สก๊อตเร่งเครื่องบูมรังนกเซ็กเม้นท์ใหม่ “ซูเปอร์พรีเมียม” หวังขยายตลาดให้เติบโต ล่าสุดเปิดตัว “สุพรีมซีเล็คชั่น” ขวดละ 500 บาทลงตลาด เผยอาฟต้าไม่น่าจะมีผลกระทบกับรังนกและซุปไก่ มั่นใจสินค้าจีนตีตลาดไม่ได้ เผยปีหน้าเพิ่มงบตลาด อัดกิจกรรมเพิ่ม ปรับแพคเกจจิ้ง
นายสมโภช ชวาลเวชกุล กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สก๊อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรังนกและซุปไก่ “สก๊อต” เปิดเผยว่า ในปีหน้าคาดว่าตลาดรังนกและซุปไก่สกัดจะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น แม้ว่าจะมีผู้ประกอบการหลายราย แต่ก็มีผู้เล่นหลักเพียงแค่ 2 รายเท่านั้นคือ สก๊อตและคู่แข่งอีกราย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอาฟต้าที่จะมีผลในต้นปีหน้านั้น มองว่า สินค้าของไทยบางตัวก็อาจจะได้รับผลประโยชน์ ขณะที่สินค้าไทยบางอย่างก็อาจจะได้รับผลกระทบเช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้า แต่ในส่วนของตลาดรังนกและซุปไก่สกัดนั้นคาดว่า ไม่น่าจะมีผลกระทบมากเท่าใด โดยเฉพาะการที่เกรงกันว่าสินค้ารังนกจากจีนจะเข้ามาตีตลาดนั้น เป็นไปได้ยากมาก เพราะสินค้ารังนกและซุปไก่นั้น เป็นสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพ ดังนั้นเรื่องของอิมเมจและคุณภาพรวมทั้งความเชื่อมั่นในแบรนด์สินค้าเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งสก๊อตเองก็สร้างแบรนด์มาตลอดจนได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพและภาพลักษณ์แล้ว
“แต่ในปีหน้าเราเองก็คงต้องปรับมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแพคเกจจิ้ง หรือการจัดกิจกรรมต่างๆมากขึ้น รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ๆที่มีนวัตกรรมตลอดเวลา เพราะตลาดนี้หยุดนิ่งไม่ได้ ต้องเคลื่อนไหวตลอด เพื่อรองรับกับเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวดีขึ้นในปีหน้า โดยจะเพิ่มงบการตลาดรวมอีก 10% จากปีนี้ที่ใช้ประมาณ 330 ล้านบาท” นายสมโภชกล่าว
ขณะเดียวกันการสร้างตลาดใหม่ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างตลาดให้เติบโตได้ โดยเฉพาะการเปิดตลาดกลุ่มซูเปอร์พรีเมียม ซึ่งคาดว่าจะมีสัดส่วนประมาณ 15-20% จากตลาดรวม ซึ่งแต่เดิมรังนกนั้นถือเป็นตลาดที่จับกลุ่มเป้าหมายระดับบนหรือ เอ อยู่แล้ว แต่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวสินค้าเพื่อจับกลุ่มเอบวก หรือซูเปอร์พรีเมียมนั้น จะทำให้ตลาดเติบโตมากขึ้น เช่นกรณีปีที่แล้วที่บริษัทฯได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ขนาด 180 ซีซี ราคา 1,000 บาทเป็นรุ่นลิมิเต็ด ปรากฎว่าจำหน่ายได้หมดภายในเวลาแค่ 3-4 สัปดาห์เท่านั้นเอง
ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดตัว รังนกสก๊อต สุพรีม ซีเล็คชั่น โดยใช้รังนกเส้นยาวและคุณภาพดีมาผลิต เพื่อรองรับเทศกาลแห่งความสุขสิ้นปี โดยใช้งบตลาดช่วงนี้รวม 20 ล้านบาท แบ่งเป็นอะโบฟเดอะไลน์ 70% และบีโลว์เดอะไลน์ 30% ราคา 500 บาท ขนาด 90 มิลลิลิตร และเป็นแพค 3 กล่อง ราคา 1,500 บาท สำหรับปีนี้บริษัทฯคาดว่ารายได้รวมจะมีประมาณ 1,700 ล้านบาท เติบโต 20% ขณะที่ช่วง 10 เดือนแรกปีนี้ทำยอดขายได้แล้ว 1,200 ล้านบาท เติบโต 20% เช่นกัน โดยสัดส่วนรายได้แบ่งเป็น รังนก 60% ซุปไก่ 30% และคอลลาเจน 10% โดยบริษัทฯมีแชร์ในตลาดรังนกประมาณ 50% จากมูลค่าตลาดรวม 2,000 ล้านบาท ส่วนซุปไก่สกัดสก๊อตมีแชร์ 15-20% จากมูลค่าตลาดรวม 3,000 ล้านบาท
นายสมโภช ชวาลเวชกุล กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สก๊อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรังนกและซุปไก่ “สก๊อต” เปิดเผยว่า ในปีหน้าคาดว่าตลาดรังนกและซุปไก่สกัดจะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น แม้ว่าจะมีผู้ประกอบการหลายราย แต่ก็มีผู้เล่นหลักเพียงแค่ 2 รายเท่านั้นคือ สก๊อตและคู่แข่งอีกราย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอาฟต้าที่จะมีผลในต้นปีหน้านั้น มองว่า สินค้าของไทยบางตัวก็อาจจะได้รับผลประโยชน์ ขณะที่สินค้าไทยบางอย่างก็อาจจะได้รับผลกระทบเช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้า แต่ในส่วนของตลาดรังนกและซุปไก่สกัดนั้นคาดว่า ไม่น่าจะมีผลกระทบมากเท่าใด โดยเฉพาะการที่เกรงกันว่าสินค้ารังนกจากจีนจะเข้ามาตีตลาดนั้น เป็นไปได้ยากมาก เพราะสินค้ารังนกและซุปไก่นั้น เป็นสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพ ดังนั้นเรื่องของอิมเมจและคุณภาพรวมทั้งความเชื่อมั่นในแบรนด์สินค้าเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งสก๊อตเองก็สร้างแบรนด์มาตลอดจนได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพและภาพลักษณ์แล้ว
“แต่ในปีหน้าเราเองก็คงต้องปรับมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแพคเกจจิ้ง หรือการจัดกิจกรรมต่างๆมากขึ้น รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ๆที่มีนวัตกรรมตลอดเวลา เพราะตลาดนี้หยุดนิ่งไม่ได้ ต้องเคลื่อนไหวตลอด เพื่อรองรับกับเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวดีขึ้นในปีหน้า โดยจะเพิ่มงบการตลาดรวมอีก 10% จากปีนี้ที่ใช้ประมาณ 330 ล้านบาท” นายสมโภชกล่าว
ขณะเดียวกันการสร้างตลาดใหม่ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างตลาดให้เติบโตได้ โดยเฉพาะการเปิดตลาดกลุ่มซูเปอร์พรีเมียม ซึ่งคาดว่าจะมีสัดส่วนประมาณ 15-20% จากตลาดรวม ซึ่งแต่เดิมรังนกนั้นถือเป็นตลาดที่จับกลุ่มเป้าหมายระดับบนหรือ เอ อยู่แล้ว แต่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวสินค้าเพื่อจับกลุ่มเอบวก หรือซูเปอร์พรีเมียมนั้น จะทำให้ตลาดเติบโตมากขึ้น เช่นกรณีปีที่แล้วที่บริษัทฯได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ขนาด 180 ซีซี ราคา 1,000 บาทเป็นรุ่นลิมิเต็ด ปรากฎว่าจำหน่ายได้หมดภายในเวลาแค่ 3-4 สัปดาห์เท่านั้นเอง
ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดตัว รังนกสก๊อต สุพรีม ซีเล็คชั่น โดยใช้รังนกเส้นยาวและคุณภาพดีมาผลิต เพื่อรองรับเทศกาลแห่งความสุขสิ้นปี โดยใช้งบตลาดช่วงนี้รวม 20 ล้านบาท แบ่งเป็นอะโบฟเดอะไลน์ 70% และบีโลว์เดอะไลน์ 30% ราคา 500 บาท ขนาด 90 มิลลิลิตร และเป็นแพค 3 กล่อง ราคา 1,500 บาท สำหรับปีนี้บริษัทฯคาดว่ารายได้รวมจะมีประมาณ 1,700 ล้านบาท เติบโต 20% ขณะที่ช่วง 10 เดือนแรกปีนี้ทำยอดขายได้แล้ว 1,200 ล้านบาท เติบโต 20% เช่นกัน โดยสัดส่วนรายได้แบ่งเป็น รังนก 60% ซุปไก่ 30% และคอลลาเจน 10% โดยบริษัทฯมีแชร์ในตลาดรังนกประมาณ 50% จากมูลค่าตลาดรวม 2,000 ล้านบาท ส่วนซุปไก่สกัดสก๊อตมีแชร์ 15-20% จากมูลค่าตลาดรวม 3,000 ล้านบาท
