ASTVผู้จัดการรายวัน-กกร.สั่งศึกษาโครงสร้างต้นทุนสินค้า หลังถูกรัฐกำหนดเองมาโดยตลอด ทำให้ต้นทุนไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ยอมรับปีหน้าสินค้าจ่อขึ้นราคาเพียบ
นายดุสิต นนทะนาคร ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการภาคเอกชนร่วม 3 สถาบัน(กกร.) เปิดเผยหลังการประชุมกกร.วานนี้ (8ธ.ค.) ว่า กกร.ได้มอบหมายให้คณะทำงานกกร.ไปพิจารณาถึงหลักเกณฑ์และโครงสร้างราคาสินค้าและบริการ เพื่อสรุปแนวทางนำกลับมาพิจารณาในกกร.ครั้งหน้า ก่อนนำเสนอแนวทางดังกล่าวให้กับคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานภายในเดือนม.ค.2553
“เอกชนมีความเห็นว่าราคาสินค้าในปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนถึงโครงสร้างต้นทุนในการพิจารณาราคาสินค้า รวมไปถึงสินค้าใดมีความเหมาะสมที่จะควบคุมและไม่ควบคุม ซึ่งขณะนี้กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายที่ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เน้นนวตกรรมใหม่ๆ แต่กลับมีนโยบายในการควบคุมราคาสินค้า ซึ่งถือเป็นการสวนทางกับนโยบายที่ส่งเสริม เพราะสินค้าดังกล่าวมีมูลค่าเพิ่มราคาควรจะมีความเหมาะสมกับความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้น”นายดุสิตกล่าว
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า โครงสร้างต้นทุนราคาสินค้าในปัจจุบัน กรมการค้าภายในเป็นหน่วยงานที่ดำเนินการเอง โดยที่เอกชนไม่ได้รับทราบอย่างแท้จริง หลายครั้งมีผลให้โครงสร้างต้นทุนไม่ตรงกับเอกชนและมีผลให้ที่ผ่านมาเกิดการตรึงราคาสินค้าจนส่งผลกระทบต่อภาคการผลิต
“เอกชนเห็นว่าจำเป็นที่จะต้องมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนภายใต้หลักเกณฑ์และแนวทางตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการในการคิดออกมาเป็นราคาสินค้า เพราะเวลานี้กระทรวงพาณิชย์รู้อยู่คนเดียว ไม่มีหลักการชัดเจน เวลาที่เอกชนขอขึ้นราคาสินค้า ภาครัฐก็ขอให้ชะลอ บางรายการก็ถูกควบคุม ดังนั้น จำเป็นจะต้องแยกให้ชัดว่าสินค้าใดควรคุม อย่างสินค้าฟุ่มเฟือยบางอย่างมองไม่ตรงกันว่าจำเป็นต้องควบคุมหรือไม่”นายสันติกล่าว
สำหรับราคาสินค้าปี 2553 ยอมรับว่ามีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นตามต้นทุนที่เอกชนแบกรับในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากตลอดปีนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ขอให้มีการตรึงราคาสินค้าไว้หลายรายการมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ต้นทุนเริ่มมีการขยับสูงทั้งวัตถุดิบ และน้ำมัน อย่างไรก็ตาม บางรายการยอมรับว่าขึ้นอยู่กับภาวะตลาด หากมีการแข่งขันสูงการปรับราคาก็อาจไม่ง่ายนัก
นายดุสิต นนทะนาคร ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการภาคเอกชนร่วม 3 สถาบัน(กกร.) เปิดเผยหลังการประชุมกกร.วานนี้ (8ธ.ค.) ว่า กกร.ได้มอบหมายให้คณะทำงานกกร.ไปพิจารณาถึงหลักเกณฑ์และโครงสร้างราคาสินค้าและบริการ เพื่อสรุปแนวทางนำกลับมาพิจารณาในกกร.ครั้งหน้า ก่อนนำเสนอแนวทางดังกล่าวให้กับคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานภายในเดือนม.ค.2553
“เอกชนมีความเห็นว่าราคาสินค้าในปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนถึงโครงสร้างต้นทุนในการพิจารณาราคาสินค้า รวมไปถึงสินค้าใดมีความเหมาะสมที่จะควบคุมและไม่ควบคุม ซึ่งขณะนี้กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายที่ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เน้นนวตกรรมใหม่ๆ แต่กลับมีนโยบายในการควบคุมราคาสินค้า ซึ่งถือเป็นการสวนทางกับนโยบายที่ส่งเสริม เพราะสินค้าดังกล่าวมีมูลค่าเพิ่มราคาควรจะมีความเหมาะสมกับความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้น”นายดุสิตกล่าว
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า โครงสร้างต้นทุนราคาสินค้าในปัจจุบัน กรมการค้าภายในเป็นหน่วยงานที่ดำเนินการเอง โดยที่เอกชนไม่ได้รับทราบอย่างแท้จริง หลายครั้งมีผลให้โครงสร้างต้นทุนไม่ตรงกับเอกชนและมีผลให้ที่ผ่านมาเกิดการตรึงราคาสินค้าจนส่งผลกระทบต่อภาคการผลิต
“เอกชนเห็นว่าจำเป็นที่จะต้องมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนภายใต้หลักเกณฑ์และแนวทางตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการในการคิดออกมาเป็นราคาสินค้า เพราะเวลานี้กระทรวงพาณิชย์รู้อยู่คนเดียว ไม่มีหลักการชัดเจน เวลาที่เอกชนขอขึ้นราคาสินค้า ภาครัฐก็ขอให้ชะลอ บางรายการก็ถูกควบคุม ดังนั้น จำเป็นจะต้องแยกให้ชัดว่าสินค้าใดควรคุม อย่างสินค้าฟุ่มเฟือยบางอย่างมองไม่ตรงกันว่าจำเป็นต้องควบคุมหรือไม่”นายสันติกล่าว
สำหรับราคาสินค้าปี 2553 ยอมรับว่ามีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นตามต้นทุนที่เอกชนแบกรับในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากตลอดปีนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ขอให้มีการตรึงราคาสินค้าไว้หลายรายการมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ต้นทุนเริ่มมีการขยับสูงทั้งวัตถุดิบ และน้ำมัน อย่างไรก็ตาม บางรายการยอมรับว่าขึ้นอยู่กับภาวะตลาด หากมีการแข่งขันสูงการปรับราคาก็อาจไม่ง่ายนัก
