เมื่อเวลา 15.00 น.วานนี้ (30 พ.ย.) นางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดาของนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยที่ถูกจับกุมที่กัมพูชาได้เดินทางมายังที่ทำการพรรคเพื่อไทย ขอเข้าพบนายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ และที่ปรึกษาด้านกฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อขอให้ทางพรรคเพื่อไทย ช่วยเหลือลูกชายของตน โดยนางสิมารักษ์ กล่าวว่า หลังจากเดินทางกลับมา รอมาหลายวันเกรงว่ายิ่งนานวันลูกชายอาจจะไม่สบายใจมากขึ้น ซึ่งก่อนกลับลูกชายได้บอกว่า "แม่ช่วยผมด้วยนะ" ดังนั้นไม่ว่าจะช่วยด้วยวิธีใด ก็พยายามจะช่วยลูกให้ได้ จึงมาพึ่งพรรคเพื่อไทย เพราะหากรอการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศ อาจไม่ทัน จึงมาขอพึ่ง ให้ช่วยลูกโดยเร็วที่สุด
ด้านนายนพดล กล่าวว่าการที่นางสิมารักษ์ มาวันนี้ไม่ใช่ต้องการให้เป็นประเด็นการเมือง หรือแย่งซีนของรัฐบาล แต่เป็นการช่วยเหลืออย่างมนุษยธรรม เมื่อติดต่อเข้ามาตอนเช้า ตนก็รีบโทรประสานไปยังกัมพูขาทันที ในฐานะเป็นอดีต รมว.ต่างประเทศ ก็พอมีเพื่อนในพนมเปญ โดยทางการกัมพูชาก็ยินดีตอบรับ จะให้แม่ของนายศิวรักษ์ เข้าไปเยี่ยม พร้อมนำข้าวของส่วนตัวไปให้อีกครั้ง คาดว่าจะเดินทางไปใน 2-3 วัน โดยการติดต่อครั้งนี้ไม่ผ่านกระทรวงการต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เมื่อเดินทางไปถึงกัมพูชา จะมีเจ้าหน้าที่บริษัทCAT ไปรอรับเพื่อเข้าเยี่ยมลูกชายในคุกต่อไป
นายนพดล ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา ไม่ว่าศาลจะตัดสินออกมาอย่างไร เราจะพยายามช่วยให้ดีที่สุด
นางสิมารักษ์ กล่าวว่า การช่วยเหลือของกระทรวงการต่างประเทศ ช้าไปหน่อย ผู้ที่ประสบเคราะห์กรรม รอไม่ได้ ส่วนตัวก็เข้าใจว่า การดำเนินการของทางราชการมีระเบียบขั้นตอน แต่เรื่องนี้แม่ และลูกชาย รอไม่ได้ จึงต้องมาพึ่งพรรคเพื่อไทย ต้องการเอาสิ่งของที่ลูกต้องการไปให้ หากรอวันตัดสินคดี ในวันที่ 8 ธ.ค. อาจจะช้าเกินไป ยิ่งนานก็ห่วงลูกมากขึ้น
เมื่อถามว่าแล้วจะให้ช่วยเหลือในคดีคดีด้วยหรือไม่ นางสิมารักษ์ กล่าวว่า ก็หวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากทางกัมพูชา ในฐานะแม่ก็พยายามทุกอย่างเพื่อให้ลูกชายพ้นจากการจองจำโดยเร็ว จะให้ทำอย่างไรก็ได้
นางสิมารักษ์ กล่าวว่า ที่มาขอความช่วยเหลือจากพรรคเพื่อไทย เพราะมีการตอบสนองที่ดี โดยเฉพาะพ.ต.ท.ทักษิณ ก็บอกว่ายินดีจะช่วย แม้ว่าลูกชายจะคิดร้าย กับท่านก็ตาม ท่านไม่โกรธแค้น ก็รู้สึกซาบซึ้ง
เมื่อถามว่าได้พูดคุยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายศิวรักษ์ ได้ทำตามคำสั่งของใครหรือไม่ นางสิมารักษ์ ตอบว่า จากการพูดคุยกับลูกชาย ก็ทราบความจริงทุกอย่างแล้ว ก็อยากให้ลูกชายกลับออกมาพูดเองด้วยปากมากกว่า
เมื่อถามว่าแสดงว่า มั่นใจว่าลูกชาย จะได้ออกมา นางสิมารักษ์ ตอบทันทีว่ามั่นใจ เพราะลูกเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนที่มีเงื่อนไขจะได้รับประกัน หรือห้ามออกนอกประเทศนั้น เบื้องต้นทราบว่า จะไม่ให้ประกันแต่จะมีการตัดสินในวันที่ 8 ธ.ค.นี้เลย
" ลูกชายยอมรับว่าไม่ได้คิดร้าย และยืนยันว่าไม่ทราบว่าเที่ยวบินนั้นมีท่านทักษิณมาเพียงแต่คนอื่นอยากทราบตารางบิน ก็ไปเช็คมาให้ อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าว ในเอกสารลูกชายได้เขียนจดหมาย ได้สารภาพชัดเจนในข้อนี้"
เมื่อถามว่าถ้าหากศาลพิพากษาว่าผิด จะดำเนินการขอร้องอย่างไร นางสิมารักษ์ หยุดคิดก่อนจะตอบว่า "คงจะขอร้องทั้งสองฝ่าย เพื่อขอให้พระราชทานอภัยโทษให้ลูกชายด้วย" อย่างไรก็ตาม หลังจากได้เข้ามาขอให้ช่วยเหลือครั้งนี้ นางสิมารักษ์ ยอมรับว่า สบายใจขึ้น เพราะคงช่วยให้ทำสิ่งของไปให้ลูกเร็วขึ้น ส่วนจะอยู่ถึงวันตัดสินคดีหรือไม่ รอดูสถานการณ์ แต่ได้เตรียมพร้อมทุกด้าน
นอกจากนี้นางสิมารักษ์ ยอมรับว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ได้โทรศัพท์มาพูดคุยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งท่านพร้อมช่วย แต่ขออยู่เบื้องหลังในการช่วยเหลือ
**"บัวแก้ว"ยันช่วยเต็มที่ไม่ห่วงแย่งซีน
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ทุกคนในรัฐบาลได้ทำหน้าที่เต็มที่ในการช่วยเหลือนายศิวรักษ์ การที่มารดานายศิวรักษ์ ไปขอความช่วยเหลือพรรคเพื่อไทย ก็เป็นสิทธิ์โดยชอบธรรม โดยในส่วนกระทรวงการต่างประเทศ ก็ยังจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
"เราเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ดี และการที่เรื่องนี้ถูกมองเป็นเรื่องการเมือง ก็ถูกมองมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แต่กระทรวงการต่างประเทศ ก็จะทำทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมาย ทุกอย่างว่าการกันตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนที่มองว่าเกิดความล่าช้านั้น เราต้องมองส่วนหนึ่งด้วยว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรมของกัมพูชา และไม่ได้มองว่าพรรคเพื่อไทย จะมาแย่งซีนอะไร เราเข้าใจดี แต่ไม่ว่าอย่างไรเราจะเดินหน้าช่วยเหลือต่อไป" นายชวนนท์ กล่าว
ด้านนายนพดล กล่าวว่าการที่นางสิมารักษ์ มาวันนี้ไม่ใช่ต้องการให้เป็นประเด็นการเมือง หรือแย่งซีนของรัฐบาล แต่เป็นการช่วยเหลืออย่างมนุษยธรรม เมื่อติดต่อเข้ามาตอนเช้า ตนก็รีบโทรประสานไปยังกัมพูขาทันที ในฐานะเป็นอดีต รมว.ต่างประเทศ ก็พอมีเพื่อนในพนมเปญ โดยทางการกัมพูชาก็ยินดีตอบรับ จะให้แม่ของนายศิวรักษ์ เข้าไปเยี่ยม พร้อมนำข้าวของส่วนตัวไปให้อีกครั้ง คาดว่าจะเดินทางไปใน 2-3 วัน โดยการติดต่อครั้งนี้ไม่ผ่านกระทรวงการต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เมื่อเดินทางไปถึงกัมพูชา จะมีเจ้าหน้าที่บริษัทCAT ไปรอรับเพื่อเข้าเยี่ยมลูกชายในคุกต่อไป
นายนพดล ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา ไม่ว่าศาลจะตัดสินออกมาอย่างไร เราจะพยายามช่วยให้ดีที่สุด
นางสิมารักษ์ กล่าวว่า การช่วยเหลือของกระทรวงการต่างประเทศ ช้าไปหน่อย ผู้ที่ประสบเคราะห์กรรม รอไม่ได้ ส่วนตัวก็เข้าใจว่า การดำเนินการของทางราชการมีระเบียบขั้นตอน แต่เรื่องนี้แม่ และลูกชาย รอไม่ได้ จึงต้องมาพึ่งพรรคเพื่อไทย ต้องการเอาสิ่งของที่ลูกต้องการไปให้ หากรอวันตัดสินคดี ในวันที่ 8 ธ.ค. อาจจะช้าเกินไป ยิ่งนานก็ห่วงลูกมากขึ้น
เมื่อถามว่าแล้วจะให้ช่วยเหลือในคดีคดีด้วยหรือไม่ นางสิมารักษ์ กล่าวว่า ก็หวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากทางกัมพูชา ในฐานะแม่ก็พยายามทุกอย่างเพื่อให้ลูกชายพ้นจากการจองจำโดยเร็ว จะให้ทำอย่างไรก็ได้
นางสิมารักษ์ กล่าวว่า ที่มาขอความช่วยเหลือจากพรรคเพื่อไทย เพราะมีการตอบสนองที่ดี โดยเฉพาะพ.ต.ท.ทักษิณ ก็บอกว่ายินดีจะช่วย แม้ว่าลูกชายจะคิดร้าย กับท่านก็ตาม ท่านไม่โกรธแค้น ก็รู้สึกซาบซึ้ง
เมื่อถามว่าได้พูดคุยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายศิวรักษ์ ได้ทำตามคำสั่งของใครหรือไม่ นางสิมารักษ์ ตอบว่า จากการพูดคุยกับลูกชาย ก็ทราบความจริงทุกอย่างแล้ว ก็อยากให้ลูกชายกลับออกมาพูดเองด้วยปากมากกว่า
เมื่อถามว่าแสดงว่า มั่นใจว่าลูกชาย จะได้ออกมา นางสิมารักษ์ ตอบทันทีว่ามั่นใจ เพราะลูกเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนที่มีเงื่อนไขจะได้รับประกัน หรือห้ามออกนอกประเทศนั้น เบื้องต้นทราบว่า จะไม่ให้ประกันแต่จะมีการตัดสินในวันที่ 8 ธ.ค.นี้เลย
" ลูกชายยอมรับว่าไม่ได้คิดร้าย และยืนยันว่าไม่ทราบว่าเที่ยวบินนั้นมีท่านทักษิณมาเพียงแต่คนอื่นอยากทราบตารางบิน ก็ไปเช็คมาให้ อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าว ในเอกสารลูกชายได้เขียนจดหมาย ได้สารภาพชัดเจนในข้อนี้"
เมื่อถามว่าถ้าหากศาลพิพากษาว่าผิด จะดำเนินการขอร้องอย่างไร นางสิมารักษ์ หยุดคิดก่อนจะตอบว่า "คงจะขอร้องทั้งสองฝ่าย เพื่อขอให้พระราชทานอภัยโทษให้ลูกชายด้วย" อย่างไรก็ตาม หลังจากได้เข้ามาขอให้ช่วยเหลือครั้งนี้ นางสิมารักษ์ ยอมรับว่า สบายใจขึ้น เพราะคงช่วยให้ทำสิ่งของไปให้ลูกเร็วขึ้น ส่วนจะอยู่ถึงวันตัดสินคดีหรือไม่ รอดูสถานการณ์ แต่ได้เตรียมพร้อมทุกด้าน
นอกจากนี้นางสิมารักษ์ ยอมรับว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ได้โทรศัพท์มาพูดคุยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งท่านพร้อมช่วย แต่ขออยู่เบื้องหลังในการช่วยเหลือ
**"บัวแก้ว"ยันช่วยเต็มที่ไม่ห่วงแย่งซีน
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ทุกคนในรัฐบาลได้ทำหน้าที่เต็มที่ในการช่วยเหลือนายศิวรักษ์ การที่มารดานายศิวรักษ์ ไปขอความช่วยเหลือพรรคเพื่อไทย ก็เป็นสิทธิ์โดยชอบธรรม โดยในส่วนกระทรวงการต่างประเทศ ก็ยังจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
"เราเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ดี และการที่เรื่องนี้ถูกมองเป็นเรื่องการเมือง ก็ถูกมองมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แต่กระทรวงการต่างประเทศ ก็จะทำทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมาย ทุกอย่างว่าการกันตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนที่มองว่าเกิดความล่าช้านั้น เราต้องมองส่วนหนึ่งด้วยว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรมของกัมพูชา และไม่ได้มองว่าพรรคเพื่อไทย จะมาแย่งซีนอะไร เราเข้าใจดี แต่ไม่ว่าอย่างไรเราจะเดินหน้าช่วยเหลือต่อไป" นายชวนนท์ กล่าว