ASTVผู้จัดการรายวัน – สหภาพฯ บินไทย ยื่นกมธ.ส.ว.สอบ “วัลลภ” จี้ลาออกด่วนเหตุผิดจริยธรรมร้ายแรง บี้ทบทวนสิทธิพิเศษบอร์ดบินฟรีตลอดชีพให้ใช้ได้แค่ในวาระเท่านั้น ด้านพนักงานรวมตัวแต่งดำประท้วงวันนี้กดดันจนว่าจะลาออก “บรรณวิทย์”ยื่นหนังสือถึงนายกฯไล่“วัลลภ” พ้นปธ.บอร์ดบินไทย
นางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพการบินไทย พร้อมด้วย ตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เพื่อให้ตรวจสอบกรณีนายวัลลภ พุกกะณะสุต บอร์ดการบินไทยใช้อำนาจโดยไม่ชอบ กรณีที่ขนสัมภาระจากประเทศญี่ปุ่นโดยมีน้ำหนักกว่า 500 กิโลกรัม แต่แจ้งเพียงกว่า 100 กว่ากิโลกรัม ทำให้การบินไทยสูญเสียผลประโยชน์ไม่น้อยกว่า 4 แสนบาท ยังไม่รวมภาษีที่ต้องจ่ายจากการขนสัมภาระดังกล่าว การกระทำเช่นนี้กระทบต่อความน่าเชื่อของการบินไทย โดยเฉพาะในเรื่องความปลอดภัย เพราะโดยกปกติเครื่องบินจะมีการกำหนดน้ำหนักสูงสุดที่สามารถบรรทุกได้ แต่หากมีการโกงน้ำหนักเช่นนี้จะทำให้เครื่องบินสูญเสียความสมดุลถือว่าเสี่ยงทำให้เครื่องบินตกได้
“เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นทางการเมืองตามที่บอร์ดคนนี้กล่าวอ้าง เพราะการแต่งตั้งผ่านไปแล้ว 1 ปี และไม่เคยมีกระแสปรับเปลี่ยนตำแหน่ง แต่เป็นเรื่องผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง สหภาพฯ จะรณรงค์ไม่ยอมรับรับบอร์ดคนนี้อย่างเข้มข้น ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้บอร์ดคนนี้ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ และรักษาความน่าเชื่อถือของการบินไทย และไม่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้แก่พนักงานการบินไทย” นางแจ่มศรีกล่าวและว่า ขณะนี้กำลังต่อต้านนโยบายคนที่เคยเป็นบอร์ดการบินไทยสามารถบินฟรีได้ตลอดชีวิต โดยขอให้ใช้เฉพาะในวาระที่เป็นบอร์ดเท่านั้น
น.ส.รสนา กล่าวว่า กมธ.จะรับเรื่องไว้พิจารณาโดยเชิญตัวแทนจากการท่าอากาศยานมาชี้แจง โดยเฉพาะในส่วนเจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบสัมภาระ เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งของที่อยู่ในสัมภาระเป็นอะไร ต้องเสียภาษีเท่าไหร่ และการโกงน้ำหนักเช่นนี้ไม่ทราบว่าในสมัยที่เป็นผู้บริหารเคยกระทำหรือไม่ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ที่มีข้อมูลขณะที่บอร์ดคนดังกล่าวเป็นผู้บริหารว่าเคยมีพฤติกรรมนี้หรือไม่ ส่งมาให้ กมธ.เพื่อตรวจสอบต่อไป
แหล่งข่าวจากบริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) THAI กล่าวถึงกรณีนายวัลลภ ที่ขนสัมภาระจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีน้ำหนักกว่า 500กิโลกรัม นั้นมีเอกสารชัดเจนยืนยันในการขนสัมภาระดังกล่าว ซึ่งการที่ผู้บริหารของการบินไทยพฤติกรรมการกระทำดังกล่าวนั้นไม่สามารถกระทำได้ แต่ต้องมีผู้ให้ความร่วมมือในการอนุมัติการขนสัมภาระกว่า 500 กิโลกรัม ซึ่งในการอนุมัติน้ำหนักมากมายขนาดนี้ผู้จัดการสถานีประจำโตเกียวของการบินไทยเป็นผู้อนุมัติ ดังนั้นควรจะได้รับการพิจารณาลงโทษและถูกสอบสวนด้วย
"การสอบสวนหาคนกระทำผิดนั้นควรจะต้องมีการตรวจสอบผู้จัดการสถานีประจำโตเกียว เพราะเป็นผู้อนุมัติการขนสัมภาระของนายวัลลภ ซึ่งว่ากันว่าเป็นผู้ที่มีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และเป็นผู้ดำเนินการเรื่องน้ำหนักให้"แหล่งข่าวคนเดียวกัน กล่าว
นอกจากนี้ได้มีหนังสือเวียนภายในบริษัทการบินไทยว่าจะมีการเชิญชวนคนการบินไทยแสดงความไม่ต้องการนายวัลลภ ด้วยการแสดงประชามติคือการแต่งกายร่วมกันในชุดดำ เพื่อแสดงพลังในวันที่ 17 ธันวาคม 2552 เป็นต้นไปจนกว่าจะลาออก
**“บรรณวิทย์” จี้นายกฯไล่“วัลลภ”
พลเรือเอกบรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานคณะกรรมการตรวจสอบอำนาจของสมัชชาประชาชนแห่งประเทศ และผู้ถือหุ้นบริษัท การบินไทย เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการตรวจสอบนายวัลลภ และภรรยา ในความผิดตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดชองพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 20 ปี หรือตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 40,000 บาท หรือประหารชีวิต ทั้งนี้ได้ขอร้องให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของนายกฯภายใน 7 วัน หากยังเพิกเฉยจะถือว่าไม่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพการบินไทย พร้อมด้วย ตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เพื่อให้ตรวจสอบกรณีนายวัลลภ พุกกะณะสุต บอร์ดการบินไทยใช้อำนาจโดยไม่ชอบ กรณีที่ขนสัมภาระจากประเทศญี่ปุ่นโดยมีน้ำหนักกว่า 500 กิโลกรัม แต่แจ้งเพียงกว่า 100 กว่ากิโลกรัม ทำให้การบินไทยสูญเสียผลประโยชน์ไม่น้อยกว่า 4 แสนบาท ยังไม่รวมภาษีที่ต้องจ่ายจากการขนสัมภาระดังกล่าว การกระทำเช่นนี้กระทบต่อความน่าเชื่อของการบินไทย โดยเฉพาะในเรื่องความปลอดภัย เพราะโดยกปกติเครื่องบินจะมีการกำหนดน้ำหนักสูงสุดที่สามารถบรรทุกได้ แต่หากมีการโกงน้ำหนักเช่นนี้จะทำให้เครื่องบินสูญเสียความสมดุลถือว่าเสี่ยงทำให้เครื่องบินตกได้
“เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นทางการเมืองตามที่บอร์ดคนนี้กล่าวอ้าง เพราะการแต่งตั้งผ่านไปแล้ว 1 ปี และไม่เคยมีกระแสปรับเปลี่ยนตำแหน่ง แต่เป็นเรื่องผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง สหภาพฯ จะรณรงค์ไม่ยอมรับรับบอร์ดคนนี้อย่างเข้มข้น ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้บอร์ดคนนี้ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ และรักษาความน่าเชื่อถือของการบินไทย และไม่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้แก่พนักงานการบินไทย” นางแจ่มศรีกล่าวและว่า ขณะนี้กำลังต่อต้านนโยบายคนที่เคยเป็นบอร์ดการบินไทยสามารถบินฟรีได้ตลอดชีวิต โดยขอให้ใช้เฉพาะในวาระที่เป็นบอร์ดเท่านั้น
น.ส.รสนา กล่าวว่า กมธ.จะรับเรื่องไว้พิจารณาโดยเชิญตัวแทนจากการท่าอากาศยานมาชี้แจง โดยเฉพาะในส่วนเจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบสัมภาระ เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งของที่อยู่ในสัมภาระเป็นอะไร ต้องเสียภาษีเท่าไหร่ และการโกงน้ำหนักเช่นนี้ไม่ทราบว่าในสมัยที่เป็นผู้บริหารเคยกระทำหรือไม่ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ที่มีข้อมูลขณะที่บอร์ดคนดังกล่าวเป็นผู้บริหารว่าเคยมีพฤติกรรมนี้หรือไม่ ส่งมาให้ กมธ.เพื่อตรวจสอบต่อไป
แหล่งข่าวจากบริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) THAI กล่าวถึงกรณีนายวัลลภ ที่ขนสัมภาระจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีน้ำหนักกว่า 500กิโลกรัม นั้นมีเอกสารชัดเจนยืนยันในการขนสัมภาระดังกล่าว ซึ่งการที่ผู้บริหารของการบินไทยพฤติกรรมการกระทำดังกล่าวนั้นไม่สามารถกระทำได้ แต่ต้องมีผู้ให้ความร่วมมือในการอนุมัติการขนสัมภาระกว่า 500 กิโลกรัม ซึ่งในการอนุมัติน้ำหนักมากมายขนาดนี้ผู้จัดการสถานีประจำโตเกียวของการบินไทยเป็นผู้อนุมัติ ดังนั้นควรจะได้รับการพิจารณาลงโทษและถูกสอบสวนด้วย
"การสอบสวนหาคนกระทำผิดนั้นควรจะต้องมีการตรวจสอบผู้จัดการสถานีประจำโตเกียว เพราะเป็นผู้อนุมัติการขนสัมภาระของนายวัลลภ ซึ่งว่ากันว่าเป็นผู้ที่มีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และเป็นผู้ดำเนินการเรื่องน้ำหนักให้"แหล่งข่าวคนเดียวกัน กล่าว
นอกจากนี้ได้มีหนังสือเวียนภายในบริษัทการบินไทยว่าจะมีการเชิญชวนคนการบินไทยแสดงความไม่ต้องการนายวัลลภ ด้วยการแสดงประชามติคือการแต่งกายร่วมกันในชุดดำ เพื่อแสดงพลังในวันที่ 17 ธันวาคม 2552 เป็นต้นไปจนกว่าจะลาออก
**“บรรณวิทย์” จี้นายกฯไล่“วัลลภ”
พลเรือเอกบรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานคณะกรรมการตรวจสอบอำนาจของสมัชชาประชาชนแห่งประเทศ และผู้ถือหุ้นบริษัท การบินไทย เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการตรวจสอบนายวัลลภ และภรรยา ในความผิดตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดชองพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 20 ปี หรือตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 40,000 บาท หรือประหารชีวิต ทั้งนี้ได้ขอร้องให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของนายกฯภายใน 7 วัน หากยังเพิกเฉยจะถือว่าไม่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
