xs
xsm
sm
md
lg

แม่"ศิวรักษ์" ขอทนายใหม่ แต่เกี่ยงจ่ายเงิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- แม่"ศิวรักษ์" ขอเปลี่ยนตัวทนายความ อ้างคนใหม่เก่งกว่า แต่ค่าใช้จ่ายยังจะให้กระทรวงการต่างประเทศออกให้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.05 น. วานนี้ (3 ธ.ค.) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดานายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยที่ถูกประเทศกัมพูชาจับกุมตัว ได้เดินทางกลับถึงประเทศไทย หลังจากเดินทางไปเยี่ยมนายศิวรักษ์ ที่ประเทศกัมพูชา โดยมีนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เดินทางไปรับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ

จากนั้น นางสิมารักษ์ ได้เข้าพบ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ที่พรรคเพื่อไทย เพื่อขอบคุณที่ให้การช่วยเหลือมาโดยตลอด และได้หารือเรื่องการขอเปลี่ยนตัวทนายความ เพราะในการเดินทางไปเยี่ยมลูกชายครั้งนี้ ได้พบกับเพื่อนของลูกชาย และได้รับคำแนะนำว่าให้เปลี่ยนตัวทนายความจากคนเดิมที่กระทรวงการต่างประเทศจัดหาให้ มาเป็นทนายความคนใหม่ซึ่งเป็นคนที่เพื่อนของลูกชายหาให้ และเป็นชาวกัมพูชาแทน

นางสิมารักษ์ กล่าวว่า ทนายคนเก่านั้นไม่ได้มีปัญหาอะไรเป็นการส่วนตัว แต่เพื่อนลูกชายแนะนำว่าคนใหม่น่าจะดีกว่า เก่งกว่า และเข้าใจในคดีมากกว่า ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย อยู่ระหว่างการประสานเพื่อขอให้กระทรวงการต่างประเทศดูแลให้ ส่วนเรื่องการประกันตัวนั้นขณะนี้ยังตอบอะไรไม่ได้ แต่อยากให้เปลี่ยนตัวทนายความก่อน เพื่อให้เสร็จภายในวันที่ 3 ธ.ค.

นางสิมารักษ์ ยืนยันว่า ทั้งหมดนี้ ไม่ต้องการให้เป็นประเด็นทางการเมือง แต่ทำไปเพื่อความปลอดภัยของลูก ต้องการช่วยลูกเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม หลังจากเสร็จเรื่องคดีความต่างๆแล้ว และเมื่อลูกชายเป็นอิสระ ก็จะให้บวชทันที

ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นคนพานางสิมารักษ์มาพบพล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เรื่องการขอเปลี่ยนตัวทนายความเป็นสิทธิของผู้ต้องหาอยู่แล้ว สามารถดำเนินการได้เลย โดยประสานกับกัมพูชา อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นางสิมารักษ์ได้หารือกับพล.อ.ชวลิตแล้ว ก็ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนตัวทนายความ โดยได้โทรศัพท์ไปหาเพื่อนของลูกชายที่กัมพูชาให้ประสานเปลี่ยนตัวทนายความได้เลย ขณะเดียวกันนางสิมารักษ์ ก็จะแจ้งให้กระทรวงการต่างประเทศทราบในภายหลัง

**"จิ๋ว"แย้ม 4 ธ.ค.มีข่าวใหญ่

ขณะที่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เรื่องด่วนที่นางสิมารักษ์ มาปรึกษาขอความช่วยเหลือนั้น ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทย ก็ช่วยได้ แต่อยากให้คนไทยทุกคนต้องช่วยกัน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ช่วยได้ รัฐบาลไทย พรรคเพื่อไทย หรือคนไทย มันไทยทั้งหมด คนไทยทั้งนั้นต้องช่วยกัน ตนไม่ขอพูดอะไรมาก ให้รอวันที่ 4 ธ.ค. จะมีข่าวใหญ่

**"กษิต"ยังช่วยเหลือเหมือนเดิม

ด้านนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าในการประกันตัวนายศิวรักษ์ ว่า เรามีกองทุน 2 กองทุนด้วยกัน คือผ่านทางกรมการกงสุลของ ก.ต่างประเทศ และยังมีกองทุนของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งจะทำหน้าที่ช่วยเหลือคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยาก และกรณีของนายศิวรักษ์ เราก็ได้ว่าจ้างทนายด้วยเงินจำนวนหนึ่ง และยังได้รับความช่วยเหลือจากสภาทนายความแห่งชาติ และออกค่าใช้จ่าย ค่าอาหารหรือค่ายารักษา เราทำมาตลอด

ส่วนที่นางสิมารักษ์ ต้องการเปลี่ยนทนายที่ทางกระทรวงจัดหาไว้ให้ มาเป็นทนายที่เพื่อนของลูกชายแนะนำ จะมีผลต่อรูปคดีหรือไม่นั้น นายกษิต กล่าวว่าแล้วแต่ความสบายใจของฝ่ายครอบครัว หรือตัวเจ้าทุกข์เองไม่ได้มีประเด็นปัญหาอะไร แต่ระยะเริ่มตั้นสถานทูตอยู่ที่กรุงพนมเปญ ก็ใกล้ตัวนายศิวรักษ์มากที่สุด ภาระอะไรที่สามารถทำได้ก็เป็นหน้าที่ และทางกระทรวงก็จะดำเนินการช่วยเหลือต่อไป ตามที่ประสงค์

เมื่อถามว่ากรณีฮุนเซ็น สั่งนักเรียนชาวกัมพูชาที่ศึกษาอยู่ในประเทศไทย เดินทางกลับประเทศให้หมด และจะให้นักเรียนชาวไทยที่อยู่ที่กัมพูชากลับด้วยเช่นกัน นายกษิต กล่าวว่า เป็นเรื่องของฮุนเซน ไม่ได้มีปัญหาอะไรแต่นโยบายของรัฐบาลไทย ตลอดมาและจะตลอดไป คืออะไรที่สังคมไทยโดยผ่านทางรัฐบาลไทย หรือภาคประชาชนคนไทย จะนำมาซึ่งความสุขความเจริญก้าวหน้าของประชาชนชาวกัมพูชา ก็จะทำให้อย่างเต็มที่ และเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน และเป็นนโยบายที่แน่วแน่ และมีการให้ความร่วมมือทางด้านการศึกษา ทางการแพทย์ การอบรม บุคลากร หรือการช่วยเหลือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อะไรที่จะทำให้คนกัมพูชามีความสุข เราจะทำ

รัฐบาลไทย จะอำนวยความสะดวกให้ทั้งคนไทย และคนกัมพูชาติดต่อค้าขาย ท่องเที่ยว ความร่วมมือทางวัฒนธรรม เราจะทำอย่างเต็มที่ ส่วนใครจะว่าอย่างไรก็เป็นเรื่องของคนเหล่านั้น

เมื่อถามว่าหากไม่มีการให้ประกันตัวนายศิวรักษ์ ทาง ก.ต่างประเทศ จะดำเนินการอย่างไร นายกษิต กล่าวว่า ก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมของกัมพูชา ซึ่งเราก็ให้ความเคารพ

**"เทือก"ยังหวังฟื้นความสัมพันธ์

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวถึงปปัญหาความสัมพันธ์ไทย - กัมพูชาว่า หวังว่าทุกอย่างจะค่อยๆคลี่คลายไปตามลำดับ นายกรัฐมนตรี ก็ได้ใช้ความพยายามอย่างที่สุดในการที่จะให้สถานการณ์คลี่คลายลง และคิดว่าทางฝ่ายกัมพูชาก็คงที่จะเข้าใจถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลไทย ที่หวังให้ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านเป็นไปด้วยดี

เมื่อถามว่า ล่าสุดกัมพูชาประกาศไม่ให้เด็กนักเรียนมาเรียนในไทย นายสุเทพ กล่าวว่าเราต้องอดทนนิดหน่อย อย่าไปยึดมั่นถือมั่นเกินไป และก็อย่าไปถือสาคำพูดคำจา ซึ่งเป็นเรื่องของการโต้ตอบกัน เมื่อถามว่าการประกาศไม่ให้คนเขมรมาเรียนที่ไทย ถือเป็นการตอบโต้ในระดับที่รุนแรงหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ยินอย่างนั้น และก็ยังไม่คิดอะไรมากไปกว่านั้น

เมื่อถามว่ายังเชื่อว่าความสัมพันธ์จะดีขึ้นได้ ทั้งๆที่ ฮุนเซน ก็ยังเปิดสงครามทางการทูตอยู่ตลอดเวลา นายสุเทพกล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นหน้าที่ของทุกประเทศที่จะต้องดูแลให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไม่ก่อให้เกิดปัญหาตึงเครียด นำไปสู่ความร้าวฉานจนเป็นความทุกข์ของประชาชน รัฐบาลไทยต้องการเป็นมิตรกับเพื่อนในอาเซียนทุกประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเพื่อนบ้านด้วยแล้วเราพยายามที่จะใช้ความอดทน อดกลั้น แล้วก็พยายามแสดงน้ำใจแสดงความจริงใจ ที่จะคบหากับเพื่อนบ้าน เพราะฉะนั้นก็ต้องเดินหน้าต่อไป

เมื่อถามว่ารัฐบาลใช้ช่องทางการทูต แต่กัมพูชาไม่ใช้ จะมีจุดมาร่วมกันได้ตรงไหน อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า เมื่อถึงเวลาก็ต้องร่วมกันจนได้

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงท่าทีของ พ.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ออกมาปกป้องการกระทำของทางกัมพูชาว่า เคยเรียนแล้วว่า อย่าเอาประโยชน์ส่วนตัว มาแลกกับประโยชน์ของชาติ ถ้าเราตัดกิเลสซะได้ บ้านเมืองก็ไม่เสียหาย
กำลังโหลดความคิดเห็น