ASTVผู้จัดการรายวัน - โฆษก ตร.เยี่ยมลุงป้าเหยื่อฉกทรัพย์ พร้อมเผย 10 รูปแบบ แก๊งมิจฉาชีพออกลวงเหยื่อ พร้อมแนะประชาชนระมัดระวังแก๊งคนร้ายตีสนิทก่อนฉกทรัพย์ช่วงงานฉลองเทศกาลปีใหม่
วานนี้ (20 ธ.ค.) พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ตร.พร้อมด้วย พ.ต.อ.อุดม สุวรรณเวชทิพย์ รอง ผบก.น.5 และ พ.ต.อ.เมธี รักษ์พันธุ์ ผกก.สน.วัดพระยาไกร เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 457/190 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ เพื่อเยี่ยมนายสว่าง จู่พิชญ์ อายุ 82 ปี และนางสุณี จู่พิชญ์ อายุ 78 ปี สองตายายซึ่งถูกคนร้ายลักทรัพย์เงินสดกว่า 1,000,000 บาท จากลิ้นชักในห้องนอน ซึ่งคนร้ายใช้วิธีการหลอกเหยื่อว่าเป็นช่างไฟฟ้าที่บุตรชายให้มาตรวจสอบระบบไฟฟ้าในบ้าน แล้วออกอุบายให้เจ้าของบ้านไปคอยปิดเปิดสวิตช์ไฟ จากนั้นก็อาศัยช่องโอกาสเข้าไปรื้อค้นเอาทรัพย์สินในบ้านไป ซึ่งต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ จากการสืบสวนขยายผลพบว่าคนร้ายได้ก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้งในหลายพื้นที่ โดยอาศัยช่วงเวลาที่ไม่มีคนอยู่บ้าน หรือมีเพียงคนชรา หรือเด็กรับใช้อยู่บ้านเพียงลำพังในเวลากลางวัน
โฆษก ตร.เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบฐานข้อมูลแผนประทุษกรรมคนร้ายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า นอกจากคนร้ายจะอาศัยช่วงเวลาที่ไม่มีคนอยู่บ้าน หรือมีเพียงเด็ก หรือคนชราอยู่เพียงลำพังแล้ว ในช่วงเทศกาลวันหยุดโดยเฉพาะเทศกาลวันขึ้นปีใหม่คนร้ายแก๊งต่างๆ ก็มักจะอาศัยช่วงโอกาสนี้ออกอุบายหลอกลวงเหยื่อเพื่อประทุษร้ายต่อทรัพย์ด้วยวิธีการต่างกัน โดยมีอยู่ 10 รูปแบบ ซึ่งประชาชนมักจะตกเป็นเหยื่อบ่อยครั้ง ได้แก่
1.แก๊งส่งของขวัญปีใหม่ คนร้ายจะออกสำรวจตามบ้านที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ มีเพียงคนรับใช้ที่เป็นเด็ก ผู้หญิง หรือผู้สูงอายุ อยู่ในบ้านโดยคนร้ายจะแอบอ้างว่ามีคนให้นำของขวัญมาส่งให้ที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นกระเช้า ดอกไม้ ของกิน และบางครั้งก็ใช้กล่องกระดาษขนาดใหญ่ ห่อด้วยกระดาษห่อของขวัญสวยงาม คล้ายมีน้ำหนักมาก ต้องขอให้คนในบ้านช่วยเปิดประตูให้ เพื่อจะได้ยกเข้าไปในบ้าน เมื่อคนในบ้านเผลอคนร้ายก็จะทำการรื้อค้นของมีค่าแล้วหลบหนีไป หรือบางกรณีคนร้ายจะทำการปล้นทรัพย์ หรือชิงทรัพย์ ด้วย
2.แก๊งสารพัดช่าง คนร้ายจะแอบอ้างกับผู้ดูแลบ้านที่เป็นคนรับใช้ เด็ก ผู้หญิง หรือผู้สูงอายุว่า เจ้าของบ้านให้มาซ่อมแอร์ ท่อประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ หรือโทรทัศน์ โดยใช้คำพูดที่ทำให้คนในบ้านเชื่อถือและยอมให้เข้ามาในบ้าน จากนั้นคนร้ายจะทำทีไปซ่อมสิ่งต่าง ๆ ตามที่ได้แอบอ้าง และหลอกให้คนในบ้านไปดูแผงควบคุมไฟฟ้า หรือวาล์วเปิด-ปิดน้ำ จากนั้นคนร้ายจะทำการรื้อค้นของมีค่าแล้วหลบหนีไป หรือบางกรณีก็จะทำการปล้นทรัพย์ หรือชิงทรัพย์เช่นเดียวกัน
3.แก๊งขายสินค้าราคาถูก คนร้ายจะขับรถตระเวนขายสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งของใช้ประจำวัน และเครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ ไปตามหมู่บ้าน โดยโฆษณาชวนเชื่อว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงมาบริการจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพจากโรงงาน ที่มีการเลหลังล้างสต็อก ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว สินค้าที่นำมาจำหน่ายนั้นเป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ หรือหมดอายุ หากเป็นสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า เมื่อนำไปใช้แล้วก็อาจจะเกิดอันตราย หรือทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรจนเกิดเพลิงไหม้ได้
4.แก๊งจัดงานเลี้ยง คนร้ายมีพฤติกรรมการกระทำความผิด 2 รูปแบบ คือ 1) คนร้ายแอบอ้างกับเจ้าของร้านค้าว่า จะจัดงานเลี้ยงโดยติดต่อให้ส่งของต่างๆ ไปไว้ตามสถานที่จัดงาน พร้อมกับอ้างว่าจะนำเงินไปจ่ายให้ภายหลัง หรือให้เงินมัดจำไว้ส่วนหนึ่ง เมื่อทางร้านค้าส่งของไปยังที่นัดหมายแล้ว คนร้ายจะแอบขนของหลบหนีไป และ 2) คนร้ายแอบอ้างกับผู้ที่ต้องการจะจัดงานเลี้ยงว่า รู้จักกับเจ้าของร้านขายอาหารและสามารถสั่งได้ในราคาถูก ทำให้ผู้ที่จะจัดงานเลี้ยง หลงเชื่อยอมจ่ายเงินค่า อาหารบางส่วนให้กับคนร้าย แต่เมื่อถึงวันจัดเลี้ยง ปรากฏว่าไม่มีการส่งอาหารมาให้แต่อย่างใด
5.แก๊งเรี่ยไรทำบุญ คนร้ายจะออกตระเวนเดินเรี่ยไร บางกลุ่มปลอมตัวเป็นพระภิกษุสามเณร ออกรับบริจาคเงิน หรือสิ่งของ เพื่อนำไปทำบุญตามวัดต่างๆ ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ หรือแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯ ออกเรี่ยไรตามบ้าน ตลาด หรือชุมชน ให้ร่วมกันบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ หรือทหารและตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ บางทีก็มีการนำรูปภาพ หรือรูปปั้น ซึ่งอ้างว่าผ่านการปลุกเสกแล้วมาให้เช่าด้วย
6.แก๊งชุบหรือล้างทองรูปพรรณ คนร้ายจะขับรถไปตามหมู่บ้านหรือสถานที่สาธารณต่าง ๆ เพื่อรับชุบหรือล้างทองรูปพรรณ ให้สะอาดและดูใหม่ เพื่อจะได้นำไปใช้เป็นเครื่องประดับในช่วงปีใหม่ โดยคนร้ายจะอาศัยช่วงที่เจ้าของทองเผลอเอาทองปลอมที่เตรียมไว้ขึ้นมาเปลี่ยน โดยเจ้าของทองไม่ได้สังเกตหรือเอะใจ กว่าจะรู้ตัวคนร้ายก็หลบหนีไปไกลแล้ว
7.แก๊งล้วงและกรีดกระเป๋า คนร้ายกระทำกันเป็นขบวนการ โดยเฉพาะในสถานีขนส่ง หรือบริเวณย่านการค้าที่มีผู้คนเป็นจำนวนมาก โดยหัวหน้าทีมจะเป็นคนคอยเล็งดูเหยื่อว่าคนไหนที่ดูทีท่าว่าน่าจะมีเงิน ก็จะส่งสัญญาณให้เพื่อนร่วมทีมเดินเข้าประกบเหยื่อ โดยหัวหน้าทีมจะเดินเข้าหาเหยื่อแล้วใช้กระดาษที่เตรียมมายกขึ้นบัง ส่วนมืออีกข้างหนึ่งจะทำการกรีดกระเป๋าหรือล้วงเข้าไปหยิบทรัพย์สินในกระเป๋า โดยที่เหยื่อไม่รู้ตัว
8.แก๊งมอมยา คนร้ายจะผสมยานอนหลับลงในน้ำดื่ม กาแฟกระป๋อง หรืออาหาร จากนั้นจะทำทีเข้าไปตีสนิทชิดเชื้อกับผู้โดยสารที่อยู่ระหว่างรอรถ หรือผู้โดยสารที่อยู่บนรถ โดยใช้จิตวิทยาในการพูดคุย และตีสนิทด้วยภาษาท้องถิ่น เสมือนเป็นคนบ้านเดียวกัน หลังจากนั้นแสดงความมีน้ำใจ โดยชักชวนให้ดื่มน้ำ หรือกาแฟที่เตรียมไว้ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อและดื่มเข้าไป ก็จะสะลึมสะลือหรือนอนหลับไป จากนั้นคนร้ายจะทำการหยิบทรัพย์สินที่มีค่า แล้วหลบหนีหรือลงจากรถในสถานีถัดไป
9.แก๊งชวนเล่นการพนัน คนร้ายจะชักชวนกลุ่มผู้โดยสารระหว่างรอรถ หรือในระหว่างร่วมเดินทางไปกับผู้โดยสารบนรถไฟ หรือรถโดยสาร หรือในระหว่างที่หยุดพักระหว่างทาง โดยเป็นกลุ่มผู้โดยสารที่ได้ตีสนิทไว้แล้ว ให้มาร่วมเล่นการพนัน ในรูปแบบต่างๆ เช่น กำถั่ว ตลับยาหม่อง หรือ ไพ่สามใบ โดยมีหน้าม้าทำทีว่าทายถูกอยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่อเหยื่อหลงเชื่อและทายบ้าง กลับเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก
10.แก๊งใช้ธนบัตรปลอม และบัตรเครดิตปลอม คนร้ายนำธนบัตรปลอมในราคาต่าง ๆ มาจับจ่ายใช้สอยตามตลาด แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีประชาชนมาจับจ่ายใช้สอย และเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้ผู้ขายสินค้า หรือให้บริการไม่มีเวลา หรือไม่ทันสังเกตว่าเป็นธนบัตรปลอมหรือไม่ ในขณะที่คนร้ายอีกส่วนหนึ่ง ก็จะนำบัตรเครดิตปลอมออกมาใช้จ่ายในการซื้อสินค้า หรือนำไปชำระค่าอาหารที่มีการจัดเลี้ยงในช่วงปีใหม่กันเป็นจำนวนมาก
โฆษก ตร.ได้ฝากถึงพี่น้องประชาชน และบริษัท ห้างร้านที่จะจัดงานเลี้ยงต่างๆ หรือผู้ที่จะเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนในช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ ได้โปรดใช้ความระมัดระวังโดยต้องไม่หลงเชื่อหรือไว้วางใจคนแปลกหน้า หรือผู้ที่เข้ามาตีสนิท หรือเป็นไปตามลักษณะกลุ่มคนร้ายที่ปรากฏอยู่ในแผนประทุษกรรมของแก๊งมิชาชีพที่ปรากฏอยู่ 10 รูปแบบข้างต้น ซึ่งในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้เฝ้าระวังและสืบสวนดำเนินการปราบปรามจับกุมอย่างต่อเนื่องต่อไป.
วานนี้ (20 ธ.ค.) พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ตร.พร้อมด้วย พ.ต.อ.อุดม สุวรรณเวชทิพย์ รอง ผบก.น.5 และ พ.ต.อ.เมธี รักษ์พันธุ์ ผกก.สน.วัดพระยาไกร เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 457/190 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ เพื่อเยี่ยมนายสว่าง จู่พิชญ์ อายุ 82 ปี และนางสุณี จู่พิชญ์ อายุ 78 ปี สองตายายซึ่งถูกคนร้ายลักทรัพย์เงินสดกว่า 1,000,000 บาท จากลิ้นชักในห้องนอน ซึ่งคนร้ายใช้วิธีการหลอกเหยื่อว่าเป็นช่างไฟฟ้าที่บุตรชายให้มาตรวจสอบระบบไฟฟ้าในบ้าน แล้วออกอุบายให้เจ้าของบ้านไปคอยปิดเปิดสวิตช์ไฟ จากนั้นก็อาศัยช่องโอกาสเข้าไปรื้อค้นเอาทรัพย์สินในบ้านไป ซึ่งต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ จากการสืบสวนขยายผลพบว่าคนร้ายได้ก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้งในหลายพื้นที่ โดยอาศัยช่วงเวลาที่ไม่มีคนอยู่บ้าน หรือมีเพียงคนชรา หรือเด็กรับใช้อยู่บ้านเพียงลำพังในเวลากลางวัน
โฆษก ตร.เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบฐานข้อมูลแผนประทุษกรรมคนร้ายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า นอกจากคนร้ายจะอาศัยช่วงเวลาที่ไม่มีคนอยู่บ้าน หรือมีเพียงเด็ก หรือคนชราอยู่เพียงลำพังแล้ว ในช่วงเทศกาลวันหยุดโดยเฉพาะเทศกาลวันขึ้นปีใหม่คนร้ายแก๊งต่างๆ ก็มักจะอาศัยช่วงโอกาสนี้ออกอุบายหลอกลวงเหยื่อเพื่อประทุษร้ายต่อทรัพย์ด้วยวิธีการต่างกัน โดยมีอยู่ 10 รูปแบบ ซึ่งประชาชนมักจะตกเป็นเหยื่อบ่อยครั้ง ได้แก่
1.แก๊งส่งของขวัญปีใหม่ คนร้ายจะออกสำรวจตามบ้านที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ มีเพียงคนรับใช้ที่เป็นเด็ก ผู้หญิง หรือผู้สูงอายุ อยู่ในบ้านโดยคนร้ายจะแอบอ้างว่ามีคนให้นำของขวัญมาส่งให้ที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นกระเช้า ดอกไม้ ของกิน และบางครั้งก็ใช้กล่องกระดาษขนาดใหญ่ ห่อด้วยกระดาษห่อของขวัญสวยงาม คล้ายมีน้ำหนักมาก ต้องขอให้คนในบ้านช่วยเปิดประตูให้ เพื่อจะได้ยกเข้าไปในบ้าน เมื่อคนในบ้านเผลอคนร้ายก็จะทำการรื้อค้นของมีค่าแล้วหลบหนีไป หรือบางกรณีคนร้ายจะทำการปล้นทรัพย์ หรือชิงทรัพย์ ด้วย
2.แก๊งสารพัดช่าง คนร้ายจะแอบอ้างกับผู้ดูแลบ้านที่เป็นคนรับใช้ เด็ก ผู้หญิง หรือผู้สูงอายุว่า เจ้าของบ้านให้มาซ่อมแอร์ ท่อประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ หรือโทรทัศน์ โดยใช้คำพูดที่ทำให้คนในบ้านเชื่อถือและยอมให้เข้ามาในบ้าน จากนั้นคนร้ายจะทำทีไปซ่อมสิ่งต่าง ๆ ตามที่ได้แอบอ้าง และหลอกให้คนในบ้านไปดูแผงควบคุมไฟฟ้า หรือวาล์วเปิด-ปิดน้ำ จากนั้นคนร้ายจะทำการรื้อค้นของมีค่าแล้วหลบหนีไป หรือบางกรณีก็จะทำการปล้นทรัพย์ หรือชิงทรัพย์เช่นเดียวกัน
3.แก๊งขายสินค้าราคาถูก คนร้ายจะขับรถตระเวนขายสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งของใช้ประจำวัน และเครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ ไปตามหมู่บ้าน โดยโฆษณาชวนเชื่อว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงมาบริการจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพจากโรงงาน ที่มีการเลหลังล้างสต็อก ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว สินค้าที่นำมาจำหน่ายนั้นเป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ หรือหมดอายุ หากเป็นสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า เมื่อนำไปใช้แล้วก็อาจจะเกิดอันตราย หรือทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรจนเกิดเพลิงไหม้ได้
4.แก๊งจัดงานเลี้ยง คนร้ายมีพฤติกรรมการกระทำความผิด 2 รูปแบบ คือ 1) คนร้ายแอบอ้างกับเจ้าของร้านค้าว่า จะจัดงานเลี้ยงโดยติดต่อให้ส่งของต่างๆ ไปไว้ตามสถานที่จัดงาน พร้อมกับอ้างว่าจะนำเงินไปจ่ายให้ภายหลัง หรือให้เงินมัดจำไว้ส่วนหนึ่ง เมื่อทางร้านค้าส่งของไปยังที่นัดหมายแล้ว คนร้ายจะแอบขนของหลบหนีไป และ 2) คนร้ายแอบอ้างกับผู้ที่ต้องการจะจัดงานเลี้ยงว่า รู้จักกับเจ้าของร้านขายอาหารและสามารถสั่งได้ในราคาถูก ทำให้ผู้ที่จะจัดงานเลี้ยง หลงเชื่อยอมจ่ายเงินค่า อาหารบางส่วนให้กับคนร้าย แต่เมื่อถึงวันจัดเลี้ยง ปรากฏว่าไม่มีการส่งอาหารมาให้แต่อย่างใด
5.แก๊งเรี่ยไรทำบุญ คนร้ายจะออกตระเวนเดินเรี่ยไร บางกลุ่มปลอมตัวเป็นพระภิกษุสามเณร ออกรับบริจาคเงิน หรือสิ่งของ เพื่อนำไปทำบุญตามวัดต่างๆ ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ หรือแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯ ออกเรี่ยไรตามบ้าน ตลาด หรือชุมชน ให้ร่วมกันบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ หรือทหารและตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ บางทีก็มีการนำรูปภาพ หรือรูปปั้น ซึ่งอ้างว่าผ่านการปลุกเสกแล้วมาให้เช่าด้วย
6.แก๊งชุบหรือล้างทองรูปพรรณ คนร้ายจะขับรถไปตามหมู่บ้านหรือสถานที่สาธารณต่าง ๆ เพื่อรับชุบหรือล้างทองรูปพรรณ ให้สะอาดและดูใหม่ เพื่อจะได้นำไปใช้เป็นเครื่องประดับในช่วงปีใหม่ โดยคนร้ายจะอาศัยช่วงที่เจ้าของทองเผลอเอาทองปลอมที่เตรียมไว้ขึ้นมาเปลี่ยน โดยเจ้าของทองไม่ได้สังเกตหรือเอะใจ กว่าจะรู้ตัวคนร้ายก็หลบหนีไปไกลแล้ว
7.แก๊งล้วงและกรีดกระเป๋า คนร้ายกระทำกันเป็นขบวนการ โดยเฉพาะในสถานีขนส่ง หรือบริเวณย่านการค้าที่มีผู้คนเป็นจำนวนมาก โดยหัวหน้าทีมจะเป็นคนคอยเล็งดูเหยื่อว่าคนไหนที่ดูทีท่าว่าน่าจะมีเงิน ก็จะส่งสัญญาณให้เพื่อนร่วมทีมเดินเข้าประกบเหยื่อ โดยหัวหน้าทีมจะเดินเข้าหาเหยื่อแล้วใช้กระดาษที่เตรียมมายกขึ้นบัง ส่วนมืออีกข้างหนึ่งจะทำการกรีดกระเป๋าหรือล้วงเข้าไปหยิบทรัพย์สินในกระเป๋า โดยที่เหยื่อไม่รู้ตัว
8.แก๊งมอมยา คนร้ายจะผสมยานอนหลับลงในน้ำดื่ม กาแฟกระป๋อง หรืออาหาร จากนั้นจะทำทีเข้าไปตีสนิทชิดเชื้อกับผู้โดยสารที่อยู่ระหว่างรอรถ หรือผู้โดยสารที่อยู่บนรถ โดยใช้จิตวิทยาในการพูดคุย และตีสนิทด้วยภาษาท้องถิ่น เสมือนเป็นคนบ้านเดียวกัน หลังจากนั้นแสดงความมีน้ำใจ โดยชักชวนให้ดื่มน้ำ หรือกาแฟที่เตรียมไว้ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อและดื่มเข้าไป ก็จะสะลึมสะลือหรือนอนหลับไป จากนั้นคนร้ายจะทำการหยิบทรัพย์สินที่มีค่า แล้วหลบหนีหรือลงจากรถในสถานีถัดไป
9.แก๊งชวนเล่นการพนัน คนร้ายจะชักชวนกลุ่มผู้โดยสารระหว่างรอรถ หรือในระหว่างร่วมเดินทางไปกับผู้โดยสารบนรถไฟ หรือรถโดยสาร หรือในระหว่างที่หยุดพักระหว่างทาง โดยเป็นกลุ่มผู้โดยสารที่ได้ตีสนิทไว้แล้ว ให้มาร่วมเล่นการพนัน ในรูปแบบต่างๆ เช่น กำถั่ว ตลับยาหม่อง หรือ ไพ่สามใบ โดยมีหน้าม้าทำทีว่าทายถูกอยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่อเหยื่อหลงเชื่อและทายบ้าง กลับเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก
10.แก๊งใช้ธนบัตรปลอม และบัตรเครดิตปลอม คนร้ายนำธนบัตรปลอมในราคาต่าง ๆ มาจับจ่ายใช้สอยตามตลาด แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีประชาชนมาจับจ่ายใช้สอย และเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้ผู้ขายสินค้า หรือให้บริการไม่มีเวลา หรือไม่ทันสังเกตว่าเป็นธนบัตรปลอมหรือไม่ ในขณะที่คนร้ายอีกส่วนหนึ่ง ก็จะนำบัตรเครดิตปลอมออกมาใช้จ่ายในการซื้อสินค้า หรือนำไปชำระค่าอาหารที่มีการจัดเลี้ยงในช่วงปีใหม่กันเป็นจำนวนมาก
โฆษก ตร.ได้ฝากถึงพี่น้องประชาชน และบริษัท ห้างร้านที่จะจัดงานเลี้ยงต่างๆ หรือผู้ที่จะเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนในช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ ได้โปรดใช้ความระมัดระวังโดยต้องไม่หลงเชื่อหรือไว้วางใจคนแปลกหน้า หรือผู้ที่เข้ามาตีสนิท หรือเป็นไปตามลักษณะกลุ่มคนร้ายที่ปรากฏอยู่ในแผนประทุษกรรมของแก๊งมิชาชีพที่ปรากฏอยู่ 10 รูปแบบข้างต้น ซึ่งในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้เฝ้าระวังและสืบสวนดำเนินการปราบปรามจับกุมอย่างต่อเนื่องต่อไป.