xs
xsm
sm
md
lg

อินเด็กซ์ต่อยอด “เวิล์ด เอ็กซ์โป” ร่วมพันธมิตร จัดทัวร์-ขายตั๋ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อินเด็กซ์ ต่อยอดธุรกิจ จับมือ 2 พันธมิตร ลุยจัดทัวร์ พร้อมขายตั๋วเข้าชมงาน เวิลด์ เอ็กซ์โป 2010 หลังพิทงานนี้มาได้ ตั้งเป้าโกยรายได้ร่วม 105 ล้านบาท

นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์ เอเจนซี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้รับงานภาครัฐ เป็นผู้เนรมิตร Pavilion ของประเทศไทย ในงานยิ่งใหญ่ระดับโลก The World Exposition หรือ เวิล์ด เอ็กซ์โป ซึ่งเป็นงานมหกรรมโลกที่แต่ละประเทศจะนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาแสดงเพื่องแสดงศักยภาพของแต่ละประเทศ ทั้งในส่วนของสถาปัตยกรรมศิลปกรรม และเทคโนโลยีต่างๆ

โดยงาน เวิล์ด เอ็กซ์โป ครั้งนี้ จะจัดขึ้นที่ นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ในชื่อ งาน The World Exposition Shanghai China 2010 ระหว่างวันที่ 1 พ.ค.-31 ต.ค.2553 รวมระยะเวลาการจัดงานกว่า 184 วัน บนพื้นที่การจัดงานแสดงกว่า 3,300 ไร่ หรือกว่า 5.28 ตารางกิโลเมตร และมีประเทศที่เข้าร่วมจัดงานกว่า 166 ประเทศทั่วโลก จำนวน 230 Pavilion คาดว่า จะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 70 ล้านคน

ทั้งนี้ ในส่วนของอินเด็กซ์ นอกจากจะได้เป็นผู้เนรมิต Pavilion ของประเทศไทย ด้วยงบประมาณกว่า 600 ล้านบาทแล้ว โดยส่วนตัวที่ผ่านมา ถือเป็นผู้ที่ศึกษาความเป็นมา และเข้าไปร่วมชมงานเวิลด์ เอ็กซ์โป มาหลายครั้ง ดังนั้น จึงได้มีแนวความคิดในการที่จะต่อยอดธุรกิจเพิ่มขึ้น บวกกับทางประเทศจีน ที่มีปัญหาการก๊อบปี้ในประเทศจีนสูงมาก พบว่า มีการปลอมบัตรเข้าชมงานเวิลด์ เอ็กซ์โป ออกมาแล้ว ส่งผลให้รัฐบาลจีนได้มีแนวทางแก้ไข โดยพยายามให้มีตัวแทนจัดจำหน่ายบัตรเข้าชมงานครั้งนี้ จากแต่ละประเทศด้วย โดยราคาบัตรที่จำหน่ายนั้น จะมีราคาเดียวกันทุกประเทศ เฉลี่ย 1 วัน ราคา 1,000 บาท

ดังนั้น ในส่วนของประเทศไทย บริษัทได้ขอเข้ามาดูแลเรื่องการจัดจำหน่ายบัตรเข้าชมงานครั้งนี้ โดยได้ร่วมกับทาง บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แนเนจเม้นท์ จำกัด ผ่าน โทเทิ่ล เรสเซอร์เวชั่น ที่เป็นธุรกิจที่จะให้บริการในการจำหน่ายบัตรเข้าชมงานในครั้งนี้ให้ เบื้องต้นคาดการณ์ว่าจะมียอดขายบัตรราว 25 ล้านบาท จากการแบ่งประเภทการขายบัตรออกเป็น 4 แบบ คือ 1 วัน, 3 วัน, 7 วัน และสำหรับหมู่คณะ ขณะที่การแบ่งรายได้จะแบ่งฝ่ายละ 50%เท่าๆ กัน

นอกจากนี้ ทางบริษัทยังได้ร่วมกับบริษัท สตาร์บริดจ์ จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจทัวร์นำเที่ยวด้วย ซึ่งได้มีการจัดโปรแกรมนำเที่ยว Fast Track World Expo Shanghai Tour เพื่อชมงาน The World Exposition Shanghai China 2010 พร้อมชมความสวยงามในสถานที่ท่องเที่ยว และสัมผัสวัฒนธรรมจีนในอีกหลายเมืองๆ ทั้ง เซี่ยงไฮ้, หัวโจว, ซูโจว รวมกว่า 10 สถานที่ โดยตนเองจะเป็นไกด์พาชมงานเวิลด์ เอ็กซ์โป ในบางทริปที่จัดด้วย ซึ่งแพกเกจท่องเที่ยวครั้งนี้ จะแบ่งเป็น 2 แพกเกจ คือ 5 วัน 3 คืน และ 7 วัน 5 คืน ราคาเฉลี่ยเริ่มต้นที่ประมาณ 3-5 หมื่นบาท ขึ้นไป คาดว่า จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 80 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 บริษัทจะแบ่งรายได้กันที่ 50% เท่าๆ กัน

นายเกรียงไกร กล่าวต่อว่า สำหรับกลุ่มเป้าหมายการต่อยอดธุรกิจครั้งนี้ คือ กลุ่มธุรกิจที่ทำงานในเส้นทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอีเวนต์ โชว์บิซ รวมไปถึงภาครัฐ และรองลงมาคือ ประชาชนทั่วไป ซึ่งหากเป็นไปตามแผนแล้ว เชื่อว่า จากการต่อยอดรายได้ทั้ง 2 ทาง จะมีรายได้รวมอย่างต่ำที่ 105 ล้านบาท เมื่อแบ่งรายได้ออกมาแล้ว คาดว่า บริษัทจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 50ล้านบาท

ด้าน นายสาธิต ยุวนันทการุญ กรรมการผุ้จัดการ บริษัท สตาร์บริดจ์ จำกัด กล่าวว่า ปกติในเดือน พ.ค., เม.ย.และ ต.ค.จะมีคนไทยเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศจีนค่อนข้างสูง ยิ่งมีงาน The World Exposition Shanghai China 2010 ด้วยแล้ว คาดว่า ราคาค่าครองชีพต่างๆในช่วงนั้นจะสูงขึ้นมาก โดยในส่วนของการจัดแพกเกจท่องเที่ยวครั้งนี้ เฉลี่ยสูงจากเดิมราว 1 เท่าตัว จากปกติอยู่ที่ 2-3 หมื่นบาท มาเป็น 3-5 หมื่นบาท แทน
กำลังโหลดความคิดเห็น