ASTVผู้จัดการรายวัน – ส.นิตยสารฯ ชี้ทางปีหน้า ตลาดนิตยสารกลับมาฟื้นได้ใกล้เคียงก่อนช่วงเกิดวิกฤติ สรุปทั้งปีมีนิตยสารเกิดใหม่ 39 หัว เป็นหัวนอกน้อยลง ปิดตัวลง 2 หัว เผยสื่อใหม่ไม่สามารถแทนที่สื่อสิ่งพิมพ์ได้ แต่ควรใช้คู่กัน เพื่อสร้างฐานผู้อ่านและต่อยอดรายได้เพิ่มขึ้น
นายธนาชัย ธีรพัฒน์วงศ์ นายกสมาคมนิตยสารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดนิตยสารในประเทศไทย ปีนี้มองว่ายังตกลงอยู่ ขณะที่ช่วงไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมา เป็นช่วงที่วิกฤติสุด ลูกค้าถอดโฆษณาออกไปไม่ต่ำกว่า 20-30% และเริ่มกลับมาดีขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่าในปีหน้า ภาพรวมตลาดน่าจะกลับมามีมูลค่าได้ใกล้เคียงกับช่วงก่อนมีวิกฤติเศรษฐกิจนี้เกิดขึ้น
ทิศทางของตลาดในครั้งนี้ เป็นไปในทิศทางเดียวกันภาพรวมเศรษฐกิจ และทิศทางตลาดนิตยสารระดับโลกอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามสำหรับอุตสาหกรรมตลาดนิตยสารในอเมริกา ปีหน้าแนวโน้มดีขึ้น แต่มองว่าอีก 2-3 ปี จึงจะกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง นั่นแปลว่าของไทยฟื้นตัวได้ดีกว่า
สำหรับประเทศไทย ถึงแม้ว่าตลาดนิตยสารปีนี้จะเริ่มฟื้นตัว แต่กลับพบว่าทั้งปี มีการเปิดตัวนิตยสารหัวใหม่จำนวนกว่า 39 หัว มีทั้งหัวไทยและหัวนอก โดยอัตราส่วนหัวนอกมีน้อยกว่าปีก่อน อาทิ เช่น GraziaและMarthaa Stewart โดยทั้งตลาดพบว่ามีจำนวนนิตยสารที่แอกทีฟอยู่ราว 293 หัว ในจำนวนดังกล่าวเป็นสมาชิกของสมาคม 130 หัว โดยปีนี้มีการปิดตัวลงเพียง 2 หัว
นายธนาชัย กล่าวต่อว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา จะพบว่าสื่อนิวมีเดียมาแรงมาก และหลายฝ่ายคิดว่าจะเป็นสื่อที่จะมาแทนที่สื่อสิ่งพิมพ์ ทั้งในส่วนของนิตยสารและหนังสือพิมพ์ สำหรับตนกลับมองว่า ประเทศไทยสื่อนิวมีเดียไม่สามารถเข้ามาแทนที่สื่อสิ่งพิมพ์ได้ 100% เพียงแต่จะเป็นตัวเสริมในการเพิ่มฐานลูกค้าและรายได้ให้เข้ามาเพิ่มอีกเล็กน้อย เพราะพื้นฐานสภาพเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของคนไทย ยังเข้าถึงสื่ออินเตอร์เนตได้ไม่มากนัก อีกทั้งสื่อนิวมีเดีย สร้างรายได้คิดเป็น 1% ของภาพรวมตัวเลขโฆษณาทั้งปี ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก
ด้านนายเทวินทร์ อินทร์จำนงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ ศูนย์วิจัยเอแบคนวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กล่าวถึงผลวิจัย เรื่อง “พฤติกรรมการบริโภคสื่อนิตยสารและแนวโน้มผู้อ่านนิตยสารในปัจจุบันปี 2552” พบว่า ผู้ชายจะนิยมอ่านนิตยสารใน 5 อันดับแรกคือ ท่องเที่ยว, ยานยนต์, บ้าน สวนตกแต่ง, เทคดนโลยี และไลฟ์สไตล์ผู้ชาย ตามลำดับ
ส่วนผู้หญิง จะนิยมอ่าน ไลฟ์สไตล์ผู้หญิง, สุขภาพความงาม, ท่องเที่ยว, วาไรตี้/บันเทิง และบ้าน สวนตกแต่ง ตามลำดับ โดยค่าเฉลี่ยของการอ่านนิตยสารในปีนี้ เพิ่มขึ้น 58.9% ซึ่งจำนวนที่อ่านนิตยสาร จะอยู่ที่เดือนละ 4 เล่นขึ้นไปมีสัดส่วนสูงถึง 70% และมีการซื้อในร้านหนังสือที่มีหลายสาขา ในสัดส่วนกว่า 63.8% ของจำนวนผู้ตอบแบบสอบถาม
นายธนาชัย ธีรพัฒน์วงศ์ นายกสมาคมนิตยสารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดนิตยสารในประเทศไทย ปีนี้มองว่ายังตกลงอยู่ ขณะที่ช่วงไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมา เป็นช่วงที่วิกฤติสุด ลูกค้าถอดโฆษณาออกไปไม่ต่ำกว่า 20-30% และเริ่มกลับมาดีขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่าในปีหน้า ภาพรวมตลาดน่าจะกลับมามีมูลค่าได้ใกล้เคียงกับช่วงก่อนมีวิกฤติเศรษฐกิจนี้เกิดขึ้น
ทิศทางของตลาดในครั้งนี้ เป็นไปในทิศทางเดียวกันภาพรวมเศรษฐกิจ และทิศทางตลาดนิตยสารระดับโลกอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามสำหรับอุตสาหกรรมตลาดนิตยสารในอเมริกา ปีหน้าแนวโน้มดีขึ้น แต่มองว่าอีก 2-3 ปี จึงจะกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง นั่นแปลว่าของไทยฟื้นตัวได้ดีกว่า
สำหรับประเทศไทย ถึงแม้ว่าตลาดนิตยสารปีนี้จะเริ่มฟื้นตัว แต่กลับพบว่าทั้งปี มีการเปิดตัวนิตยสารหัวใหม่จำนวนกว่า 39 หัว มีทั้งหัวไทยและหัวนอก โดยอัตราส่วนหัวนอกมีน้อยกว่าปีก่อน อาทิ เช่น GraziaและMarthaa Stewart โดยทั้งตลาดพบว่ามีจำนวนนิตยสารที่แอกทีฟอยู่ราว 293 หัว ในจำนวนดังกล่าวเป็นสมาชิกของสมาคม 130 หัว โดยปีนี้มีการปิดตัวลงเพียง 2 หัว
นายธนาชัย กล่าวต่อว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา จะพบว่าสื่อนิวมีเดียมาแรงมาก และหลายฝ่ายคิดว่าจะเป็นสื่อที่จะมาแทนที่สื่อสิ่งพิมพ์ ทั้งในส่วนของนิตยสารและหนังสือพิมพ์ สำหรับตนกลับมองว่า ประเทศไทยสื่อนิวมีเดียไม่สามารถเข้ามาแทนที่สื่อสิ่งพิมพ์ได้ 100% เพียงแต่จะเป็นตัวเสริมในการเพิ่มฐานลูกค้าและรายได้ให้เข้ามาเพิ่มอีกเล็กน้อย เพราะพื้นฐานสภาพเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของคนไทย ยังเข้าถึงสื่ออินเตอร์เนตได้ไม่มากนัก อีกทั้งสื่อนิวมีเดีย สร้างรายได้คิดเป็น 1% ของภาพรวมตัวเลขโฆษณาทั้งปี ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก
ด้านนายเทวินทร์ อินทร์จำนงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ ศูนย์วิจัยเอแบคนวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กล่าวถึงผลวิจัย เรื่อง “พฤติกรรมการบริโภคสื่อนิตยสารและแนวโน้มผู้อ่านนิตยสารในปัจจุบันปี 2552” พบว่า ผู้ชายจะนิยมอ่านนิตยสารใน 5 อันดับแรกคือ ท่องเที่ยว, ยานยนต์, บ้าน สวนตกแต่ง, เทคดนโลยี และไลฟ์สไตล์ผู้ชาย ตามลำดับ
ส่วนผู้หญิง จะนิยมอ่าน ไลฟ์สไตล์ผู้หญิง, สุขภาพความงาม, ท่องเที่ยว, วาไรตี้/บันเทิง และบ้าน สวนตกแต่ง ตามลำดับ โดยค่าเฉลี่ยของการอ่านนิตยสารในปีนี้ เพิ่มขึ้น 58.9% ซึ่งจำนวนที่อ่านนิตยสาร จะอยู่ที่เดือนละ 4 เล่นขึ้นไปมีสัดส่วนสูงถึง 70% และมีการซื้อในร้านหนังสือที่มีหลายสาขา ในสัดส่วนกว่า 63.8% ของจำนวนผู้ตอบแบบสอบถาม