ASTVผู้จัดการรายวัน-ความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมไทยต.ค.เกิน 100 ครั้งแรกในรอบ 42 เดือน เหตุคำสั่งซื้อ ยอดขาย กำลังการผลิตเพิ่ม
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทยในเดือนต.ค.2552 ว่า จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 1,128 ตัวอย่าง ครอบคลุม 39 กลุ่มอุตสาหกรรมของ ส.อ.ท. ค่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 104.3 ปรับตัวขึ้นจากเดือนก.ย. ที่อยู่ระดับ 95.9 ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นของค่าดัชนีเกิน 100 เป็นเดือนแรกจากเดือนมี.ค.2549 หรือในรอบ 42 เดือน
สาเหตุที่ดัชนีทุกตัวปรับสูงขึ้น เพราะทั้งคำสั่งซื้อ ยอดขายรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนและผลประกอบการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าอย่างจีน อินเดีย ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ประกอบกับมีคำสั่งซื้อเพื่อรองรับการขายสินค้าช่วงปลายปีเพื่อต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอีกจำนวนหนึ่ง
“การสำรวจครั้งนี้ ได้รวมปัจจัยผลกระทบจากปัญหามาบตาพุดไปแล้ว แต่ภาคเอกชนก็เชื่อมั่นว่าจะคลี่คลายได้ เมื่อรวมกับคำสั่งซื้อที่กลับเพิ่มเข้ามาต่อเนื่อง 4-5 เดือนทำให้เรามองชัดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวค่อนข้างแน่นอน แต่จะมากน้อยหรือไม่คงจะต้องดูช่วงปลายปีถึงต้นปีหน้า”นายสันติกล่าว
สำหรับดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 102.9 ในเดือนก.ย. อยู่ที่ระดับ 107.8 ในเดือนต.ค. เนื่องจากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมคาดการณ์ว่า ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ราคาขาย และผลประกอบการจะสูงขึ้น
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทยในเดือนต.ค.2552 ว่า จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 1,128 ตัวอย่าง ครอบคลุม 39 กลุ่มอุตสาหกรรมของ ส.อ.ท. ค่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 104.3 ปรับตัวขึ้นจากเดือนก.ย. ที่อยู่ระดับ 95.9 ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นของค่าดัชนีเกิน 100 เป็นเดือนแรกจากเดือนมี.ค.2549 หรือในรอบ 42 เดือน
สาเหตุที่ดัชนีทุกตัวปรับสูงขึ้น เพราะทั้งคำสั่งซื้อ ยอดขายรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนและผลประกอบการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าอย่างจีน อินเดีย ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ประกอบกับมีคำสั่งซื้อเพื่อรองรับการขายสินค้าช่วงปลายปีเพื่อต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอีกจำนวนหนึ่ง
“การสำรวจครั้งนี้ ได้รวมปัจจัยผลกระทบจากปัญหามาบตาพุดไปแล้ว แต่ภาคเอกชนก็เชื่อมั่นว่าจะคลี่คลายได้ เมื่อรวมกับคำสั่งซื้อที่กลับเพิ่มเข้ามาต่อเนื่อง 4-5 เดือนทำให้เรามองชัดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวค่อนข้างแน่นอน แต่จะมากน้อยหรือไม่คงจะต้องดูช่วงปลายปีถึงต้นปีหน้า”นายสันติกล่าว
สำหรับดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 102.9 ในเดือนก.ย. อยู่ที่ระดับ 107.8 ในเดือนต.ค. เนื่องจากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมคาดการณ์ว่า ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ราคาขาย และผลประกอบการจะสูงขึ้น