ASTVผู้จัดการรายวัน - ธนาสิริ กรุ๊ป เตรียมสรุปราคาขายหุ้นไอพีโอ 50 ล้านหุ้น ใน 1 ธ.ค.นี้ ก่อนเข้าซื้อขายในตลาดเอ็มเอไอ 15 ธ.ค. ประเมินรายได้ปีหน้าแตะ 950 ล้านบาท สูงจากปีนี้ที่คาดทำได้ 650 ล้านบาท เหตุแผนลงทุนใหม่อีก 2-3 โครงการ ดันมูลค่าแตะ 1 พันล้านบาทจากปัจจุบันที่มี 3 โครงการมูลค่า 730 ล้านบาท
นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ THANA ซึ่งประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านจัดสรรเปิดเผยว่าบริษัทจะกำหนดราคาเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 50 ล้านห้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 1 บาท ในวันที่ 1 ธันวาคม นี้และจะเปิดจองซื้อหุ้นวันที่ 3-4 ธันวาคมนี้ ก่อนนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ซึ่งหุ้นที่เสนอขายครั้งนี้แบ่งเป็น 25 ล้านหุ้นเสนอขายต่อนักลงทุนทั่วไป และอีก 25 ล้านหุ้นเสนอขายแก่ผู้มีอุปการคุณของบริษัท
นอกจากนี้บริษัทจะมีการเสนอขายหุ้นอีก 5 ล้านหุ้น ให้กับกรรมการและพนักงานของบริษัทเพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นของบริษัท โดยมีอายุ 5 ปี ซึ่งราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นจะมีส่วนลดไม่เกิน 20% จากราคาไอพีโอ และจะสามารถใช้สิทธิครั้งแรกหลังจาก 2 ปี 6 เดือนไปแล้ว โดยเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะนำไปใช้เป็นเงินหมุนเวียนในโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบัน และใช้ลงทุนโครงการใหม่ในอนาคตและใช้ชำระคืนเงินกู้บางส่วน
ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่จะลงทุนมูลค่า 730 ล้านบาท ก่อสร้างจำนวน 1 โครงการธนาสริ-ราชพฤกษ์ 2 มูลค่าโครงการ 260 ล้านบาท และจะก่อสร้างในปีหน้าอีก 2 โครงการคือ โครงการเดอะ คลัสเตอร์วิลล์ 2 มูลค่าโครงการ 370 ล้านบาท และโครงการไพร์มเพลส2 มูลค่า 100 ล้านบาท พร้อมมีแผนลงทุนโครงการปีหน้าเพิ่มอีก 2-3 โครงการ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีมูลค่าโครงการรวมเพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากโครงการที่บริษัทจะลงทุนและลงทุนเพิ่มในปีหน้า ทำให้บริษัทคาดรายได้ปี 2553 มีประมาณ 950 ล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ 650 ล้านบาท ซึ่ง 9 เดือนแรก บริษัทมีรายได้ 483 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 159 ล้านบาท ส่วนไตรมาส4 ปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้จากการขายบ้านจากที่มีบ้านรอโอนมูลค่า 203 ล้านบาท แต่จะรับรู้ประมาณ 3ใน 4 ของมูลค่างานดังกล่าว
" ปีหน้าเราจะเติบโตจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ฯของบริษัท ขณะนี้มีความต้องการของผู้จะซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัย ไม่ใช่การซื้อเพื่อเก็งกำไร ขณะที่โครงการของบริษัทไม่ใหญ่มากราคาไม่สูงและมีความหลากหลาย " นายสุทธิรักษ์ กล่าว
สำหรับอนาคตบริษัทมีแผนที่จะไปลงทุนโครงการบ้านจัดสรรในต่างจังหวัดมากขึ้นจากปัจจุบันมีเพียงที่ภูเก็ต โดยจะเน้นจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น พัทยา จังหวัดชลบุรี ขอนแก่น ซึ่งจะเห็นหลังจาก 2 ปีนี้ไปแล้ว เพราะช่วง 1-2 ปีนี้ บริษัทจะเน้นพัฒนาโครงการที่ภูเก็ตให้เต็มที่ก่อน ซึ่งคาดว่าปีหน้ารายได้จากภูเก็ตจะเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้เพียง 20%
นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ THANA ซึ่งประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านจัดสรรเปิดเผยว่าบริษัทจะกำหนดราคาเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 50 ล้านห้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 1 บาท ในวันที่ 1 ธันวาคม นี้และจะเปิดจองซื้อหุ้นวันที่ 3-4 ธันวาคมนี้ ก่อนนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ซึ่งหุ้นที่เสนอขายครั้งนี้แบ่งเป็น 25 ล้านหุ้นเสนอขายต่อนักลงทุนทั่วไป และอีก 25 ล้านหุ้นเสนอขายแก่ผู้มีอุปการคุณของบริษัท
นอกจากนี้บริษัทจะมีการเสนอขายหุ้นอีก 5 ล้านหุ้น ให้กับกรรมการและพนักงานของบริษัทเพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นของบริษัท โดยมีอายุ 5 ปี ซึ่งราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นจะมีส่วนลดไม่เกิน 20% จากราคาไอพีโอ และจะสามารถใช้สิทธิครั้งแรกหลังจาก 2 ปี 6 เดือนไปแล้ว โดยเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะนำไปใช้เป็นเงินหมุนเวียนในโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบัน และใช้ลงทุนโครงการใหม่ในอนาคตและใช้ชำระคืนเงินกู้บางส่วน
ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่จะลงทุนมูลค่า 730 ล้านบาท ก่อสร้างจำนวน 1 โครงการธนาสริ-ราชพฤกษ์ 2 มูลค่าโครงการ 260 ล้านบาท และจะก่อสร้างในปีหน้าอีก 2 โครงการคือ โครงการเดอะ คลัสเตอร์วิลล์ 2 มูลค่าโครงการ 370 ล้านบาท และโครงการไพร์มเพลส2 มูลค่า 100 ล้านบาท พร้อมมีแผนลงทุนโครงการปีหน้าเพิ่มอีก 2-3 โครงการ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีมูลค่าโครงการรวมเพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากโครงการที่บริษัทจะลงทุนและลงทุนเพิ่มในปีหน้า ทำให้บริษัทคาดรายได้ปี 2553 มีประมาณ 950 ล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ 650 ล้านบาท ซึ่ง 9 เดือนแรก บริษัทมีรายได้ 483 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 159 ล้านบาท ส่วนไตรมาส4 ปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้จากการขายบ้านจากที่มีบ้านรอโอนมูลค่า 203 ล้านบาท แต่จะรับรู้ประมาณ 3ใน 4 ของมูลค่างานดังกล่าว
" ปีหน้าเราจะเติบโตจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ฯของบริษัท ขณะนี้มีความต้องการของผู้จะซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัย ไม่ใช่การซื้อเพื่อเก็งกำไร ขณะที่โครงการของบริษัทไม่ใหญ่มากราคาไม่สูงและมีความหลากหลาย " นายสุทธิรักษ์ กล่าว
สำหรับอนาคตบริษัทมีแผนที่จะไปลงทุนโครงการบ้านจัดสรรในต่างจังหวัดมากขึ้นจากปัจจุบันมีเพียงที่ภูเก็ต โดยจะเน้นจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น พัทยา จังหวัดชลบุรี ขอนแก่น ซึ่งจะเห็นหลังจาก 2 ปีนี้ไปแล้ว เพราะช่วง 1-2 ปีนี้ บริษัทจะเน้นพัฒนาโครงการที่ภูเก็ตให้เต็มที่ก่อน ซึ่งคาดว่าปีหน้ารายได้จากภูเก็ตจะเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้เพียง 20%