ศูนย์ข่าวศรีราชา – เรือสปีดโบ๊ทพัทยา-เกาะล้าน ชนประสานงากลางอ่าวพัทยา นักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 40 คนกระเด็นตกทะเลเจ็บระนาว เจ้าหน้าที่เร่งระดมเรือเร็วเข้าช่วยเหลือ ก่อนที่ชาวจีนจะเสียชีวิต 2 ราย เผยสูญหายอีก 2
เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (2 ธ.ค.) กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยทางทะเลเมืองพัทยาและมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ ได้นำกำลังรุดไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนหลายสิบรายที่ลอย คออยู่กลางทะเล ห่างจากริมฝั่งท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ประมาณ 500 เมตร หลังเกิดเหตุเรือเร็วนำเที่ยว 2 ลำพุ่งชนประสานงากัน
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเรือเร็วชื่อ “ส.นิวเฟรนส์” จอดเกยอยู่บริเวณชายหาดมีร่องรอยถูกกระแทกที่ด้านท้าย ขณะที่เรืออีก 1 ลำชื่อ “ธวัชชัยนำโชค 7” ซึ่งถูกกระแทกที่ด้านข้างเป็นรอยแตกขนาดใหญ่กำลังจมลงสู่ก้นทะเล โดยบริเวณพื้นน้ำใกล้กันพบนักท่องเที่ยวกำลังลอยคออยู่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำเรือเร็วเข้าช่วยเหลือ พร้อมนำตัวนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดส่ง รพ.พัทยาโมเรียล พบเป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติจีนและรัสเซีย 16 ราย เป็นชาย 9 ราย และหญิง 7 ราย
ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตในเวลาต่อมาเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 2 รายเนื่องจากร่างกายถูกกระแทกอย่างรุนแรงและสำลักน้ำทราบชื่อ นายเซน ฮ่องลู อายุ 57 ปี (Mr.zheng hongglu) นายเชน ดินชาน (Mr.chen dingshan) อายุ 50 ปี
จากการสอบสวนนายนิเวศ บัวดี อายุ 35 ปี คนขับเรือ “ธวัชชัยนำโชค 7” ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีบริษัททรงกลดทัวร์จ้างเหมาเรือจากบ้านเกาะล้านกลับมาส่งแขกที่ฝั่งพัทยา ซึ่งทั้งหมดเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวน 30 คน เมื่อขับมาจนใกล้ถึงสะพานท่าเทียบเรือ ปรากฏว่ามีเรือสินค้าและเรือโดยสารจอดทอดสมออยู่หลายลำ และขณะกำลังขับวนเพื่อเข้าเทียบท่าได้มีเรือเร็วอีกลำคือเรือ “ส.นิวเฟรนส์” ที่รับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 13 คนวิ่งออกจากท่าเพื่อพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำ และท่องเที่ยวที่เกาะล้านด้วยความเร็ว
เมื่อขับเรือมาพ้นจุดบังสายตาก็พบว่าเรือทั้ง 2 พุ่ง ได้เข้าหากันด้วยความเร็ว จึงพยายามหักหลบแต่ปรากฏว่าทั้ง 2 ลำเลี้ยวหัวเรือไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งผลให้พุ่งเข้าชนกันอย่างรุนแรงจนนักท่องเที่ยวบางส่วนถูกกระแทกและถูกแรงสะบัดจนตกน้ำ ขณะที่กลางลำเรือก็แตกออกทำให้เรือจมลงสู่ใต้ทะเลอย่างรวดเร็วเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว
มีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ขณะนี้ยังมีผู้สูญหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวอีก 1-2 ราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทำการค้นหาบริเวณจุดเกิดเหตุเพิ่มเติมต่อไป
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายท้ายเรือทั้ง 2 ลำและผู้เกี่ยวข้องไว้ทำการสอบสวนเพิ่มเติม ขณะที่ทางเมืองพัทยาจะได้ร่วมกับสำนักงานขนส่งทางน้ำทำการตรวจสอบทะเบียนเรือ และมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยเนื่องจากพบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่มีเสื้อชูชีพ นอกจากนี้ ยังมีการบรรทุกนักท่องเที่ยวเกินอันตราที่กำหนด ซึ่งจะได้ทำการขยายผลเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ด้านนายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เผยว่า จากการสอบถามนายนิเรศ บัวดี คนขับเรือ “ธวัชชัยนำโชค 7” ทราบว่าใบอนุญาตขับเรือหมดอายุ ส่วนนายท้ายเรือ “ส.นิวเฟรนส์” ทราบเพียงชื่อนายน้อย ไม่มีใบอนุญาตขับเรือ และหลบหนีไปหลังเกิดเหตุ แต่จากการสอบถามเจ้าของเรือ “ส.นิวเฟรนส์” คือ นางกรรณิกา เอี่ยมสะอาด อายุ 54 ปี ทราบว่า ได้บรรทุกนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 11 คนออกจากฝั่งพัทยาเพื่อจะไปเกาะล้าน ขณะที่เรือ “ธวัชชัยนำโชค 7” บรรทุกผู้โดยสารมา 28 คนกำลังจะเข้าฝั่ง
“คาดว่าสาเหตุอาจจะมาจากคนขับเรือทั้ง 2 ลำ ไม่เข้าใจเส้นทาง จึงชนกันมีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต 2 ราย ซึ่งเรื่องนี้จะต้องสอบปากคำให้ชัดเจนอีกครั้ง เพราะเบื้องต้นทราบว่าเรือ “ธวัชชัยนำโชค 7” นั้น มีผู้โดยสารเกินพิกัดถึง 30 คน ไม่รวมนายท้ายเรือ พร้อมกันนี้จะเสนอผู้บริหารเมืองพัทยาให้นำทุ่นมาวางเป็นแนวให้เรือเข้า-ออก เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก และขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ตั้งข้อหานายท้ายเรือทั้งสองลำไว้ก่อน คือ ขับเรือโดยไม่มีใบอนุญาตและใบอนุญาตขับเรือหมดอายุ ส่วนสาเหตุต้องรอปากคำอีกครั้ง”
เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (2 ธ.ค.) กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยทางทะเลเมืองพัทยาและมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ ได้นำกำลังรุดไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนหลายสิบรายที่ลอย คออยู่กลางทะเล ห่างจากริมฝั่งท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ประมาณ 500 เมตร หลังเกิดเหตุเรือเร็วนำเที่ยว 2 ลำพุ่งชนประสานงากัน
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเรือเร็วชื่อ “ส.นิวเฟรนส์” จอดเกยอยู่บริเวณชายหาดมีร่องรอยถูกกระแทกที่ด้านท้าย ขณะที่เรืออีก 1 ลำชื่อ “ธวัชชัยนำโชค 7” ซึ่งถูกกระแทกที่ด้านข้างเป็นรอยแตกขนาดใหญ่กำลังจมลงสู่ก้นทะเล โดยบริเวณพื้นน้ำใกล้กันพบนักท่องเที่ยวกำลังลอยคออยู่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำเรือเร็วเข้าช่วยเหลือ พร้อมนำตัวนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดส่ง รพ.พัทยาโมเรียล พบเป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติจีนและรัสเซีย 16 ราย เป็นชาย 9 ราย และหญิง 7 ราย
ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตในเวลาต่อมาเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 2 รายเนื่องจากร่างกายถูกกระแทกอย่างรุนแรงและสำลักน้ำทราบชื่อ นายเซน ฮ่องลู อายุ 57 ปี (Mr.zheng hongglu) นายเชน ดินชาน (Mr.chen dingshan) อายุ 50 ปี
จากการสอบสวนนายนิเวศ บัวดี อายุ 35 ปี คนขับเรือ “ธวัชชัยนำโชค 7” ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีบริษัททรงกลดทัวร์จ้างเหมาเรือจากบ้านเกาะล้านกลับมาส่งแขกที่ฝั่งพัทยา ซึ่งทั้งหมดเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวน 30 คน เมื่อขับมาจนใกล้ถึงสะพานท่าเทียบเรือ ปรากฏว่ามีเรือสินค้าและเรือโดยสารจอดทอดสมออยู่หลายลำ และขณะกำลังขับวนเพื่อเข้าเทียบท่าได้มีเรือเร็วอีกลำคือเรือ “ส.นิวเฟรนส์” ที่รับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 13 คนวิ่งออกจากท่าเพื่อพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำ และท่องเที่ยวที่เกาะล้านด้วยความเร็ว
เมื่อขับเรือมาพ้นจุดบังสายตาก็พบว่าเรือทั้ง 2 พุ่ง ได้เข้าหากันด้วยความเร็ว จึงพยายามหักหลบแต่ปรากฏว่าทั้ง 2 ลำเลี้ยวหัวเรือไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งผลให้พุ่งเข้าชนกันอย่างรุนแรงจนนักท่องเที่ยวบางส่วนถูกกระแทกและถูกแรงสะบัดจนตกน้ำ ขณะที่กลางลำเรือก็แตกออกทำให้เรือจมลงสู่ใต้ทะเลอย่างรวดเร็วเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว
มีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ขณะนี้ยังมีผู้สูญหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวอีก 1-2 ราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทำการค้นหาบริเวณจุดเกิดเหตุเพิ่มเติมต่อไป
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายท้ายเรือทั้ง 2 ลำและผู้เกี่ยวข้องไว้ทำการสอบสวนเพิ่มเติม ขณะที่ทางเมืองพัทยาจะได้ร่วมกับสำนักงานขนส่งทางน้ำทำการตรวจสอบทะเบียนเรือ และมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยเนื่องจากพบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่มีเสื้อชูชีพ นอกจากนี้ ยังมีการบรรทุกนักท่องเที่ยวเกินอันตราที่กำหนด ซึ่งจะได้ทำการขยายผลเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ด้านนายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เผยว่า จากการสอบถามนายนิเรศ บัวดี คนขับเรือ “ธวัชชัยนำโชค 7” ทราบว่าใบอนุญาตขับเรือหมดอายุ ส่วนนายท้ายเรือ “ส.นิวเฟรนส์” ทราบเพียงชื่อนายน้อย ไม่มีใบอนุญาตขับเรือ และหลบหนีไปหลังเกิดเหตุ แต่จากการสอบถามเจ้าของเรือ “ส.นิวเฟรนส์” คือ นางกรรณิกา เอี่ยมสะอาด อายุ 54 ปี ทราบว่า ได้บรรทุกนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 11 คนออกจากฝั่งพัทยาเพื่อจะไปเกาะล้าน ขณะที่เรือ “ธวัชชัยนำโชค 7” บรรทุกผู้โดยสารมา 28 คนกำลังจะเข้าฝั่ง
“คาดว่าสาเหตุอาจจะมาจากคนขับเรือทั้ง 2 ลำ ไม่เข้าใจเส้นทาง จึงชนกันมีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต 2 ราย ซึ่งเรื่องนี้จะต้องสอบปากคำให้ชัดเจนอีกครั้ง เพราะเบื้องต้นทราบว่าเรือ “ธวัชชัยนำโชค 7” นั้น มีผู้โดยสารเกินพิกัดถึง 30 คน ไม่รวมนายท้ายเรือ พร้อมกันนี้จะเสนอผู้บริหารเมืองพัทยาให้นำทุ่นมาวางเป็นแนวให้เรือเข้า-ออก เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก และขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ตั้งข้อหานายท้ายเรือทั้งสองลำไว้ก่อน คือ ขับเรือโดยไม่มีใบอนุญาตและใบอนุญาตขับเรือหมดอายุ ส่วนสาเหตุต้องรอปากคำอีกครั้ง”
