ASTVผู้จัดการรายวัน -อีเทอร์นิตี้ แกรนด์ ฯคาดปี 53 โกยรายได้ 1.4 พันล้าบาท เหตุภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว ลูกค้าหันมาใช้บริการเพิ่มหลังซบเซามาตั้งแต่ปีก่อน อีกทั้งรายได้ใหม่จากการเปิดบริการขนส่งข้ามประเทศและขนส่งพลังงาน เล็งให้บริการขนส่งสินค้าวัตถุอันตรายปีหน้า
นายพูนศักดิ์ เธียไพรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETG เปิดเผยว่าบริษัทคาดว่า ปี53 รายได้บริษัทจะแตะระดับ 1,400 ล้านบาทหรือเติบโตประมาณ 40% หรือเพิ่มขึ้นจากปี 52 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 1 พันล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสุทธิในปีหน้าจะกลับมาอยู่ที่ระดับ 3-5% จากปีนี้ที่พบว่าตัวเลขกำไรสุทธิลดลง แม้กระนั้นผู้บริหารยังมั่นใจว่าผลการดำเนินงานจะไม่ขาดทุน
อย่างไรก็ดี บริษัทมั่นใจว่าปีหน้าผลประกอบการของบริษัทจะฟื้นตัวดีดกลับมาดีเหมือนกับปี 51 ส่วนปี 54 บริษัทยืนยันเป้าหมายรายได้ที่ 2,000 ล้านบาท อันเป็นผลจากการที่ลูกค้าเดิมได้หันกลับมาใช้บริการสู่ระดับ 70% จากเมื่อต้นปีที่ลูกค้าลดลงอย่างมาก แต่สัญญาณการฟื้นตัวกลับมาตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี52 และคาดว่าไตรมาส 4 จะยิ่งขึ้นตามภาวะะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ขยายตลาดใหม่นั่นคือการขนส่งสินค้าข้ามประเทศ (Cross border Service) ซึ่งได้เริ่มเมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยคาดว่าในปีหน้าจะสามารถเปิดบริการขนส่งสินค้าข้ามประเทศได้ครบ 6 ประเทศภายใต้ Asia Road Expess ซึ่งเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างประเทศในอาเซียน ได้แก่ ลาว กัมพูชา เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย
อีกทั้งบริษัทได้เพิ่มบริการขนส่งสินค้าพลังงาน ได้แก่ น้ำมันเตา น้ำมันใส ไบโอดีเซล เอทานอล เป็นต้น ซึ่งบริษัทจะลงทุนเพื่อปรับปรุงรถในการขนส่งสินค้าประเภทดังกล่าวประมาณ 30-50 ล้านบาท คาดว่าบริษัทจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 2 ปี 53
"ปีหน้ารายได้จะอยู่ที่ 1,400 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ที่มาจากลูกค้าเดิม 1,200 ล้านบาท ส่วนที่เหลือมาจาก Cross border และ ขนส่งพลังงาน นอกจากนี้เรายังมีแผนที่จะขยายขนส่งสินค้าวัตถุอันตราย ซึ่งจะทำการศึกษาในปีหน้า และคาดว่าจะลงทุนและรับรู้รายได้ในปี 54 หรือปี 55 ปัจจุบันบริษัทมีรถอยู่กว่า 400 คัน มีอัตราการใช้อยู่ 90% เพิ่มจากต้นปีที่อยู่ระดับ 70% โดยรถบางส่วน กว่า 30 คัน บริษัทได้ปล่อยเช่าเพื่อสร้างรายได้เสริม
นายพูนศักดิ์ เธียไพรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETG เปิดเผยว่าบริษัทคาดว่า ปี53 รายได้บริษัทจะแตะระดับ 1,400 ล้านบาทหรือเติบโตประมาณ 40% หรือเพิ่มขึ้นจากปี 52 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 1 พันล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสุทธิในปีหน้าจะกลับมาอยู่ที่ระดับ 3-5% จากปีนี้ที่พบว่าตัวเลขกำไรสุทธิลดลง แม้กระนั้นผู้บริหารยังมั่นใจว่าผลการดำเนินงานจะไม่ขาดทุน
อย่างไรก็ดี บริษัทมั่นใจว่าปีหน้าผลประกอบการของบริษัทจะฟื้นตัวดีดกลับมาดีเหมือนกับปี 51 ส่วนปี 54 บริษัทยืนยันเป้าหมายรายได้ที่ 2,000 ล้านบาท อันเป็นผลจากการที่ลูกค้าเดิมได้หันกลับมาใช้บริการสู่ระดับ 70% จากเมื่อต้นปีที่ลูกค้าลดลงอย่างมาก แต่สัญญาณการฟื้นตัวกลับมาตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี52 และคาดว่าไตรมาส 4 จะยิ่งขึ้นตามภาวะะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ขยายตลาดใหม่นั่นคือการขนส่งสินค้าข้ามประเทศ (Cross border Service) ซึ่งได้เริ่มเมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยคาดว่าในปีหน้าจะสามารถเปิดบริการขนส่งสินค้าข้ามประเทศได้ครบ 6 ประเทศภายใต้ Asia Road Expess ซึ่งเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างประเทศในอาเซียน ได้แก่ ลาว กัมพูชา เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย
อีกทั้งบริษัทได้เพิ่มบริการขนส่งสินค้าพลังงาน ได้แก่ น้ำมันเตา น้ำมันใส ไบโอดีเซล เอทานอล เป็นต้น ซึ่งบริษัทจะลงทุนเพื่อปรับปรุงรถในการขนส่งสินค้าประเภทดังกล่าวประมาณ 30-50 ล้านบาท คาดว่าบริษัทจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 2 ปี 53
"ปีหน้ารายได้จะอยู่ที่ 1,400 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ที่มาจากลูกค้าเดิม 1,200 ล้านบาท ส่วนที่เหลือมาจาก Cross border และ ขนส่งพลังงาน นอกจากนี้เรายังมีแผนที่จะขยายขนส่งสินค้าวัตถุอันตราย ซึ่งจะทำการศึกษาในปีหน้า และคาดว่าจะลงทุนและรับรู้รายได้ในปี 54 หรือปี 55 ปัจจุบันบริษัทมีรถอยู่กว่า 400 คัน มีอัตราการใช้อยู่ 90% เพิ่มจากต้นปีที่อยู่ระดับ 70% โดยรถบางส่วน กว่า 30 คัน บริษัทได้ปล่อยเช่าเพื่อสร้างรายได้เสริม
