ผลพวงจากพายุไต้ฝุ่น “กิสนา” ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในแทบทุกพื้นที่ของประเทศไทย ทำให้บางแห่งเกิดน้ำท่วม ดินถล่ม น้ำป่าไหลหลาก และบางพื้นที่มีคลื่นสูง ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชน และนักท่องเที่ยวในช่วงนี้ไม่น้อย โดยตั้งแต่เย็นวานนี้เรือนำเที่ยวแบบ 2 ชั้น ที่ใช้รับส่งนักท่องเที่ยวระหว่างพัทยา-เกาะล้าน จำนวน 9 ลำ ซึ่งจอดทอดสมอบริเวณอ่าวพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้ถูกคลื่นขนาดใหญ่สูงกว่า 2 เมตร พัดถล่มจนอับปาง บางลำจมลงสู่ก้นทะเล ขณะที่บางส่วนเหลือเพียงเสากระโดงเรือโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ นอกจากนี้ คลื่นทะเลยังพัดเรือบางลำ ไปกระแทกเข้ากับร้านอาหาร ผับ และบาร์เบียร์ ที่ต่อเติมยื่นลงสู่ทะเล เสียหายเป็นจำนวนมาก ส่วนการขนส่งทางเรือข้ามฝากเกาะสีชังต้องงดการเดินเรือชั่วคราวจนกว่าจะแน่ใจว่าสามารถเดินเรือรับส่งผู้โดยสารได้ ด้านชายหาดบางแสนนั้น นักท่องเที่ยวบางตาตั้งแต่เมื่อวาน จนแม่ค้าต้องยอมเก็บข้าวของเข้าบ้านก่อนเวลา เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนน้อยมาก ทำให้พ่อค้าแม่ค้าไม่เสี่ยงกับเม็ดเงินที่ลงทุนในช่วงนี้
ส่วนทาง อ.เกาะกูด จ.ตราดก็มีฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำหลากท่วมถนนและสะพาน ขณะที่เรือประมงจำนวนกว่า 500-600 ลำ ที่มีทั้งขนาดใหญ่ และขนาดเล็กได้หยุดทำการประมงและจอดอยู่ที่บ้านอ่าวใหญ่และอ่าวสลัด ต.เกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด เนื่องจากมีลมพายุรุนแรง และคลื่นทะเลสูงจนไม่สามารถทำประมงได้ ขณะที่เรือท่องเที่ยวจากฝั่ง จ.ตราด และจาก อ.เกาะช้างไม่สามารถเดินทางมาที่ อ.เกาะกูดได้
ด้านจังหวัดภูเก็ตก็ได้รับผลกระทบจากพายุ โดยมีฝนตกหนัก ลมกรรโชก และคลื่นลมในทะเลแรง ทำบ้านเรือนประชาชนเสียหาย ขณะที่เรือเล็กห้ามออกจากฝั่ง ส่วนการเฝ้าระวังการรักษาความปลอดภัยทางทะเลนั้นขณะนี้ได้มีการแจ้งเตือนให้ประชาชนและชาวเรือโดยเฉพาะเรือเล็กงดออกจากฝั่งเนื่องจากในทะเลมีคลื่นลมแรง ขณะที่บริเวณชายหาดต่างๆ นั้นได้มีการขึ้นธงแดง เพื่อแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุนักท่องเที่ยวจมน้ำในช่วงมรสุมคลื่นลมแรง
ทางภาคอีสาน วานนี้เกือบทุกพื้นที่ใน จ.อุบลราชธานี ยังคงถูกปกคลุมด้วยฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ความเสียหายเบื้องต้นพบว่า มีบ้านเรือนประชาชนถูกลมกระโชก บ้านเรือนพังเสียหายทั้งหลัง จำนวน 1 หลัง ที่ อ.โขงเจียม และมีน้ำท่วมทางเข้าอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อ.นาจะหลวย รวมทั้งมีต้นไม้ล้มขวางถนนเป็นระยะ ทำให้อุทยานต้องปิดไปโดยปริยาย ขณะที่ชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำมูล อ.วารินชำราบ ต่างเผชิญกับอิทธิพลของพายุกิสนาเช่นกัน ทำให้ระดับน้ำยังคงสูง และในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ก็มีฝนตกตลอดทั้งวัน ส่งผลให้ระดับน้ำภายในอ่างเก็บน้ำห้วยศาลา อ.ภูสิงห์ ล้นสปิลเวย์ เกินระดับกักเก็บถึง 50 เซนติเมตร จากความจุอ่าง 35 ล้านลูกบาศก์เมตร เช่นเดียวกับอ่างเก็บน้ำห้วยสำราญ อ่างเก็บน้ำห้วยติกชู อ่างเก็บน้ำโอตารัก และอ่างเก็บน้ำห้วยตาจู ในพื้นที่ อ.ขุนหาญ ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง และมีรายงานว่า ที่ จ.กาฬสินธุ์ ระดับน้ำในเขื่อนลำปาว เพิ่มระดับสูงขึ้นจนถึงใกล้จุดวิกฤต
