำให้ดีที่สุด ยังอยู่ในวิสัยที่หน่วยงานภาครัฐรองรับได้ ไม่จำเป็นต้องอาศัยวิธีพิเศษ
เมื่อถามถึงกรณีที่พล.ต.ขัตติยะระบุว่าจะไม่วิจารณ์นายกฯเพราะเกรงใจนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี แสดงว่าให้นายไตรรงค์เป็นคนไปเจรจากับพล.ต.ขัตติยะ ใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ขอให้ไปถามนายไตรรงค์เองก็แล้วกัน
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมนำคดียึดทรัพย์ไปสู้ในศาลโลก หากไม่ได้รับความเป็นธรรมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวไปทั้งที่ยังไม่รู้ว่าศาลจะพิจารณาอย่างไร ขณะเดียวกัน เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะสู้ศาลไหนก็ได้ แต่ง่ายที่สุดคือการกลับมาสู้ในประเทศไทย