ASTVผู้จัดการรายวัน – ชุมพล เตรียมผนึกกระทรวงคมนาคมล้างบางมาเฟียแท๊กซี่ป้ายดำ จ.ภูเก็ต ระบุปล่อยไว้ กระทบภาพลักษณ์ประเทศ
นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้หารือกับผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตัวแทนจากกระทรวงคมนาคม และเอกชนในภาคท่องเที่ยว เพื่อหารือถึงกรณี กรณีที่ ทุย นอร์ดิก ซึ่งเป็นบริษัทนำเที่ยวรายใหญ่จากสแกนดิเนเวีย เข้าร้องเรียน ถึงปัญหาแท๊กซี่ป้ายดำที่ให้บริการที่ จ.ภูเก็ต ได้ทำการข่มขู่นักท่องเที่ยวที่เป็นลูกค้าของบริษัททุย
โดยการบังคับให้เปลี่ยนบริษัทนำเที่ยว และเปลี่ยนโรงแรมที่ใช้บริการ และปิดล้อมโรงแรม ทำให้นักท่องเที่ยวต้องใช้บริการแท๊กซี่กลุ่มนี้เท่านั้นจึงจะออกจากโรงแรมที่พักได้ เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย อาจทำให้เกิดการยกเลิกการเดินทางเข้ามาภูเก็ตอีก
จากการรับฟังปัญหาดังกล่าว สรุปได้ว่า รัฐบาลจะเร่งจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน โดยนัดนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม มาหารืออีกครั้งสัปดาห์หน้า โดยขณะนี้กระทรวงฯได้ประสานตำรวจท่องเที่ยว ให้เป็นศูนย์กลางประสานงานในการแก้ปัญหา ซึ่งตำรวจจะส่งเจ้าหน้าที่จากกองปราบปราม, กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ(ปปป.) และตำรวจท่องเที่ยว เข้าไปแก้ปัญหา โดยเร่งด่วน
“การแก้ปัญหาเรื่องนี้ไม่ง่ายนักเพราะกลุ่มแท็กซี่ป้ายดำมีผู้มีอิทธิพล มีระดับบริหารองค์การส่วนท้องถิ่นหนุนหลังอยู่ แต่เชื่อว่าหากส่วนกลางเข้ามาแก้ปัญหาจริงจัง ก็น่าจะทำให้ปัญหาเบาบางลง เช่นเดียวกับการแก้ปัญหามาเฟียเจ็ทสกี ในช่วงที่ผ่านมา”
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าภูเก็ต ช่วง 11 เดือน(ม.ค.-พ.ย.) อยู่ที่ 996,423 คน โดยเดือยพ.ย. มีนักท่องเที่ยว 115,357 คน สำหรับเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยทั้งปีนี้ ยังมั่นใจว่าจะได้ 14 ล้านคนเช่นเดิม ส่วนปีหน้าก็ยังยืนยันเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวไว้เท่าที่เคยประเมิน คือ 16 ล้านคน
/////////////////////////
นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้หารือกับผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตัวแทนจากกระทรวงคมนาคม และเอกชนในภาคท่องเที่ยว เพื่อหารือถึงกรณี กรณีที่ ทุย นอร์ดิก ซึ่งเป็นบริษัทนำเที่ยวรายใหญ่จากสแกนดิเนเวีย เข้าร้องเรียน ถึงปัญหาแท๊กซี่ป้ายดำที่ให้บริการที่ จ.ภูเก็ต ได้ทำการข่มขู่นักท่องเที่ยวที่เป็นลูกค้าของบริษัททุย
โดยการบังคับให้เปลี่ยนบริษัทนำเที่ยว และเปลี่ยนโรงแรมที่ใช้บริการ และปิดล้อมโรงแรม ทำให้นักท่องเที่ยวต้องใช้บริการแท๊กซี่กลุ่มนี้เท่านั้นจึงจะออกจากโรงแรมที่พักได้ เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย อาจทำให้เกิดการยกเลิกการเดินทางเข้ามาภูเก็ตอีก
จากการรับฟังปัญหาดังกล่าว สรุปได้ว่า รัฐบาลจะเร่งจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน โดยนัดนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม มาหารืออีกครั้งสัปดาห์หน้า โดยขณะนี้กระทรวงฯได้ประสานตำรวจท่องเที่ยว ให้เป็นศูนย์กลางประสานงานในการแก้ปัญหา ซึ่งตำรวจจะส่งเจ้าหน้าที่จากกองปราบปราม, กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ(ปปป.) และตำรวจท่องเที่ยว เข้าไปแก้ปัญหา โดยเร่งด่วน
“การแก้ปัญหาเรื่องนี้ไม่ง่ายนักเพราะกลุ่มแท็กซี่ป้ายดำมีผู้มีอิทธิพล มีระดับบริหารองค์การส่วนท้องถิ่นหนุนหลังอยู่ แต่เชื่อว่าหากส่วนกลางเข้ามาแก้ปัญหาจริงจัง ก็น่าจะทำให้ปัญหาเบาบางลง เช่นเดียวกับการแก้ปัญหามาเฟียเจ็ทสกี ในช่วงที่ผ่านมา”
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าภูเก็ต ช่วง 11 เดือน(ม.ค.-พ.ย.) อยู่ที่ 996,423 คน โดยเดือยพ.ย. มีนักท่องเที่ยว 115,357 คน สำหรับเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยทั้งปีนี้ ยังมั่นใจว่าจะได้ 14 ล้านคนเช่นเดิม ส่วนปีหน้าก็ยังยืนยันเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวไว้เท่าที่เคยประเมิน คือ 16 ล้านคน
/////////////////////////