“มิสเตอร์ (takki) ตากขี้” สั่งล่าสังหารศัตรูตาม “บัญชีดำ” 300 คน!
โอ้..คิดได้ไง? โถ..ใช้ “ส้นตีนแดง” คิดหรือไง? เฮ้อ..แค่คิด..ก็แพ้แล้ว!!!
ฆ่าคน 300 คนแล้วจะหมดสิ้นคนต่อต้าน-ต่อสู้กับเอ็งหรือ “มิสเตอร์ตากขี้”???
ผมไม่รู้ว่า..ข่าวจากเมืองล้มละลายทางเศรษฐกิจ “ดูไบ” จริงหรือไม่จริง? หากไม่จริง..ก็แล้วกันไป แต่หากจริง..ใบสั่งฆ่าจาก “บัญชีดำ” 300 คน ข่าวลือระบุลึกลงไปถึงคำสั่งฆ่าว่ามี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ครองอำนาจในปัจจุบัน
สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำมวลชนคนพันธมิตรฯ และหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ คนที่สู้กับ “มิสเตอร์ตากขี้” ชนิด “เจ๊งเป็นเจ๊ง-ตายเป็นตาย” จนนายกรัฐมนตรีใหญ่คับฟ้า กลายเป็นนักโทษหนีคุกเร่ร่อนอยู่ในต่างแดน
กษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ไล่ล่านักโทษหนีคุก“มิสเตอร์ตากขี้” จนต้องหนีหัวซุกหัวซุนอยู่ในเวลานี้
ในบัญชีดำล่าสังหาร 300 คนจะมีใครอีกนั้น..รายละเอียดยังไม่รู้ แต่หากยึดตำรา“ความลับไม่มีในโลก” อีกไม่นานก็คงจะโผล่แพลมออกมาให้ได้รู้กันครับ
ทว่า..หากดูผลได้เสียกับการล่าสังหารทางการเมืองแล้วล่ะก็ คนที่ “มิสเตอร์ตากขี้” จะเข่นฆ่าให้อาสัญนั้น ก็คงหนีต้องมี 4 แกนนำพันธมิตรฯ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พิภพ ธงไชย สมศักดิ์ โกศัยสุข สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เพราะคนกล้าเหล่านี้เป็นหัวหอกไล่ทิ่มแทง “มิสเตอร์ตากขี้” จนหลุดออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กลายเป็น “นักโทษหนีคุก” ไม่มีแผ่นดินจะซุกหัวนอนเช่นกัน
ที่เหลือจะมีกลุ่มคน “ปากหมา” อย่างพวก “เคาะข่าวริมโขง” ประพันธ์ คูณมี อัญชะลี ไพรีรักษ์ และผมอยู่ด้วยหรือเปล่า..ต้องติดตาม?
หากมีผมอยู่ด้วยคนหนึ่ง..ก็คงต้อง Thank “มิสเตอร์ตากขี้” ที่ให้เกือก..เอ๊ย..ให้เกียรติผมเป็นหนึ่งในคนที่ต้อง “ตาย” ด้วย “ความผิด” ฐานคิดไม่เหมือนและต่อต้าน-ต่อสู้ แถมยังเสือกสู้แบบต่อเนื่องไม่ยอมหยุดกับ “มิสเตอร์ตากขี้” เสียด้วย
นั่นทำให้ผมอาจจะเป็นหนึ่งใน 300 คนไทย ที่ “มิสเตอร์ตากขี้” เห็นสมควรต้อง“ตาย”
ความหมายทั่วไปในวงการ “มือสังหาร (ฆ่าคน) อาชีพ” ก็คือ “มิสเตอร์ตากขี้”ต้องควักเงินก้อนโต (จำนวนเงินไม่ชัดเจน) ให้กับโครงการฆ่าคน 300 คน เพื่อว่าจ้างคนชั่วโดยสันดานหรือพวก “ฆาตกรใจโหด” ให้นำ “ความตาย” จะด้วยวิธีใดก็ได้แบบ “หมาลอบกัด” ทำให้ “จมูก” ของผมและคนอีก 299 คน หยุดหายใจก่อนเวลาอันสมควรไงล่ะครับ
บัญชีดำใบสั่งล่าสังหารชีวิตคน 300 คน พร้อมเงินจำนวนหนึ่งได้ถูกยัดลงในมือ“นายทหารมาฟีย-ปากหมา” บางคน เพื่อดำเนินการจัดการจัดหาคนมาทำตามคำสั่งเรียบร้อยแล้ว
“มิสเตอร์ตากขี้” กับพรรคพวกกล้าทำเรื่องชั่วๆ อย่างนี้หรือ?
“มิสเตอร์ตากขี้” กับพวกทำชั่วๆ แบบนี้ทำไมน่ะหรือ?
เรื่องกล้าทำชั่วนั้น..คนกลุ่มนี้กล้าทำแน่ๆ ยุค “มิสเตอร์ตากขี้” เป็นใหญ่ในแผ่นดิน เขาใช้นโยบาย “ศาลเตี้ย” เที่ยวฆ่าผู้คนไปกว่า 2,000 ราย ด้วยข้ออ้างปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องพลอยล้มตายไปกับยุทธการ “เหวี่ยงแห-ฆ่าคน” ไปด้วยมากมาย
นั่นยังไม่รวมการเข่นฆ่าผู้คนอีกหลายกรณีที่ภาคใต้ และการลอบจับกุมเข่นฆ่าอีกมากมาย ดังนายสมชาย ลีนะไพจิตร ทนายความของประชาชนคนใต้ ที่ถูกจับตัวกลางเมืองหลวง..จนทุกวันนี้ยังหาศพไม่พบเลย
ส่วนคำสั่งล่าสังหารคนในบัญชีดำ 300 คน “มิสเตอร์ตากขี้” คงไม่ควักเงินทองฆ่าคนเล่นๆ โก้ๆ หรือสนุกสนานอย่างไร้เป้าหมายหรอกครับ..จริงไหม?
ปลายเดือนมกราคมของปี 2553 “มิสเตอร์ตากขี้” มีโอกาสจะโดนศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง ตัดสินเกี่ยวกับเงินไม่โปร่งใสที่ถูกอายัดไว้ 76,000 ล้านบาท “มิสเตอร์ตากขี้” จึงต้องสร้างสถานการณ์บางประการ เพื่อให้เกิดสถานการณ์บางอย่างขึ้นในประเทศไทย
เป้าหมายที่หนึ่ง..เปลี่ยนแปลงการปกครองจากรัฐบาลอภิสิทธิ์ มาเป็นรัฐบาลที่“มิสเตอร์ตากขี้” บงการชี้นิ้วได้ หรืออย่างน้อยก็เป็นรัฐบาลที่ “มิสเตอร์ตากขี้” เจรจาต้าอ่วยได้ง่ายๆ ครับ
เป้าหมายที่สอง..เป็นรัฐบาลที่สามารถยกเลิกความผิดทั้งปวงของ “มิสเตอร์ตากขี้” ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง จะแก้รัฐธรรมนูญหรือออกกฎหมายนิรโทษกรรมนั้น..ตามสะดวกครับ แต่ทั้งหมดต้องทำให้ “มิสเตอร์ตากขี้” กลับมานอนตีพุง และเป็นใหญ่ในเมืองไทยได้อีกครั้งก็แล้วกัน
เป้าหมายที่สาม..เอ้อ..เงินที่ไม่โปร่งใส 76,000 ล้านบาทนั้น “มิสเตอร์ตากขี้” ขอแค่ได้คืนสักครึ่งหนึ่งก็..แฮปปี้เอนดิ้งแล้ว ส่วนอีกครึ่งหนึ่งนั้น..ใครอยากได้เอาไปแบ่งกันเอง ผมฟังมาว่า..หลายคนที่เป็นใหญ่ในแผ่นดินนี้ จับจองเป็นเจ้าของเงินครึ่งหนึ่งของ 76,000 ล้านบาท เรียบร้อยโรงเรียน “หน้าเหลี่ยม” แล้วครับ
ทั้งหมดนี้จึงต้องเร่งให้พวกแดงบ้าดีเดือด และพวกมือมืดก๊วนต่างๆ ออกมาป่วนเมืองครั้งใหญ่อีกครา เรื่องทั้งหมดต้องจบลงก่อนศาลตัดสินคดีความเงิน 76,000 ล้านบาท แต่หากเร่งแล้วจบไม่ทัน..ปิดเกมไม่ลง เงิน 76,000 ล้านบาทโดนยึดไปก่อน
“มิสเตอร์ตากขี้” ก็คงต้องเสียใจครั้งใหญ่ แต่สิ่งที่ต้องการมากที่สุดมิใช่เงินครับ เป้าหลักของ “มิสเตอร์ตากขี้” ตอนนี้ ขอให้ได้กลับเมืองไทยในฐานะผู้ไร้ซึ่งความผิดทั้งปวง เท่านั้นก็พอใจโอเคซิกาแรตแล้วครับ
โถ..“มิสเตอร์ตากขี้” โกงหรือคอร์รัปชันเก่งจะตายไป เงินหลายแสนล้านบาทยังหาได้ในไม่กี่ปี ขอเพียงให้ “มิสเตอร์ตากขี้” มีโอกาสใช้เงินที่โกงมา ซื้อเสียงชาวบ้านเวลามีการเลือกตั้ง เพื่อจะได้เข้าไปเป็นรัฐบาลอีกครั้งเท่านั้นแหละ เงินก็จะไหลมาเทมาจน “นายตากขี้” โกยไม่ไหวครับ
อย่างไรก็ตาม..การที่ “มิสเตอร์ตากขี้” จำต้องสั่งให้คนเสื้อแดงหยุดชุมนุมชั่วคราวอย่างกะทันหัน เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2552 นั้น เพราะโดนสื่อมวลชนและประชาชน แสดงความไม่พอใจอย่างกว้างขวางที่คนกลุ่มนี้ ไม่รู้จักกาละ-เทศะ-ที่ต่ำ-ที่สูง ถึงกับบังอาจจะชุมนุมสร้างสถานการณ์รุนแรง ในห้วงใกล้วันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันมหามงคลของปวงชนชาวไทยทั้งชาตินั่นเอง
ดังนั้นเชื่อขนมกินได้เลยว่า..หลังวันที่ 5 ธันวาคม 2552 จรดต้นปีใหม่2553 “มิสเตอร์ตากขี้” กับพลพรรคเสื้อแดง และพวกมือมืดอีกหลายก๊กหลายเหล่า จะต้องโผล่หน้าออกมาอาละวาดจนบ้านเมืองวุ่นวาย ผสมผสานไปกับแก๊ง..วี๊ด..บึ้ม..วี๊ด..บึ้ม..ทุกมุมเมือง..
อย่าลืมนะพ่อแม่พี่น้อง นายกฯ อภิสิทธิ์-เคยโดนกลุ้มรุมเอาชีวิตมาแล้วสองสามครั้ง แถมล่าสุดยังมีข่าวรั่วไหลออกมาว่า นายพันเอกคนหนึ่งชื่อย่อ “ส” ได้รับจ้างใครบางคน มาไล่ล่าฆ่านายกฯ รูปหล่อคนนี้อีกด้วย
สนธิลิ้ม-ก็โดนลอบยิงเป็นร้อยๆ นัด แถมล่าสุดยังโดนปืนเอ็ม 79 ยิงถล่มกลางท้องสนามหลวง ในระหว่างกำลังยืนปราศรัยอยู่บนเวที..เดชะบุญ ไม่โดนกระสุนปืนของพวก “หมาลอบกัด”
ส่วนกษิตนั้น..หากพวกเสื้อแดงพบตัว ในวันล้มการประชุมอาเซียนบวก 3 บวก 6 ที่เมืองพัทยา รัฐมนตรีฯ กษิตคงแบนแต๋ดแต๋ไปแล้ว..จริงไหม?
ห้วงชี้เป็นชี้ตายทางการเมืองเป็นเช่นนั้น เกิดมีเหตุการณ์นายกฯ อภิสิทธิ์-สนธิ-กษิตเป็นอะไรไป เฮ้อ..ไม่อยากคิดเลยว่าสุญญากาศแบบนั้น การเมืองจะอยู่ในห้วงอันตรายร้ายแรงขนาดไหน?
คอการเมืองบางคนถึงกับคาดการณ์ว่า อาจจะมีกองกำลังสีเขียวที่หนุนเสื้อแดงหรือเสื้อน้ำเงิน ออกมาแอ่นแอ๊น..ทำมิดีมิร้ายกับระบอบประชาธิปไตยก็ได้..จริงไหม?
งานนี้เป็นการต่อสู้แบบได้-เสีย เดิมพันเอาบ้าน-กินเมืองกันครับ เรียกว่า..เป็นยุทธการเอารัฐบาลอภิสิทธิ์ออกไป เอารัฐบาล “นายตากขี้” คืนมาไงล่ะ..พ่อแม่พี่น้องเอ๊ย..
หาก “มิสเตอร์ตากขี้” ชนะ..จะมี “ตะกวดขึ้นวอ” เป็นฝูง แต่หากพ่ายแพ้..ก็ตัวใครตัวมัน “มิสเตอร์ตากขี้” กับ “มิสเตอร์ฮุนเซน” เสื้อแดงแห่งพนมเปญ ได้ปลูกหมู่บ้านให้ “คนเสื้อแดงพลัดถิ่น” เรียบร้อยแล้ว ขอเพียงคณะก่อการคนเสื้อแดงหลบหนี ไปให้ถึงเขตแดนประเทศเขมรก็แล้วกัน รับรองได้เปลี่ยนสัญชาติเป็นคนเขมรสมใจแน่นอน..ฮ่าฮ่าฮ่า..
การศึกครั้งนี้..พวกฝ่ายซ้ายที่หวังล้มเจ้า ซึ่งอยู่ในขบวนการทวงคืนอำนาจของ“มิสเตอร์ตากขี้” ระบุว่า สถานการณ์การเมืองตอนนี้สุกงอม..งอมมาก งอมจนเป็นโอกาสทองในการปฏิวัติ “โค่นล้มสถาบันสูงสุด” แล้วครับ
สำหรับผม..ไม่ว่าจะอยู่ในบัญชีดำ 300 คนหรือไม่? ผมไม่สนใจ..ผมถือว่าเป็นเรื่องของการต่อสู้กับคนชั่ว หากคนชั่วฆ่าผมได้..ก็ช่างหัวมัน ไม่มีใครจะมีชีวิตอยู่ค้ำฟ้า..จริงไหม?
“มิสเตอร์ตากขี้” ไม่มีอะไรน่ากลัว สำหรับนักสู้เพื่อบ้านเมืองทุกคนเลย แม้นเขาจะมีเงินมหาศาลที่จะว่าจ้างกลุ่มมือปืนมีสีหรือไม่มีสี เที่ยวไล่ล่าเข่นฆ่าผู้คนได้เป็นร้อยเป็นพันคนก็ตาม แต่ผมเชื่อมั่นเสมอมาว่า คนทรยศชาติจะต้องพ่ายแพ้คนรักชาติ คนขี้โกงจะต้องพ่ายแพ้คนซื่อสัตย์สุจริต คนดีจะต้องชนะคนชั่ว พูดสั้นๆ คือ ธรรมะต้องชนะอธรรม..แน่นอน..
คนดีมีเยอะ..แต่คนดีใจดี คนดีไม่อยากมีเรื่องมีราวกับคนชั่ว คนดีไม่ชอบเข้าไปยุ่งเกี่ยวสุงสิงกับการเมือง ด้วยคิดว่าการเมืองเป็นเรื่องชั่วร้าย การเมืองจึงกลายเป็นพื้นที่ของคนเลวเข้าไปมั่วสุมกัน และนั่นทำให้การเมืองไทยเป็นปัจจัยสำคัญ ในการทำลายชาติบ้านเมืองและคนดีมายาวนาน
ถึงเวลาที่คนดีต้องลุกขึ้นสู้คนชั่วในทุกแนวรบ ที่สำคัญคนดีต้องกล้าก้าวสู่เวทีทางการเมือง คนดีต้องขึ้นปกครองบ้านเมืองแล้วครับ
“มิสเตอร์ตากขี้” คงต้องเพิ่มรายชื่อบัญชีดำ คงต้องฆ่าฟันคนดีอีกมากมายก่ายกอง ด้วยคนดีนั้น..มีสุดคณานับในประเทศนี้ เพราะคนไทยดีๆ กำลังเดินตามรอยพระบาท “พ่อของแผ่นดิน” ที่ทรงตรัสสอนพวกเราไว้ว่า..
“ต้องเอาคนดีขึ้นปกครองบ้านเมือง” ไงล่ะ..จริงไหม..พ่อแม่พี่น้องเอ๊ย..???
โอ้..คิดได้ไง? โถ..ใช้ “ส้นตีนแดง” คิดหรือไง? เฮ้อ..แค่คิด..ก็แพ้แล้ว!!!
ฆ่าคน 300 คนแล้วจะหมดสิ้นคนต่อต้าน-ต่อสู้กับเอ็งหรือ “มิสเตอร์ตากขี้”???
ผมไม่รู้ว่า..ข่าวจากเมืองล้มละลายทางเศรษฐกิจ “ดูไบ” จริงหรือไม่จริง? หากไม่จริง..ก็แล้วกันไป แต่หากจริง..ใบสั่งฆ่าจาก “บัญชีดำ” 300 คน ข่าวลือระบุลึกลงไปถึงคำสั่งฆ่าว่ามี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ครองอำนาจในปัจจุบัน
สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำมวลชนคนพันธมิตรฯ และหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ คนที่สู้กับ “มิสเตอร์ตากขี้” ชนิด “เจ๊งเป็นเจ๊ง-ตายเป็นตาย” จนนายกรัฐมนตรีใหญ่คับฟ้า กลายเป็นนักโทษหนีคุกเร่ร่อนอยู่ในต่างแดน
กษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ไล่ล่านักโทษหนีคุก“มิสเตอร์ตากขี้” จนต้องหนีหัวซุกหัวซุนอยู่ในเวลานี้
ในบัญชีดำล่าสังหาร 300 คนจะมีใครอีกนั้น..รายละเอียดยังไม่รู้ แต่หากยึดตำรา“ความลับไม่มีในโลก” อีกไม่นานก็คงจะโผล่แพลมออกมาให้ได้รู้กันครับ
ทว่า..หากดูผลได้เสียกับการล่าสังหารทางการเมืองแล้วล่ะก็ คนที่ “มิสเตอร์ตากขี้” จะเข่นฆ่าให้อาสัญนั้น ก็คงหนีต้องมี 4 แกนนำพันธมิตรฯ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พิภพ ธงไชย สมศักดิ์ โกศัยสุข สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เพราะคนกล้าเหล่านี้เป็นหัวหอกไล่ทิ่มแทง “มิสเตอร์ตากขี้” จนหลุดออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กลายเป็น “นักโทษหนีคุก” ไม่มีแผ่นดินจะซุกหัวนอนเช่นกัน
ที่เหลือจะมีกลุ่มคน “ปากหมา” อย่างพวก “เคาะข่าวริมโขง” ประพันธ์ คูณมี อัญชะลี ไพรีรักษ์ และผมอยู่ด้วยหรือเปล่า..ต้องติดตาม?
หากมีผมอยู่ด้วยคนหนึ่ง..ก็คงต้อง Thank “มิสเตอร์ตากขี้” ที่ให้เกือก..เอ๊ย..ให้เกียรติผมเป็นหนึ่งในคนที่ต้อง “ตาย” ด้วย “ความผิด” ฐานคิดไม่เหมือนและต่อต้าน-ต่อสู้ แถมยังเสือกสู้แบบต่อเนื่องไม่ยอมหยุดกับ “มิสเตอร์ตากขี้” เสียด้วย
นั่นทำให้ผมอาจจะเป็นหนึ่งใน 300 คนไทย ที่ “มิสเตอร์ตากขี้” เห็นสมควรต้อง“ตาย”
ความหมายทั่วไปในวงการ “มือสังหาร (ฆ่าคน) อาชีพ” ก็คือ “มิสเตอร์ตากขี้”ต้องควักเงินก้อนโต (จำนวนเงินไม่ชัดเจน) ให้กับโครงการฆ่าคน 300 คน เพื่อว่าจ้างคนชั่วโดยสันดานหรือพวก “ฆาตกรใจโหด” ให้นำ “ความตาย” จะด้วยวิธีใดก็ได้แบบ “หมาลอบกัด” ทำให้ “จมูก” ของผมและคนอีก 299 คน หยุดหายใจก่อนเวลาอันสมควรไงล่ะครับ
บัญชีดำใบสั่งล่าสังหารชีวิตคน 300 คน พร้อมเงินจำนวนหนึ่งได้ถูกยัดลงในมือ“นายทหารมาฟีย-ปากหมา” บางคน เพื่อดำเนินการจัดการจัดหาคนมาทำตามคำสั่งเรียบร้อยแล้ว
“มิสเตอร์ตากขี้” กับพรรคพวกกล้าทำเรื่องชั่วๆ อย่างนี้หรือ?
“มิสเตอร์ตากขี้” กับพวกทำชั่วๆ แบบนี้ทำไมน่ะหรือ?
เรื่องกล้าทำชั่วนั้น..คนกลุ่มนี้กล้าทำแน่ๆ ยุค “มิสเตอร์ตากขี้” เป็นใหญ่ในแผ่นดิน เขาใช้นโยบาย “ศาลเตี้ย” เที่ยวฆ่าผู้คนไปกว่า 2,000 ราย ด้วยข้ออ้างปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องพลอยล้มตายไปกับยุทธการ “เหวี่ยงแห-ฆ่าคน” ไปด้วยมากมาย
นั่นยังไม่รวมการเข่นฆ่าผู้คนอีกหลายกรณีที่ภาคใต้ และการลอบจับกุมเข่นฆ่าอีกมากมาย ดังนายสมชาย ลีนะไพจิตร ทนายความของประชาชนคนใต้ ที่ถูกจับตัวกลางเมืองหลวง..จนทุกวันนี้ยังหาศพไม่พบเลย
ส่วนคำสั่งล่าสังหารคนในบัญชีดำ 300 คน “มิสเตอร์ตากขี้” คงไม่ควักเงินทองฆ่าคนเล่นๆ โก้ๆ หรือสนุกสนานอย่างไร้เป้าหมายหรอกครับ..จริงไหม?
ปลายเดือนมกราคมของปี 2553 “มิสเตอร์ตากขี้” มีโอกาสจะโดนศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง ตัดสินเกี่ยวกับเงินไม่โปร่งใสที่ถูกอายัดไว้ 76,000 ล้านบาท “มิสเตอร์ตากขี้” จึงต้องสร้างสถานการณ์บางประการ เพื่อให้เกิดสถานการณ์บางอย่างขึ้นในประเทศไทย
เป้าหมายที่หนึ่ง..เปลี่ยนแปลงการปกครองจากรัฐบาลอภิสิทธิ์ มาเป็นรัฐบาลที่“มิสเตอร์ตากขี้” บงการชี้นิ้วได้ หรืออย่างน้อยก็เป็นรัฐบาลที่ “มิสเตอร์ตากขี้” เจรจาต้าอ่วยได้ง่ายๆ ครับ
เป้าหมายที่สอง..เป็นรัฐบาลที่สามารถยกเลิกความผิดทั้งปวงของ “มิสเตอร์ตากขี้” ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง จะแก้รัฐธรรมนูญหรือออกกฎหมายนิรโทษกรรมนั้น..ตามสะดวกครับ แต่ทั้งหมดต้องทำให้ “มิสเตอร์ตากขี้” กลับมานอนตีพุง และเป็นใหญ่ในเมืองไทยได้อีกครั้งก็แล้วกัน
เป้าหมายที่สาม..เอ้อ..เงินที่ไม่โปร่งใส 76,000 ล้านบาทนั้น “มิสเตอร์ตากขี้” ขอแค่ได้คืนสักครึ่งหนึ่งก็..แฮปปี้เอนดิ้งแล้ว ส่วนอีกครึ่งหนึ่งนั้น..ใครอยากได้เอาไปแบ่งกันเอง ผมฟังมาว่า..หลายคนที่เป็นใหญ่ในแผ่นดินนี้ จับจองเป็นเจ้าของเงินครึ่งหนึ่งของ 76,000 ล้านบาท เรียบร้อยโรงเรียน “หน้าเหลี่ยม” แล้วครับ
ทั้งหมดนี้จึงต้องเร่งให้พวกแดงบ้าดีเดือด และพวกมือมืดก๊วนต่างๆ ออกมาป่วนเมืองครั้งใหญ่อีกครา เรื่องทั้งหมดต้องจบลงก่อนศาลตัดสินคดีความเงิน 76,000 ล้านบาท แต่หากเร่งแล้วจบไม่ทัน..ปิดเกมไม่ลง เงิน 76,000 ล้านบาทโดนยึดไปก่อน
“มิสเตอร์ตากขี้” ก็คงต้องเสียใจครั้งใหญ่ แต่สิ่งที่ต้องการมากที่สุดมิใช่เงินครับ เป้าหลักของ “มิสเตอร์ตากขี้” ตอนนี้ ขอให้ได้กลับเมืองไทยในฐานะผู้ไร้ซึ่งความผิดทั้งปวง เท่านั้นก็พอใจโอเคซิกาแรตแล้วครับ
โถ..“มิสเตอร์ตากขี้” โกงหรือคอร์รัปชันเก่งจะตายไป เงินหลายแสนล้านบาทยังหาได้ในไม่กี่ปี ขอเพียงให้ “มิสเตอร์ตากขี้” มีโอกาสใช้เงินที่โกงมา ซื้อเสียงชาวบ้านเวลามีการเลือกตั้ง เพื่อจะได้เข้าไปเป็นรัฐบาลอีกครั้งเท่านั้นแหละ เงินก็จะไหลมาเทมาจน “นายตากขี้” โกยไม่ไหวครับ
อย่างไรก็ตาม..การที่ “มิสเตอร์ตากขี้” จำต้องสั่งให้คนเสื้อแดงหยุดชุมนุมชั่วคราวอย่างกะทันหัน เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2552 นั้น เพราะโดนสื่อมวลชนและประชาชน แสดงความไม่พอใจอย่างกว้างขวางที่คนกลุ่มนี้ ไม่รู้จักกาละ-เทศะ-ที่ต่ำ-ที่สูง ถึงกับบังอาจจะชุมนุมสร้างสถานการณ์รุนแรง ในห้วงใกล้วันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันมหามงคลของปวงชนชาวไทยทั้งชาตินั่นเอง
ดังนั้นเชื่อขนมกินได้เลยว่า..หลังวันที่ 5 ธันวาคม 2552 จรดต้นปีใหม่2553 “มิสเตอร์ตากขี้” กับพลพรรคเสื้อแดง และพวกมือมืดอีกหลายก๊กหลายเหล่า จะต้องโผล่หน้าออกมาอาละวาดจนบ้านเมืองวุ่นวาย ผสมผสานไปกับแก๊ง..วี๊ด..บึ้ม..วี๊ด..บึ้ม..ทุกมุมเมือง..
อย่าลืมนะพ่อแม่พี่น้อง นายกฯ อภิสิทธิ์-เคยโดนกลุ้มรุมเอาชีวิตมาแล้วสองสามครั้ง แถมล่าสุดยังมีข่าวรั่วไหลออกมาว่า นายพันเอกคนหนึ่งชื่อย่อ “ส” ได้รับจ้างใครบางคน มาไล่ล่าฆ่านายกฯ รูปหล่อคนนี้อีกด้วย
สนธิลิ้ม-ก็โดนลอบยิงเป็นร้อยๆ นัด แถมล่าสุดยังโดนปืนเอ็ม 79 ยิงถล่มกลางท้องสนามหลวง ในระหว่างกำลังยืนปราศรัยอยู่บนเวที..เดชะบุญ ไม่โดนกระสุนปืนของพวก “หมาลอบกัด”
ส่วนกษิตนั้น..หากพวกเสื้อแดงพบตัว ในวันล้มการประชุมอาเซียนบวก 3 บวก 6 ที่เมืองพัทยา รัฐมนตรีฯ กษิตคงแบนแต๋ดแต๋ไปแล้ว..จริงไหม?
ห้วงชี้เป็นชี้ตายทางการเมืองเป็นเช่นนั้น เกิดมีเหตุการณ์นายกฯ อภิสิทธิ์-สนธิ-กษิตเป็นอะไรไป เฮ้อ..ไม่อยากคิดเลยว่าสุญญากาศแบบนั้น การเมืองจะอยู่ในห้วงอันตรายร้ายแรงขนาดไหน?
คอการเมืองบางคนถึงกับคาดการณ์ว่า อาจจะมีกองกำลังสีเขียวที่หนุนเสื้อแดงหรือเสื้อน้ำเงิน ออกมาแอ่นแอ๊น..ทำมิดีมิร้ายกับระบอบประชาธิปไตยก็ได้..จริงไหม?
งานนี้เป็นการต่อสู้แบบได้-เสีย เดิมพันเอาบ้าน-กินเมืองกันครับ เรียกว่า..เป็นยุทธการเอารัฐบาลอภิสิทธิ์ออกไป เอารัฐบาล “นายตากขี้” คืนมาไงล่ะ..พ่อแม่พี่น้องเอ๊ย..
หาก “มิสเตอร์ตากขี้” ชนะ..จะมี “ตะกวดขึ้นวอ” เป็นฝูง แต่หากพ่ายแพ้..ก็ตัวใครตัวมัน “มิสเตอร์ตากขี้” กับ “มิสเตอร์ฮุนเซน” เสื้อแดงแห่งพนมเปญ ได้ปลูกหมู่บ้านให้ “คนเสื้อแดงพลัดถิ่น” เรียบร้อยแล้ว ขอเพียงคณะก่อการคนเสื้อแดงหลบหนี ไปให้ถึงเขตแดนประเทศเขมรก็แล้วกัน รับรองได้เปลี่ยนสัญชาติเป็นคนเขมรสมใจแน่นอน..ฮ่าฮ่าฮ่า..
การศึกครั้งนี้..พวกฝ่ายซ้ายที่หวังล้มเจ้า ซึ่งอยู่ในขบวนการทวงคืนอำนาจของ“มิสเตอร์ตากขี้” ระบุว่า สถานการณ์การเมืองตอนนี้สุกงอม..งอมมาก งอมจนเป็นโอกาสทองในการปฏิวัติ “โค่นล้มสถาบันสูงสุด” แล้วครับ
สำหรับผม..ไม่ว่าจะอยู่ในบัญชีดำ 300 คนหรือไม่? ผมไม่สนใจ..ผมถือว่าเป็นเรื่องของการต่อสู้กับคนชั่ว หากคนชั่วฆ่าผมได้..ก็ช่างหัวมัน ไม่มีใครจะมีชีวิตอยู่ค้ำฟ้า..จริงไหม?
“มิสเตอร์ตากขี้” ไม่มีอะไรน่ากลัว สำหรับนักสู้เพื่อบ้านเมืองทุกคนเลย แม้นเขาจะมีเงินมหาศาลที่จะว่าจ้างกลุ่มมือปืนมีสีหรือไม่มีสี เที่ยวไล่ล่าเข่นฆ่าผู้คนได้เป็นร้อยเป็นพันคนก็ตาม แต่ผมเชื่อมั่นเสมอมาว่า คนทรยศชาติจะต้องพ่ายแพ้คนรักชาติ คนขี้โกงจะต้องพ่ายแพ้คนซื่อสัตย์สุจริต คนดีจะต้องชนะคนชั่ว พูดสั้นๆ คือ ธรรมะต้องชนะอธรรม..แน่นอน..
คนดีมีเยอะ..แต่คนดีใจดี คนดีไม่อยากมีเรื่องมีราวกับคนชั่ว คนดีไม่ชอบเข้าไปยุ่งเกี่ยวสุงสิงกับการเมือง ด้วยคิดว่าการเมืองเป็นเรื่องชั่วร้าย การเมืองจึงกลายเป็นพื้นที่ของคนเลวเข้าไปมั่วสุมกัน และนั่นทำให้การเมืองไทยเป็นปัจจัยสำคัญ ในการทำลายชาติบ้านเมืองและคนดีมายาวนาน
ถึงเวลาที่คนดีต้องลุกขึ้นสู้คนชั่วในทุกแนวรบ ที่สำคัญคนดีต้องกล้าก้าวสู่เวทีทางการเมือง คนดีต้องขึ้นปกครองบ้านเมืองแล้วครับ
“มิสเตอร์ตากขี้” คงต้องเพิ่มรายชื่อบัญชีดำ คงต้องฆ่าฟันคนดีอีกมากมายก่ายกอง ด้วยคนดีนั้น..มีสุดคณานับในประเทศนี้ เพราะคนไทยดีๆ กำลังเดินตามรอยพระบาท “พ่อของแผ่นดิน” ที่ทรงตรัสสอนพวกเราไว้ว่า..
“ต้องเอาคนดีขึ้นปกครองบ้านเมือง” ไงล่ะ..จริงไหม..พ่อแม่พี่น้องเอ๊ย..???