ASTVผู้จัดการรายวัน – ททท.จัดงาน “อัลติเมท กรีน ดิสติเนชั่น” เชิญโรงแรมบูทิค และฮิพโฮเทลร่วมออกบูธ กระหน่ำลดราคาห้องพัก 10-50% หวังจับตลาดนักท่องเที่ยวไฮโซหันมาเที่ยวในประเทศช่วงโลว์ซีซั่น ด้าน สทน.จับมือ “หมอลักษณ์ฟันธง” เปิด 6 เส้นทางเที่ยวอีสาน ไหว้พระตามราศีเกิดเรียกขวัญช่วงเศรษฐกิจซบ ฝันโกยรายได้ กว่า 20 ล้านบาท
นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.อยู่ระหว่างการจัดเตรียมงาน “อัลติเมท กรีน ดิสติเนชั่น” ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 17-26 ก.ค. 52 ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน
จุดประสงค์การจัดงานเพื่อส่งเสริมตลาดคนไทยให้เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศช่วงโลว์ซีซั่นปีนี้ รูปแบบงานจะนำโรงแรมระดับ 5-6 ดาว ที่เป็นบูทิค หรือฮิพ โฮเทล กว่า 200 แห่งทั่วประเทศมาร่วมออกบูธนำเสนอห้องพักในราคาพิเศษลด 10-50% กลุ่มเป้าหมายคือนักท่องเที่ยวระดับกลาง-บนที่มีกำลังซื้อ ซึ่งพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้จะนิยมออกเดินทางไปต่างประเทศเพื่อชอปปิ้งสินค้าและพักผ่อนในช่วงโลว์ซีซั่น
อย่างไรก็ตามภายในงาน ททท.ยังจัดการแสดงศิลปวัฒนธรรม 5 ภาค เช่น ได้แก่ ภาคกลาง ,ใต้ ,ตะวันออก ,ตะวันตกและ ตะวันออกเฉียงเหนือ โดยหวังนำเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวผู้เข้าชมงานได้รู้จักมาขึ้น เป็นการกระตุ้นให้อยากเดินทางไปเห็นของจริง และทำให้ ททท.บรลุเป้าหมายตลาดในประเทศปีนี้ที่ตั้งไว้ 87 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียนในประเทศ 4.2 แสนล้านบาท
ทางด้าน น.ส.มัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวว่า ในงานอัลติเมท กรีนฯนี้ สทน.ได้ร่วมกับ ททท.เปิดตัวแพคเกจทัวร์ท่องเที่ยวภาคอีสานรวม 6 เส้นทาง ได้แก่ ตามรอยอารยะธรรมโบราณ ,ตามรอยไดโนเสาร์ ,เสน่ห์มนตราริมฝั่งโขง ,ตามรอยพระอาจารย์มั่น ,ตามรอยอารยะธรรมขอม และ เยือนถิ่นแคทอลิก 2 อันซีน นำเสนอขายในราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 3,8000 บาท ต่อคน ระยะเวลาพัก 3 วัน 2 คืน ซึ่งเป็นราคาที่ถูกกว่างานอื่นๆที่เคยจัดมาแล้วถึง 25% โดยมั่นใจว่าโครงการนี้ตอกย้ำปีท่องเที่ยวอีสานของ ททท.ด้วย นอกจากนั้นยังจับมือกับนายลักษณ์ เรขานิเทศ หรือหมอลักษณ์ฟันธง จัดทัวร์ ไหว้พระ 12 ราศี และไหว้พระธาตุตามราศีที่เกิดในเส้นทางภาคอีสานด้วย
“การไหว้พระจะช่วยเป็นที่พึ่งทางจิตใจของคนไทยในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี ซึ่งการรักษาศีลก็เช่นกันประกอบกับชื่อเสียงของหมอลักษณ์ฟันธง จะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้เกิดความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น สามารถกระตุ้นนักท่องเที่ยวในช่วงการจัดแคมเปญ(ก.ค.-ก.ย.52)ให้ออกมาเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มอีก 3-5 พันคนเกิดรายได้ราว 10-20 ล้านบาท” น.ส.มัยรัตน์ กล่าว
นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.อยู่ระหว่างการจัดเตรียมงาน “อัลติเมท กรีน ดิสติเนชั่น” ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 17-26 ก.ค. 52 ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน
จุดประสงค์การจัดงานเพื่อส่งเสริมตลาดคนไทยให้เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศช่วงโลว์ซีซั่นปีนี้ รูปแบบงานจะนำโรงแรมระดับ 5-6 ดาว ที่เป็นบูทิค หรือฮิพ โฮเทล กว่า 200 แห่งทั่วประเทศมาร่วมออกบูธนำเสนอห้องพักในราคาพิเศษลด 10-50% กลุ่มเป้าหมายคือนักท่องเที่ยวระดับกลาง-บนที่มีกำลังซื้อ ซึ่งพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้จะนิยมออกเดินทางไปต่างประเทศเพื่อชอปปิ้งสินค้าและพักผ่อนในช่วงโลว์ซีซั่น
อย่างไรก็ตามภายในงาน ททท.ยังจัดการแสดงศิลปวัฒนธรรม 5 ภาค เช่น ได้แก่ ภาคกลาง ,ใต้ ,ตะวันออก ,ตะวันตกและ ตะวันออกเฉียงเหนือ โดยหวังนำเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวผู้เข้าชมงานได้รู้จักมาขึ้น เป็นการกระตุ้นให้อยากเดินทางไปเห็นของจริง และทำให้ ททท.บรลุเป้าหมายตลาดในประเทศปีนี้ที่ตั้งไว้ 87 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียนในประเทศ 4.2 แสนล้านบาท
ทางด้าน น.ส.มัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวว่า ในงานอัลติเมท กรีนฯนี้ สทน.ได้ร่วมกับ ททท.เปิดตัวแพคเกจทัวร์ท่องเที่ยวภาคอีสานรวม 6 เส้นทาง ได้แก่ ตามรอยอารยะธรรมโบราณ ,ตามรอยไดโนเสาร์ ,เสน่ห์มนตราริมฝั่งโขง ,ตามรอยพระอาจารย์มั่น ,ตามรอยอารยะธรรมขอม และ เยือนถิ่นแคทอลิก 2 อันซีน นำเสนอขายในราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 3,8000 บาท ต่อคน ระยะเวลาพัก 3 วัน 2 คืน ซึ่งเป็นราคาที่ถูกกว่างานอื่นๆที่เคยจัดมาแล้วถึง 25% โดยมั่นใจว่าโครงการนี้ตอกย้ำปีท่องเที่ยวอีสานของ ททท.ด้วย นอกจากนั้นยังจับมือกับนายลักษณ์ เรขานิเทศ หรือหมอลักษณ์ฟันธง จัดทัวร์ ไหว้พระ 12 ราศี และไหว้พระธาตุตามราศีที่เกิดในเส้นทางภาคอีสานด้วย
“การไหว้พระจะช่วยเป็นที่พึ่งทางจิตใจของคนไทยในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี ซึ่งการรักษาศีลก็เช่นกันประกอบกับชื่อเสียงของหมอลักษณ์ฟันธง จะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้เกิดความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น สามารถกระตุ้นนักท่องเที่ยวในช่วงการจัดแคมเปญ(ก.ค.-ก.ย.52)ให้ออกมาเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มอีก 3-5 พันคนเกิดรายได้ราว 10-20 ล้านบาท” น.ส.มัยรัตน์ กล่าว
