ASTVผูจัดการรายวัน- อินเด็กซ์อีเว้น รุกหนักตลาดเช่าอุปกรณ์ระบบเสียง แสงภาพ เอฟเฟค ส่ง“มีเดียวิชั่น” รับงานอีเว้น คอนเสิร์ต งานแสดงสินค้า ประกาศุท่มงบกว่า 30ล้านบาท นำเข้าระบบจอภาพLED ลุยรับงานคอนเสิร์ต อีเว้นการตลาด หลังแนวโน้มอุตสาหกรรมบันเทิงไทยปี 53ขยายตัวตั้งเป้ารายได้ปีหน้าโต15 % หรือมีรายได้รวม320ล้านบาท เผยผลประกอบการปี 52 รายได้190ล้านบาทต่ำกว่าเป้า4% หลังโดนพิษเศรษฐกิจลูกค้ากำลังซื้อหด
นายธนรัช หงสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท มีเดียวิชั่น 1994 จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจให้บริการให้เช่าอุปกรณ์ภาพ แสงเสียงครบวงจร ซึ่งเป็นบริษัทนเครือบริษัทอินเด็กว์ อีเว้น จำกัด กล่าวว่า ผลกระทบจากปัญหาการเมือง และวิกฤติเศรษฐกิจในปีนี้ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้ประกอบการและหน่วยงานราชการปรับตัวลดลง ทำให้ในการเช่าอุปกรณ์ในการจัดงานต่างๆ ลดลง เนื่องจากหน่วยงานราชการและบริษัทต่างๆ ตัดงบประมาณด้านการจัดงานและกิจกรรมการตลาดต่างๆ ลงส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทที่ลดลงด้วยโดยในปีนี้บริษัทมีรายได้รวม190ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ 200ล้านบาท 4%
อย่างไรก็ตามแนวโน้มตลาดอุตสาหกรรมบันเทิงและการจัดงานนิทรรศการทั้งในส่วนของหน่วยงานราชการและบริษัทต่างๆ เริ่มมีทิศทางที่ดีตามเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ซึ่งจะส่งผลต่อการขยายตัวของตลาดรวม โดยคาดว่าในปี53 ตลาดรวมจะมีอัตราการขยายตัวกว่า10-15% จากปีนี้ โดยปัจจุบันตลาดรวมมีมูลค่าประมาณ1,000ล้านบาท
ดังนั้น เพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวดังกล่าวบริษัท ได้เตรียมงบประมาณในการลงทุนปีละประมาณ 40–50 ล้านบาท เพื่อลงทุนนำเข้าเทคโนโลยี แสง เสียง ภาพ และเอฟเฟค มาจากต่างประเทศทั้งสหรัฐอเมริกา และยุโรป เพื่อเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพด้านอุปกรณ์ต่างๆเพื่อให้ได้คุณภาพของงานที่ดีขึ้นและยกระดับอุตสาหกรรมการบริการระบบแสง เสียง ภาพและเอฟเฟค ให้ได้มาตรฐาน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ จากการกลับมาขยายตัวของตลาดรวมคาดว่าจะช่วยให้ในปีหน้าหน่วยงานราชการและบริษัทต่างๆ มีการจัดงานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากการที่บริษัทได้ลงทุนในระบบจอภาพ และเทคโนโลยีใหม่ จะช่วยให้บริษัทสามารถเข้าไปรับงานคอนเสิร์ตและงานอีเว้น รวมถึงงานแสดงนิทัศการระดับประเทศเพิ่มมากขึ้น ดดบบริษัทตั้งเป้าว่าจะมีรายได้เติบโตเพิ่มจากปีนี้15% หรือมียอดรายได้รวม 320ล้านบาท
“จุดเด่นของมีเดียวิชั่นคือ มีอุปกรณ์ต่างๆที่ครบวงจร ทั้งภาพ แสง เสียง และเอฟเฟค ทำให้สามารถครองแชร์ตลาดรวมเป้ฯอันดับ1 โดยมีสัดส่วนรายได้จากระบบภาพเป็นหลัก คือกว่า 40 % ระบบเสียง 28% ระบบแสง 22% และเอฟเฟค 12% โดยเฉพาะอุปกรณ์ด้านเสียงและจอภาพ LED สำหรับงานคอนเสิร์ตและอีเว้นท์ ที่มีคุณภาพสูง รวมไปถึงระบบเอฟเฟค Indoor Pyrotechnic ซึ่ง มีเดียวิชั่น ถือผู้นำตลาดในปัจจุบัน”
นายธนรัช กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในปี53นั้นบริษัทจะเน้นให้ความสำคัญ 3 เรื่องหลักประกอบด้วย กล้าคิด กล้าลงทุน และกล้าตัดสินใจ โดยในปีหน้า มีเดียวิชั่น ได้เข้าไปรับผิดงานใหญ่ๆ หลายๆ งาน เช่น คอนเสิร์ต BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL ที่ Bonanza เขาใหญ่ในวันที่ 5-6 ก.พ.53 และที่สำคัญคืองาน Thailand Pavilion :The World Exposition Shanghai China 2010 ซึ่งประเทศจีนเป็นเจ้าภาพ โดย มีเดียวิชั่นจะเป็นผู้ดูแล แสง เสียง ภาพ และเอฟเฟคทั้งหมดในงาน
นายธนรัช หงสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท มีเดียวิชั่น 1994 จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจให้บริการให้เช่าอุปกรณ์ภาพ แสงเสียงครบวงจร ซึ่งเป็นบริษัทนเครือบริษัทอินเด็กว์ อีเว้น จำกัด กล่าวว่า ผลกระทบจากปัญหาการเมือง และวิกฤติเศรษฐกิจในปีนี้ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้ประกอบการและหน่วยงานราชการปรับตัวลดลง ทำให้ในการเช่าอุปกรณ์ในการจัดงานต่างๆ ลดลง เนื่องจากหน่วยงานราชการและบริษัทต่างๆ ตัดงบประมาณด้านการจัดงานและกิจกรรมการตลาดต่างๆ ลงส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทที่ลดลงด้วยโดยในปีนี้บริษัทมีรายได้รวม190ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ 200ล้านบาท 4%
อย่างไรก็ตามแนวโน้มตลาดอุตสาหกรรมบันเทิงและการจัดงานนิทรรศการทั้งในส่วนของหน่วยงานราชการและบริษัทต่างๆ เริ่มมีทิศทางที่ดีตามเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ซึ่งจะส่งผลต่อการขยายตัวของตลาดรวม โดยคาดว่าในปี53 ตลาดรวมจะมีอัตราการขยายตัวกว่า10-15% จากปีนี้ โดยปัจจุบันตลาดรวมมีมูลค่าประมาณ1,000ล้านบาท
ดังนั้น เพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวดังกล่าวบริษัท ได้เตรียมงบประมาณในการลงทุนปีละประมาณ 40–50 ล้านบาท เพื่อลงทุนนำเข้าเทคโนโลยี แสง เสียง ภาพ และเอฟเฟค มาจากต่างประเทศทั้งสหรัฐอเมริกา และยุโรป เพื่อเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพด้านอุปกรณ์ต่างๆเพื่อให้ได้คุณภาพของงานที่ดีขึ้นและยกระดับอุตสาหกรรมการบริการระบบแสง เสียง ภาพและเอฟเฟค ให้ได้มาตรฐาน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ จากการกลับมาขยายตัวของตลาดรวมคาดว่าจะช่วยให้ในปีหน้าหน่วยงานราชการและบริษัทต่างๆ มีการจัดงานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากการที่บริษัทได้ลงทุนในระบบจอภาพ และเทคโนโลยีใหม่ จะช่วยให้บริษัทสามารถเข้าไปรับงานคอนเสิร์ตและงานอีเว้น รวมถึงงานแสดงนิทัศการระดับประเทศเพิ่มมากขึ้น ดดบบริษัทตั้งเป้าว่าจะมีรายได้เติบโตเพิ่มจากปีนี้15% หรือมียอดรายได้รวม 320ล้านบาท
“จุดเด่นของมีเดียวิชั่นคือ มีอุปกรณ์ต่างๆที่ครบวงจร ทั้งภาพ แสง เสียง และเอฟเฟค ทำให้สามารถครองแชร์ตลาดรวมเป้ฯอันดับ1 โดยมีสัดส่วนรายได้จากระบบภาพเป็นหลัก คือกว่า 40 % ระบบเสียง 28% ระบบแสง 22% และเอฟเฟค 12% โดยเฉพาะอุปกรณ์ด้านเสียงและจอภาพ LED สำหรับงานคอนเสิร์ตและอีเว้นท์ ที่มีคุณภาพสูง รวมไปถึงระบบเอฟเฟค Indoor Pyrotechnic ซึ่ง มีเดียวิชั่น ถือผู้นำตลาดในปัจจุบัน”
นายธนรัช กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในปี53นั้นบริษัทจะเน้นให้ความสำคัญ 3 เรื่องหลักประกอบด้วย กล้าคิด กล้าลงทุน และกล้าตัดสินใจ โดยในปีหน้า มีเดียวิชั่น ได้เข้าไปรับผิดงานใหญ่ๆ หลายๆ งาน เช่น คอนเสิร์ต BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL ที่ Bonanza เขาใหญ่ในวันที่ 5-6 ก.พ.53 และที่สำคัญคืองาน Thailand Pavilion :The World Exposition Shanghai China 2010 ซึ่งประเทศจีนเป็นเจ้าภาพ โดย มีเดียวิชั่นจะเป็นผู้ดูแล แสง เสียง ภาพ และเอฟเฟคทั้งหมดในงาน