xs
xsm
sm
md
lg

ททท.ทุ่ม40ลบ.ส่งท้ายปีท่องเที่ยวอีสาน โหมกิจกรรมเชิงรุกดึงผู้ซื้อเลือกชมสินค้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ททท.ภาคอีสานอัดงบ 40 ล้านบาท ผนึกภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรมแบบปูพรมกว่า 5 งาน  หวังบูมท่องเที่ยวอีสานตลอดปี 2553  ประเดิม ต้นปี จัดโครงการ อีสานรีวิสิท รูปแบบเมกกะแฟมทริป เชิญเอเยนต์ ไทย-เทศ กว่า 190 ราย พบผู้ขาย ตามต่อด้วยงานคอนซูเมอร์ “อะเมซิ่งอีสานแฟร์”  งาน รวมพลคนรักไดโนเสาร์  เจาะตลาดเยาวชน และ โครงการเมกกะโบนัส จับกลุ่มคอร์ปอเรต  ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าอีสานอีก 15% จากปีนี้ ที่มีจำนวน 21 ล้านคน  
 
                นางอรุณศรี  ศรีเมฆานนท์  ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า  ในปี 2553 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของโครงการโปรโมตให้ปีปีแห่งการท่องเที่ยวภาคอีสาน ททท.มีแผนจัดกิจกรรมโปรโมตท่องเที่ยวอีสานอย่างต่อเนื่อง  ให้ความสำคัญกับการนำเสนอขายสินค้าทางการท่องเที่ยวในภาคอีสานแบบเชิงรุกแบบบูรณาการ ทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ ไม่น้อยกว่า 4-5 โครงการต่อเนื่อง จากงบประมาณรวม 40 ล้านบาท   การทำงานจะร่วมกับ ททท.สำนักงานพื้นที่ภาคอีสาน หน่วยงานรัฐบาล เช่น กรมทรัพยากรธรณี อบจ. อบต. ตลอดจนภาคเอกชนท่องเที่ยวในสมาคมต่างๆ
 
เริ่มตั้งแต่ เดือน ม.ค. จัดโครงการ”อีสาน รีวิสิท” โดยร่วมกับ 6 สมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยว อาทิ สมาคมท่องเที่ยวภายในประเทศ สมาคมนำเที่ยวไทย เป็นต้น รวมถึง ททท.ภูมิภาคเอเชียตะวันออก  และ ททท.ภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และ แปซิฟิกใต้  จัดทำเป็นเมกกะแฟมทริป เชิญผู้ประกอบการนำเที่ยวจากภูมิภาคอื่นๆในประเทศ และ ผู้ประกอบการจากต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ เวียดนาม  มาสำรวจแหล่งท่องเที่ยว พร้อมสัมมนาแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อให้ทราบถึงความต้องการของตลาด จากนั้นจะมีกิจกรรมผู้ซื้อพบผู้ขายในรูปแบบ เทเบิ้ลท็อป  เพื่อให้เกิดการซื้อขายได้ในทันที ล่าสุดมีผู้ประกอบการซึ่งเป็นผู้ซื้อตอบตกลงที่จะมาร่วมงานแล้ว 190 ราย แบ่งเป็น ตลาดในประเทศ 100 ราย และ ต่างประเทศ 90 ราย
 
เดือนก.พ. หลังเทศกาลตรุษจีน และ วาเลนไทน์ จัดงาน “อะเมซิ่ง อีสาน แฟร์ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  ทำเสนอสินค้าและบริการด้านท่องเที่ยวในภาคอีสาน ทั้งแพกเกทัวร์ และ โรงแรมที่พัก เพื่อเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป  เดือน มี.ค. จัดโรดโชว์ นำผู้ประกอบการไปพบผู้ซื้อที่ประเทศสิงคโปร์ 
 
นอกจากนั้นยังเตรียมจับมือกับสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ(ไทย) หรือ ทิก้า จัดโครงการ “เมกกะโบนัส”  ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือว่าจะจัดในช่วงใด โดยโครงการนี้ จะร่วมกับสมาคมท่องเที่ยว จัดแพกเกจทัวร์นำเสนอขายให้แก่กลุ่มคอปอเรต ที่ฃต้องการจัดประชุมสัมมนาในพื้นที่ภาคอีสาน หากสามารถรวมกลุ่มได้ตั้งแต่ 100 คน ขึ้นไป ททท.จะจัดเลี้ยงอาหารค่ำ ในรูปแบบดินเนอร์อีสาน ฟรี   
 
ล่าสุดอยู่ระหว่างเจรจากับนิตยสารโฟโต้เทค  เตรียมจัดโครงการ “รวมพลคนรักไดโนเสาร์”  เพื่อเดินทางไปจ.ขอนแก่น เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะจัดในรูปแบบการเข้าค่าย มีเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรธรณี มาให้ความรู้  เน้นกลุ่มเยาวชน  ครอบครัว และ ผู้ที่ต้องการท่องเที่ยวเชิงทัศนะศึกษา
 
สำหรับสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว ที่ ททท.จะนำเสนอ ในปี 2553  ท่องเที่ยวเชิงทัศนะศึกษาชมไดโนเสาร์ และ อารยธรรมขอม  ,ท่องเที่ยวเส้นทางศาสนาบูรพาจารย์ ,เส้นทางวัฒนธรรมเลียบแม่น้ำโขง ตั้งเป้าในปี 2553 จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่ภาคอีสานเพิ่ม  10-15%  จากปีนี้ ที่คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่ภาคอีสานไม่น้อยกว่า 21 ล้านคน โดยปัจจุบันสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มเป็น 10% จากก่อนหน้าที่ยังไม่มีโครงการ”ปีท่องเที่ยวอีกสาน” สัดส่วนต่างชาติจะอยู่ที่ 5%  และ เมื่อสิ้นสุดโครงการในปี 2553 คาดว่าสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มเป็น 15%
 
“ตลาดคนไทยจะเน้นกลุ่มเยาวชน ครอบครัว ในรูปแบบเดินทางทัศนศึกษา ซึ่งต้องคำนึงความปลอดภัยสูงสุด ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย จัดเป็นแพกเกจท่องเที่ยว ส่วนตลาดต่างประเทศ สิงคโปร์ จะจับกลุ่มเยาวชนเพื่อทัศนะศึกษา ด้านธรณีวิทยา ตลาดญี่ปุ่น นำเสนอท่องเที่ยงเชิงเกษตร วิถีชีวิตชุมชน และ เวียดนาม เน้นเรื่องการชอปปิ้ง เป็นต้น ซึ่งตลอดปี 2553 เราจะทำงานเชิงรุกในรูปแบบนำเสนอขายสินค้าและบริการ เพื่อต่อยอดจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เน้นเรื่องการประชาสมัพันธ์สร้างการรับรู้แหล่งท่องเที่ยวในภาคอีสาน ซึ่งตลาดตอบรับเป็นที่น่าพอใจ และ มั่นใจว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้  “ นางอรุณศรี กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น