ASTVผู้จัดการรายวัน-"แม้ว"วิดีโอลิงก์ปลุกสาวกเสื้อแดง อ้างเมื่อ10 ธ.ค.ปี 2475 รัฐธรรมนูญให้อำนาจสูงสุดเป็นของราษฎร แต่เวลาผ่านไป 77 ปี ราษฎรกลับเป็นผู้ถูกปกครองโดยกลุ่มอำมาตย์ ที่ทำอะไรตามใจชอบ ใช้อำนาจแบบสองมาตรฐาน ไร้คุณธรรม จริยธรรม พร้อมเรียกร้องให้สาวกต่อสู้เพื่อนำรัฐธรรมนูญปี 40 กลับมาให้ได้ ส่วนเรื่องของตัวเองเป็นเพียงผลพลอยได้ บอก"มาร์ค"ไม่จำเป็นต้องไล่บี้ เพราะพูดกันรู้เรื่อง และยินดีจะคุยด้วยทุกเรื่อง ยันต้องการกลับมารับใช้พี่น้องประชาชน ไม่จำเป็นต้องกลับมาเป็นนายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยของกลุ่มเสื้อแดง เมื่อวานนี้ (10 ธ.ค.)ว่า ตั้งแต่ช่วงสาย ทีมงานจัดการชุมนุมได้นำเวทีปราศรัยมาติดตั้งบริเวณฐานอนุสาวรีย์ฯ หันหน้าไปทางสี่แยกคอกวัว พร้อมนำจอโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่มาติดตั้งโดยรอบ อนุสาวรีย์ นอกจากนี้ได้มีการเรียกประชุมการ์ดเสื้อดำ เพื่อซักซ้อมความเข้าใจในการดูแลรักษาความเรียบร้อยในพื้นที่การชุมนุม
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังพร้อมกับรั้วเหล็ก มากั้นดูแลความปลอดภัยโดยรอบพื้นที่ชุมนุม ทั้งยังมีการตั้งจุดตรวจสกัดอย่างเข้มงวด หน้าอนุสรณ์สถานสี่แยกคอกวัว เพื่อป้องกันไม่ให้มือที่สามเข้ามาก่อเหตุวุ่นวาย
. โดยการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อรำลึกถึงวันรัฐธรรมนูญ แกนนำคนเสื้อแดงผลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัย เนื้อหาสำคัญส่วนใหญ่มุ่งเน้นถึงความไม่เป็นธรรมและไม่เป็นประชาธิปไตย ของรัฐธรรมนูญ ปี 2550 จึงเรียกร้องให้นำรัฐธรรมนูญปี 2540 กลับมาใช้ ท่ามกลางการดูแลความเรียบร้อยของการ์ดเสื้อแดง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้การชุมนุมเป็นไปอย่างเรียบร้อย
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา กลุ่มคนเสื้อแดงได้นำตัวแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา 2 คน และชาวพม่า 1 คน ที่ปะปนกับกลุ่มผู้ชุมนุม ส่งให้ตำรวจเพื่อตรวจสอบแล้ว เกรงว่าจะแฝงตัวเข้ามาเพื่อสร้างสถานการณ์และความวุ่นวาย
**"เสธ.แดง"นำอดีตทหารพรานร่วมม็อบ
ต่อมาเวลาประมาณ 12.00 น. พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ได้นำอดีตทหารพราน จากค่ายปักธงชัย ซึ่งปลดประจำการแล้ว สวมเครื่องแบบ ทหารพราน ประมาณ 50 คน ยืนแถลงข่าวกลางลานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยว่า ตนได้นำกลุ่มทหารพรานที่ปลดประจำการแล้ว ประมาณ 200 คน มาร่วมดูแลและรักษาความปลอดภัยให้กับการชุมนุมของคนเสื้อแดงจากพวกเสื้อสีน้ำเงิน
สำหรับอดีตทหารพราน ที่แต่งเครื่องแบบมาในวันนี้ หากตำรวจจะจับ ก็ให้กล้าเข้ามาจับ เพราะจะถูกเตะ แต่เชื่อว่าตำรวจส่วนใหญ่ เป็นเสื้อแดงจึงไม่น่าจะมีปัญหา
**"แม้ว"ปลุกเสื้อแดงเอา รธน.40 คืนมา
ต่อมาเวลา 19.15 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้วิดีโอลิงก์ มาที่ชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวทักทายและขอบคุณกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาชุมนุมกันในวันที่ 10 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันที่ประเทศไทยได้มีรัฐธรรมนูญ ฉบับถาวร ตั้งแต่ปี 2475 มาถึงวันนี้ เป็นเวลา 77 ปีแล้ว
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวถึง ธรรมนูญการปกครองฯ พ.ศ.2475 มาตรา 1 ที่บอกว่า "อำนาจสูงสุดเป็นของราษฎรทั้งหลาย" แต่เวลาผ่านมา 77 ปี ปัจจุบันราษฎร กลายเป็นผู้ถูกปกครอง เรื่องการเมือง การปกครอง ตกอยู่ในมือกลุ่มอำมาตย์ ทำให้ประชาชนได้รับความทุกข์ยาก ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจ การเมือง เนื่องเพราะผู้ปกครอง ปกครองโดยขาดจริยธรรม คุณธรรม ไม่มีความเป็นธรรมในสังคม
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า หากการเมืองไม่มั่นคง ยังสามารถแก้ไขได้ด้วยการเจรจาต่อรอง แต่ถ้าประชาธิปไตยไม่มั่นคง เป็นเรื่องที่แก้ไขยาก และประชาธิปไตยที่ไม่มั่นคงก็มาจากการเมืองที่ไม่มั่นคง วันนี้ประชาธิปไตยไทยอยู่ในสภาพง่อยเปลี้ย เสียขา การเมืองก็ไม่มั่นคง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ที่เรามีรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2540 ที่ทำให้ประชาธิปไตยมั่นคงดีอยู่แล้ว แต่เมื่อมีการรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ ทำให้ประชาธิปไตยอ่อนแองลงมาเป็นลำดับ
วันนี้ เราจะหวังถึงความมั่นคง ความมั่งคั่งยาก เพราะประชาธิปไตยไม่มั่นคง มีแต่การคอร์รัปชัน องค์กรอิสระ 2 มาตรฐาน ไม่ทำหน้าที่ที่ตัวเองควรจะทำ ทหารก็ไม่ทำหน้าที่ แต่ไปช่วยพันธมิตรฯ ยึดสนามบิน เจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ไม่เอาผิดพันธมิตรฯ ประชาชนกำลังถูกปกครองโดยกลุ่มผู้ใช้อำนาจตามอำเภอใจ ตามสั่ง ไม่ได้ใช้อำนาจที่ถูกต้องเป็นธรรม ตามกติกา จึงทำให้เกิดกลุ่มเสื้อแดงขึ้นมา เพราะเขาทนต่อการกระทำแบบ 2 มาตรฐานไม่ได้ ทนเห็นคนถูกรังแกไม่ได้ คนที่ทำผิดแต่ไม่ลงโทษ แต่คนที่ยังไม่ได้ทำผิดกลับถูกประณามว่าเป็นคนเลว
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่าอยากบอกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้ประชาชนมีความรู้ ไม่ใช่คนโง่ และขอให้นักการเมืองที่เล่นการเมืองเป็นอาชีพ ต้องสำนึกว่าประชาชนเป็นผู้สร้างท่านมา เพราะเขาลงคะแนนให้ วันนี้เขากำลังลำบากมาก
ช่วงที่มีการใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 เป็นช่วงที่ประชาชนมีความสุขที่สุด แต่เมื่อมีการฉีกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ทำให้ประชาชนลำบากมาก นักลงทุนไม่มีความเชื่อมั่น ทุกตลาดมีคนซื้อน้อยกว่าคนขาย แท็กซี่วิ่งทั้งวันไม่ได้สตางค์ ยาเสพติดเต็มเมือง
"ผมขอถามว่า ประเทศช้ำพอหรือยัง ประชาชนลำบากพอหรือยัง เรื่องการไล่ล่าผมนั้นผมถือเป็นเรื่องเล็ก แต่ขอให้เอาประชาธิปไตยคืนให้ประชาชน เอาประชาธิปไตยคืนให้ประชาชน เอาความเป็นธรรม คืนให้สังคม เอาศักดิ์ศรีคืนให้ประเทศชาติ เอารัฐธรรมนูญฉบับที่ดีดี คืนให้ประชาชน ส่วนเรื่องของผม เป็นเพียงแค่ผลพลอยได้ ไม่ต้องมาไล่บี้ผมมาก เพราะพูดกันรู้เรื่อง ถ้าอยากพูดก็มาพูดกัน ผมยังช่วยประเทศไทยได้อีกเยอะ แต่อย่าบอกให้หยุดพูดกับคนเสื้อแดง เหมือนกับคนที่ไปปล้นเขามา แล้วบอกให้อยู่นิ่งๆ เพราะกำลังกินข้าวอร่อย มันไม่ถูกต้อง แต่ถ้าจะคืนความเป็นธรรม ผมก็พร้อมจะคุยด้วยทุกเรื่อง" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังท้านายนายอภิสิทธิ์ ถ้าคุยว่ามีคะแนนนำ ก็ขอให้เลือกตั้งใหม่ ถ้าฝ่ายเสื้อแดงชนะ ก็จะเอารัฐธรรมนูญปี 40 คืนมา จะเอามาแก้ไขเพื่อให้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ดีที่สุด ของประเทศชาติ ของประชาชนเสียที
ในตอนท้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวขอบคุณคนเสื้อแดง ที่ให้กำลังใจ เห็นใจที่ถูกรังแก และพยายามหาทางให้ได้กลับไปอยู่ประเทศไทย
"ผมไม่อยากกลับไปเป็นนายกฯ แต่อยากกลับไปรับใช้พี่น้องประชาชน ไปทดแทนบุญคุณที่พี่น้องเป็นกำลังใจมาโดยตลอด" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ได้นำกลุ่มคนเสื้อแดงทำพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
**"แม้ว"เหิมปั่นหัวสาวกย้อนยุคปี 2475
สำหรับความเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ก่อนที่จะวิดีโอลิงก์ มาที่การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลาประมาณ 03.00 น. ตามเวลาในไทย พ.ต.ท.ทักษิณได้ส่งข้อความขึ้นเว็บไซต์ twitter.com หน้า Thaksinlive โดยกล่าวถึงวันรัฐธรรมนูญว่า "วันนี้เป็นวันรัฐธรรมนูญ ทำให้นึกถึง มาตรา 1 ธรรมนูญการปกครองฯ 2475 ที่บอกว่า อำนาจสูงสุดเป็นของราษฎรทั้งหลาย ปัจจุบันไม่ใช่แล้ว ราษฎรคือผู้ถูกปกครอง"
ทั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า ข้อความข้างต้นหมายถึงอะไร แต่หากไปดูเนื้อความในมาตรา 1 ของ พ.ร.บ.ธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยาม ชั่วคราว พ.ศ.2475 นั้น ระบุว่า "อำนาจสูงสุดของประเทศนั้นเป็นของราษฎรทั้งหลาย"
**ทหารพรานประจำการไม่เข้าร่วม
พ.อ.กิตติศักดิ์ บุญพระธรรมชัย ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 26 ( ผบ.กรมทพ.26) ค่ายปักธงชัย กล่าวว่า ในการชุมนุมครั้งนี้ จะไม่มีทหารพราน จากหน่วยที่ตนดูแลอยู่ เข้ามาร่วมการชุมนุมทางการเมืองตามที่เป็นข่าวแน่นอน ซึ่งขณะนี้ที่หน่วยนั้น มีภารกิจอยู่ 2 อย่างเท่านั้น คือ ดูแลชายแดน และทำโครงการวิวัฒน์พลเมือง ที่ ค่ายปักธงชัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้มีทหารพรานที่ประจำการ อยู่ที่ค่ายเพียง 51 นายเท่านั้น ส่วนที่เหลือต้องเข้าประจำการชายแดนทั้งหมด และตนเองกล้าให้คำมั่นสัญญาว่า หากพบว่าในวันนี้มีทหารในหน่วยที่ตนเองดูแล ไปปรากฏตัวในการชุมนุม จะขอรับผิดชอบทั้งหมด
**อ้าง"แดงปลอม"จากบุรีรัมย์จ้องป่วน
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำเสื้อแดง กล่าวว่าในช่วงเช้าวานนี้ ตนได้รับรายงานจากแกนนำคนเสื้อแดง จ.บุรีรัมย์ว่า ในจ.บุรีรัมย์ มีการระดมคนแจกเสื้อแดง พร้อมกับเหล็กแป๊บ เตรียมที่จะนำขึ้นรถจำนวน 4 คนรถ เตรียมเข้ากรุงเทพฯ ตนจึงประสานไปยังนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง ให้ไปเตือน นายเนวิน ชิดชอบ ว่า อย่านำกำลังเข้ามา เพราะจะไม่สามารถรับมือกับผู้ชุมนุมเสื้อแดงนับแสนคนได้ กองกำลังที่นายเนวิน เตรียมไว้ควรจะไปที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เพราะที่ผ่านมาได้รับรายงานว่า มีการสั่งการไปยัง อบต.ทั่วประเทศ ให้ใช้งบประมาณ อบต.ละ 60,000 บาท ระดมคน แจกเสื้อสีชมพู และกระเป๋าผ้าพรรคภูมิใจไทย ให้เข้ามาร่วมงานทุกวัน แต่เมื่อมีการจัดชุมนุม จึงมีความพยายามจะสร้างสถานการณ์ให้กับคนเสื้อแดง
ดังนั้น หากจับตัวได้และตรวจสอบพบว่าเป็นคนของนายเนวิน เราจะส่งตัวคืนให้นายเนวิน แต่ถ้าเป็นคนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ก็จะคืนให้กับนายสุเทพ
**ย้ำผู้ชุมนุมไม่มีสิทธิ์ติดอาวุธ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้ชุมนุมยืนยันตั้งแต่ต้นว่า ต้องการที่จะชุมนุมโดยสงบ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ก็เพียงเฝ้าระวัง และคิดว่าในบรรยากาศบ้านเมืองขณะนี้ ไม่ควรที่จะมีใครคิดทำอะไรที่ทำให้เกิดความรุนแรง ส่วนที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิ กองบัญชาการกองทัพบก (เสธ.แดง) แถลงจะมีการนำทหารพรานติดอาวุธเข้าร่วมการชุมนุมนั้น ไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พูดคุยกับทางทหารพรานเรียบร้อยแล้ว และยืนยันว่าไม่มีใครมีสิทธิติดอาวุธ เพราะการชุมนุมดังกล่าวเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่ให้ชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ
ดังนั้นหากมีใครนำอาวุธเข้าไป ก็ถือว่าผิด อย่างไรก็ตามรัฐบาลพยายามหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งกันอย่างถึงที่สุด อย่างเช่นมีการงดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ที่ถนนราชดำเนิน และจะเริ่มใหม่ในวันนี้
ส่วนที่คนเสื้อแดงบอกว่าหากเกิดเหตุการณ์รุนแรงจะชุมนุมยืดเยื้อนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบว่าเหตุใดจะต้องพยายามพูดให้บรรยากาศเสีย เพราะเดือนนี้เป็นเดือนที่ทุกคนต้องการที่จะให้เป็นเดือนมหามงคล ที่ทุกคนมีแต่ความสุข และรัฐบาลก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยอย่างชัดเจน จึงอยากให้ผู้ชุมนุมคำนึงถึงตรงนี้ด้วย และตนคิดว่าการชุมนุมคงไม่ยืดเยื้อ เพราะเขาพยายามจะพูดเพียงแค่ว่า ถ้ามีเงื่อนไขอะไรต่างๆ ก็อาจจะชุมนุมยืดเยื้อ แต่รัฐบาลไม่เป็นฝ่ายที่สร้างเงื่อนไขอยู่แล้ว
**จวกเสื้อแดงทำลายความสุขคนไทย
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า น่าเสียดายที่คนเสื้อแดง หยิบผลประโยชน์ของตัวเอง และของนายใหญ่มาทำลายบรรยากาศความสุขของคนไทยทั้งประเทศ
ทั้งนี้เมื่อคืนวันที่ 9 ธ.ค. ตนมีโอกาสไปเดินดูงานเฉลิมพระเกียรติ ที่ถนนราชดำเนิน พบว่ามีคนจำนวนมาก สนใจมาร่วมงาน ล้วนแล้วแต่มีความสุข หน้าตาเบิกบานแจ่มใส แต่เมื่อคนเสื้อแดงพยายามที่จะชุมนุม ตนก็กังวลเรื่องความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น นอกเหนือจากการขู่ของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกแล้ว ก็เชื่อว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดง จะมีคนไทยจำนวนมากที่ไม่พอใจ
**ตอก"แม้ว"สมานฉันท์แต่ปาก
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษารัฐบาลกัมพูชา ได้ทวิตเตอร์ ระบุว่า อีกไม่นานรากหญ้า และเสื้อแดงจะหมดแรงไป เขาจึงไม่ยอมปรองดอง ตนอยากถามว่า ใครกันแน่ที่ไม่ยอมปรองดอง และเคลื่อนไหวก่อกวนปลุกปั่นสร้างความวุ่นวายในประเทศไทยตลอดเวลา และสิ่งที่บอกว่าต้องการความปรองดองนั้น คือ อะไร คือตัวเองไม่ต้องติดคุก รัฐต้องคืนเงินจำนวน 76,000 ล้านบาท ที่ยึดไว้ใช่หรือไม่ หรือจะต้องยกเลิกคดีความของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่อยู่ในศาล
ถ้าสิ่งเหล่านี้ทำให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณทั้งหมด คือความปรองดองใช่หรือไม่ ตนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ถ้าจะเอาความปรองดองโดยให้ตัวเองพ้นผิดทั้งหมด เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และการที่บอกว่าเสื้อแดงจะหมดแรงหรือไม่ ตนคิดว่าเขาจะเคลื่อนไหวได้หรือไม่ อยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียว เพราะกำลังสนับสนุนของคนเสื้อแดง คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ถ้าปิดท่อน้ำเลี้ยง ตนเชื่อว่าน้ำแรงของคนเสื้อแดง ก็หมดไป ไม่มีกำลังที่จะเคลื่อนไหวต่อไป
**กทม.เตรียมพร้อมรับเหตุฉุกเฉิน
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังเดินทางตรวจสอบความเรียบร้อยการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณโดยรอบสถานที่ชุมนุม ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย เจ้าหน้าที่จึงได้ปิดเส้นทางการจราจร ตั้งแต่แยกสะพานผ่านฟ้า ถึงแยกคอกวัวจนถึงเวลา 24.00 น. ตามที่ผู้ชุมนุมประกาศว่าจะยุติการชุมนุม พร้อมขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางการดังกล่าว
นอกจากนี้ กทม.ได้จัดรถพยาบาลฉุกเฉิน 2 คัน ประจำที่ศาลาว่าการ กทม.ไว้รองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน และสามารถเรียกเพิ่มเติมได้หากมีเหตุจำเป็น รวมทั้งยังจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจอีก 100 นาย คอยเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งจัดรถสุขาเคลื่อนที่คอยอำนวยความสะดวกให้ผู้ชุมนุมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยของกลุ่มเสื้อแดง เมื่อวานนี้ (10 ธ.ค.)ว่า ตั้งแต่ช่วงสาย ทีมงานจัดการชุมนุมได้นำเวทีปราศรัยมาติดตั้งบริเวณฐานอนุสาวรีย์ฯ หันหน้าไปทางสี่แยกคอกวัว พร้อมนำจอโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่มาติดตั้งโดยรอบ อนุสาวรีย์ นอกจากนี้ได้มีการเรียกประชุมการ์ดเสื้อดำ เพื่อซักซ้อมความเข้าใจในการดูแลรักษาความเรียบร้อยในพื้นที่การชุมนุม
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังพร้อมกับรั้วเหล็ก มากั้นดูแลความปลอดภัยโดยรอบพื้นที่ชุมนุม ทั้งยังมีการตั้งจุดตรวจสกัดอย่างเข้มงวด หน้าอนุสรณ์สถานสี่แยกคอกวัว เพื่อป้องกันไม่ให้มือที่สามเข้ามาก่อเหตุวุ่นวาย
. โดยการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อรำลึกถึงวันรัฐธรรมนูญ แกนนำคนเสื้อแดงผลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัย เนื้อหาสำคัญส่วนใหญ่มุ่งเน้นถึงความไม่เป็นธรรมและไม่เป็นประชาธิปไตย ของรัฐธรรมนูญ ปี 2550 จึงเรียกร้องให้นำรัฐธรรมนูญปี 2540 กลับมาใช้ ท่ามกลางการดูแลความเรียบร้อยของการ์ดเสื้อแดง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้การชุมนุมเป็นไปอย่างเรียบร้อย
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา กลุ่มคนเสื้อแดงได้นำตัวแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา 2 คน และชาวพม่า 1 คน ที่ปะปนกับกลุ่มผู้ชุมนุม ส่งให้ตำรวจเพื่อตรวจสอบแล้ว เกรงว่าจะแฝงตัวเข้ามาเพื่อสร้างสถานการณ์และความวุ่นวาย
**"เสธ.แดง"นำอดีตทหารพรานร่วมม็อบ
ต่อมาเวลาประมาณ 12.00 น. พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ได้นำอดีตทหารพราน จากค่ายปักธงชัย ซึ่งปลดประจำการแล้ว สวมเครื่องแบบ ทหารพราน ประมาณ 50 คน ยืนแถลงข่าวกลางลานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยว่า ตนได้นำกลุ่มทหารพรานที่ปลดประจำการแล้ว ประมาณ 200 คน มาร่วมดูแลและรักษาความปลอดภัยให้กับการชุมนุมของคนเสื้อแดงจากพวกเสื้อสีน้ำเงิน
สำหรับอดีตทหารพราน ที่แต่งเครื่องแบบมาในวันนี้ หากตำรวจจะจับ ก็ให้กล้าเข้ามาจับ เพราะจะถูกเตะ แต่เชื่อว่าตำรวจส่วนใหญ่ เป็นเสื้อแดงจึงไม่น่าจะมีปัญหา
**"แม้ว"ปลุกเสื้อแดงเอา รธน.40 คืนมา
ต่อมาเวลา 19.15 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้วิดีโอลิงก์ มาที่ชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวทักทายและขอบคุณกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาชุมนุมกันในวันที่ 10 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันที่ประเทศไทยได้มีรัฐธรรมนูญ ฉบับถาวร ตั้งแต่ปี 2475 มาถึงวันนี้ เป็นเวลา 77 ปีแล้ว
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวถึง ธรรมนูญการปกครองฯ พ.ศ.2475 มาตรา 1 ที่บอกว่า "อำนาจสูงสุดเป็นของราษฎรทั้งหลาย" แต่เวลาผ่านมา 77 ปี ปัจจุบันราษฎร กลายเป็นผู้ถูกปกครอง เรื่องการเมือง การปกครอง ตกอยู่ในมือกลุ่มอำมาตย์ ทำให้ประชาชนได้รับความทุกข์ยาก ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจ การเมือง เนื่องเพราะผู้ปกครอง ปกครองโดยขาดจริยธรรม คุณธรรม ไม่มีความเป็นธรรมในสังคม
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า หากการเมืองไม่มั่นคง ยังสามารถแก้ไขได้ด้วยการเจรจาต่อรอง แต่ถ้าประชาธิปไตยไม่มั่นคง เป็นเรื่องที่แก้ไขยาก และประชาธิปไตยที่ไม่มั่นคงก็มาจากการเมืองที่ไม่มั่นคง วันนี้ประชาธิปไตยไทยอยู่ในสภาพง่อยเปลี้ย เสียขา การเมืองก็ไม่มั่นคง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ที่เรามีรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2540 ที่ทำให้ประชาธิปไตยมั่นคงดีอยู่แล้ว แต่เมื่อมีการรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ ทำให้ประชาธิปไตยอ่อนแองลงมาเป็นลำดับ
วันนี้ เราจะหวังถึงความมั่นคง ความมั่งคั่งยาก เพราะประชาธิปไตยไม่มั่นคง มีแต่การคอร์รัปชัน องค์กรอิสระ 2 มาตรฐาน ไม่ทำหน้าที่ที่ตัวเองควรจะทำ ทหารก็ไม่ทำหน้าที่ แต่ไปช่วยพันธมิตรฯ ยึดสนามบิน เจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ไม่เอาผิดพันธมิตรฯ ประชาชนกำลังถูกปกครองโดยกลุ่มผู้ใช้อำนาจตามอำเภอใจ ตามสั่ง ไม่ได้ใช้อำนาจที่ถูกต้องเป็นธรรม ตามกติกา จึงทำให้เกิดกลุ่มเสื้อแดงขึ้นมา เพราะเขาทนต่อการกระทำแบบ 2 มาตรฐานไม่ได้ ทนเห็นคนถูกรังแกไม่ได้ คนที่ทำผิดแต่ไม่ลงโทษ แต่คนที่ยังไม่ได้ทำผิดกลับถูกประณามว่าเป็นคนเลว
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่าอยากบอกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้ประชาชนมีความรู้ ไม่ใช่คนโง่ และขอให้นักการเมืองที่เล่นการเมืองเป็นอาชีพ ต้องสำนึกว่าประชาชนเป็นผู้สร้างท่านมา เพราะเขาลงคะแนนให้ วันนี้เขากำลังลำบากมาก
ช่วงที่มีการใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 เป็นช่วงที่ประชาชนมีความสุขที่สุด แต่เมื่อมีการฉีกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ทำให้ประชาชนลำบากมาก นักลงทุนไม่มีความเชื่อมั่น ทุกตลาดมีคนซื้อน้อยกว่าคนขาย แท็กซี่วิ่งทั้งวันไม่ได้สตางค์ ยาเสพติดเต็มเมือง
"ผมขอถามว่า ประเทศช้ำพอหรือยัง ประชาชนลำบากพอหรือยัง เรื่องการไล่ล่าผมนั้นผมถือเป็นเรื่องเล็ก แต่ขอให้เอาประชาธิปไตยคืนให้ประชาชน เอาประชาธิปไตยคืนให้ประชาชน เอาความเป็นธรรม คืนให้สังคม เอาศักดิ์ศรีคืนให้ประเทศชาติ เอารัฐธรรมนูญฉบับที่ดีดี คืนให้ประชาชน ส่วนเรื่องของผม เป็นเพียงแค่ผลพลอยได้ ไม่ต้องมาไล่บี้ผมมาก เพราะพูดกันรู้เรื่อง ถ้าอยากพูดก็มาพูดกัน ผมยังช่วยประเทศไทยได้อีกเยอะ แต่อย่าบอกให้หยุดพูดกับคนเสื้อแดง เหมือนกับคนที่ไปปล้นเขามา แล้วบอกให้อยู่นิ่งๆ เพราะกำลังกินข้าวอร่อย มันไม่ถูกต้อง แต่ถ้าจะคืนความเป็นธรรม ผมก็พร้อมจะคุยด้วยทุกเรื่อง" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังท้านายนายอภิสิทธิ์ ถ้าคุยว่ามีคะแนนนำ ก็ขอให้เลือกตั้งใหม่ ถ้าฝ่ายเสื้อแดงชนะ ก็จะเอารัฐธรรมนูญปี 40 คืนมา จะเอามาแก้ไขเพื่อให้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ดีที่สุด ของประเทศชาติ ของประชาชนเสียที
ในตอนท้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวขอบคุณคนเสื้อแดง ที่ให้กำลังใจ เห็นใจที่ถูกรังแก และพยายามหาทางให้ได้กลับไปอยู่ประเทศไทย
"ผมไม่อยากกลับไปเป็นนายกฯ แต่อยากกลับไปรับใช้พี่น้องประชาชน ไปทดแทนบุญคุณที่พี่น้องเป็นกำลังใจมาโดยตลอด" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ได้นำกลุ่มคนเสื้อแดงทำพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
**"แม้ว"เหิมปั่นหัวสาวกย้อนยุคปี 2475
สำหรับความเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ก่อนที่จะวิดีโอลิงก์ มาที่การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลาประมาณ 03.00 น. ตามเวลาในไทย พ.ต.ท.ทักษิณได้ส่งข้อความขึ้นเว็บไซต์ twitter.com หน้า Thaksinlive โดยกล่าวถึงวันรัฐธรรมนูญว่า "วันนี้เป็นวันรัฐธรรมนูญ ทำให้นึกถึง มาตรา 1 ธรรมนูญการปกครองฯ 2475 ที่บอกว่า อำนาจสูงสุดเป็นของราษฎรทั้งหลาย ปัจจุบันไม่ใช่แล้ว ราษฎรคือผู้ถูกปกครอง"
ทั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า ข้อความข้างต้นหมายถึงอะไร แต่หากไปดูเนื้อความในมาตรา 1 ของ พ.ร.บ.ธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยาม ชั่วคราว พ.ศ.2475 นั้น ระบุว่า "อำนาจสูงสุดของประเทศนั้นเป็นของราษฎรทั้งหลาย"
**ทหารพรานประจำการไม่เข้าร่วม
พ.อ.กิตติศักดิ์ บุญพระธรรมชัย ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 26 ( ผบ.กรมทพ.26) ค่ายปักธงชัย กล่าวว่า ในการชุมนุมครั้งนี้ จะไม่มีทหารพราน จากหน่วยที่ตนดูแลอยู่ เข้ามาร่วมการชุมนุมทางการเมืองตามที่เป็นข่าวแน่นอน ซึ่งขณะนี้ที่หน่วยนั้น มีภารกิจอยู่ 2 อย่างเท่านั้น คือ ดูแลชายแดน และทำโครงการวิวัฒน์พลเมือง ที่ ค่ายปักธงชัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้มีทหารพรานที่ประจำการ อยู่ที่ค่ายเพียง 51 นายเท่านั้น ส่วนที่เหลือต้องเข้าประจำการชายแดนทั้งหมด และตนเองกล้าให้คำมั่นสัญญาว่า หากพบว่าในวันนี้มีทหารในหน่วยที่ตนเองดูแล ไปปรากฏตัวในการชุมนุม จะขอรับผิดชอบทั้งหมด
**อ้าง"แดงปลอม"จากบุรีรัมย์จ้องป่วน
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำเสื้อแดง กล่าวว่าในช่วงเช้าวานนี้ ตนได้รับรายงานจากแกนนำคนเสื้อแดง จ.บุรีรัมย์ว่า ในจ.บุรีรัมย์ มีการระดมคนแจกเสื้อแดง พร้อมกับเหล็กแป๊บ เตรียมที่จะนำขึ้นรถจำนวน 4 คนรถ เตรียมเข้ากรุงเทพฯ ตนจึงประสานไปยังนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง ให้ไปเตือน นายเนวิน ชิดชอบ ว่า อย่านำกำลังเข้ามา เพราะจะไม่สามารถรับมือกับผู้ชุมนุมเสื้อแดงนับแสนคนได้ กองกำลังที่นายเนวิน เตรียมไว้ควรจะไปที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เพราะที่ผ่านมาได้รับรายงานว่า มีการสั่งการไปยัง อบต.ทั่วประเทศ ให้ใช้งบประมาณ อบต.ละ 60,000 บาท ระดมคน แจกเสื้อสีชมพู และกระเป๋าผ้าพรรคภูมิใจไทย ให้เข้ามาร่วมงานทุกวัน แต่เมื่อมีการจัดชุมนุม จึงมีความพยายามจะสร้างสถานการณ์ให้กับคนเสื้อแดง
ดังนั้น หากจับตัวได้และตรวจสอบพบว่าเป็นคนของนายเนวิน เราจะส่งตัวคืนให้นายเนวิน แต่ถ้าเป็นคนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ก็จะคืนให้กับนายสุเทพ
**ย้ำผู้ชุมนุมไม่มีสิทธิ์ติดอาวุธ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้ชุมนุมยืนยันตั้งแต่ต้นว่า ต้องการที่จะชุมนุมโดยสงบ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ก็เพียงเฝ้าระวัง และคิดว่าในบรรยากาศบ้านเมืองขณะนี้ ไม่ควรที่จะมีใครคิดทำอะไรที่ทำให้เกิดความรุนแรง ส่วนที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิ กองบัญชาการกองทัพบก (เสธ.แดง) แถลงจะมีการนำทหารพรานติดอาวุธเข้าร่วมการชุมนุมนั้น ไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พูดคุยกับทางทหารพรานเรียบร้อยแล้ว และยืนยันว่าไม่มีใครมีสิทธิติดอาวุธ เพราะการชุมนุมดังกล่าวเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่ให้ชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ
ดังนั้นหากมีใครนำอาวุธเข้าไป ก็ถือว่าผิด อย่างไรก็ตามรัฐบาลพยายามหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งกันอย่างถึงที่สุด อย่างเช่นมีการงดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ที่ถนนราชดำเนิน และจะเริ่มใหม่ในวันนี้
ส่วนที่คนเสื้อแดงบอกว่าหากเกิดเหตุการณ์รุนแรงจะชุมนุมยืดเยื้อนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบว่าเหตุใดจะต้องพยายามพูดให้บรรยากาศเสีย เพราะเดือนนี้เป็นเดือนที่ทุกคนต้องการที่จะให้เป็นเดือนมหามงคล ที่ทุกคนมีแต่ความสุข และรัฐบาลก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยอย่างชัดเจน จึงอยากให้ผู้ชุมนุมคำนึงถึงตรงนี้ด้วย และตนคิดว่าการชุมนุมคงไม่ยืดเยื้อ เพราะเขาพยายามจะพูดเพียงแค่ว่า ถ้ามีเงื่อนไขอะไรต่างๆ ก็อาจจะชุมนุมยืดเยื้อ แต่รัฐบาลไม่เป็นฝ่ายที่สร้างเงื่อนไขอยู่แล้ว
**จวกเสื้อแดงทำลายความสุขคนไทย
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า น่าเสียดายที่คนเสื้อแดง หยิบผลประโยชน์ของตัวเอง และของนายใหญ่มาทำลายบรรยากาศความสุขของคนไทยทั้งประเทศ
ทั้งนี้เมื่อคืนวันที่ 9 ธ.ค. ตนมีโอกาสไปเดินดูงานเฉลิมพระเกียรติ ที่ถนนราชดำเนิน พบว่ามีคนจำนวนมาก สนใจมาร่วมงาน ล้วนแล้วแต่มีความสุข หน้าตาเบิกบานแจ่มใส แต่เมื่อคนเสื้อแดงพยายามที่จะชุมนุม ตนก็กังวลเรื่องความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น นอกเหนือจากการขู่ของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกแล้ว ก็เชื่อว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดง จะมีคนไทยจำนวนมากที่ไม่พอใจ
**ตอก"แม้ว"สมานฉันท์แต่ปาก
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษารัฐบาลกัมพูชา ได้ทวิตเตอร์ ระบุว่า อีกไม่นานรากหญ้า และเสื้อแดงจะหมดแรงไป เขาจึงไม่ยอมปรองดอง ตนอยากถามว่า ใครกันแน่ที่ไม่ยอมปรองดอง และเคลื่อนไหวก่อกวนปลุกปั่นสร้างความวุ่นวายในประเทศไทยตลอดเวลา และสิ่งที่บอกว่าต้องการความปรองดองนั้น คือ อะไร คือตัวเองไม่ต้องติดคุก รัฐต้องคืนเงินจำนวน 76,000 ล้านบาท ที่ยึดไว้ใช่หรือไม่ หรือจะต้องยกเลิกคดีความของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่อยู่ในศาล
ถ้าสิ่งเหล่านี้ทำให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณทั้งหมด คือความปรองดองใช่หรือไม่ ตนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ถ้าจะเอาความปรองดองโดยให้ตัวเองพ้นผิดทั้งหมด เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และการที่บอกว่าเสื้อแดงจะหมดแรงหรือไม่ ตนคิดว่าเขาจะเคลื่อนไหวได้หรือไม่ อยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียว เพราะกำลังสนับสนุนของคนเสื้อแดง คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ถ้าปิดท่อน้ำเลี้ยง ตนเชื่อว่าน้ำแรงของคนเสื้อแดง ก็หมดไป ไม่มีกำลังที่จะเคลื่อนไหวต่อไป
**กทม.เตรียมพร้อมรับเหตุฉุกเฉิน
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังเดินทางตรวจสอบความเรียบร้อยการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณโดยรอบสถานที่ชุมนุม ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย เจ้าหน้าที่จึงได้ปิดเส้นทางการจราจร ตั้งแต่แยกสะพานผ่านฟ้า ถึงแยกคอกวัวจนถึงเวลา 24.00 น. ตามที่ผู้ชุมนุมประกาศว่าจะยุติการชุมนุม พร้อมขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางการดังกล่าว
นอกจากนี้ กทม.ได้จัดรถพยาบาลฉุกเฉิน 2 คัน ประจำที่ศาลาว่าการ กทม.ไว้รองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน และสามารถเรียกเพิ่มเติมได้หากมีเหตุจำเป็น รวมทั้งยังจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจอีก 100 นาย คอยเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งจัดรถสุขาเคลื่อนที่คอยอำนวยความสะดวกให้ผู้ชุมนุมด้วย
