นายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา แถลงที่รัฐสภาว่า ว่า ตนได้ยื่นหนังสือถึงนาย ประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงและชะลอการส่งผลการสรรหาคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ชุดแรก จำนวน 2 คน คือ พล.อ.ชูชาติ สุขสงวน และนายสุรนันท์ วงศ์วิทยกำจร แทนตำแหน่งที่ว่างลง1 ตำแหน่ง เมื่อ วันที่ 23 พ.ย. ซึ่งผลการลงมติ ปรากฎว่า นายสุรนันท์ วงศ์วิทยากำจร ได้รับเลือกให้เป็นคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ออกไปก่อน
นายวรินทร์ กล่าวว่า เนื่องจากตนมีข้อสังเกตุว่า ในการประชุมเพื่อสรรหา กทช. อาจมีการกระทำการเข้าข่ายรัฐธรรมนูญ มาตรา 122 ที่ระบุว่า ห้ามมีการชี้นำ หรือทำให้การลงคะแนนเกิดขึ้นด้วยการโน้มน้าวผู้ลงคะแนน เพราะมีข้อสังเกตุจากการทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมของนาย นิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา ที่ได้กล่าวในที่ประชุม หลังจากที่ไม่สามารถเลือกในรอบแรกได้ เกินกว่ากึ่งหนึ่งคือ 76 เสียง ทำให้ต้องเลือกในรอบที่ 2 ซึ่งนายนิคม ประธานในที่ประชุมได้พูดในลักษณะทำนองว่า ได้มีการตกลงสัญญาสุภาพบุรุษกันในคณะกรรมาธิการกิจการวุฒิสภา หรือ วิปวุฒิฯ ถ้ามีการเลือกรอบ 2 ก็จะให้เทคะแนนให้กับผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดในรอบแรก
นายวรินทร์ กล่าวว่า คำกล่าวในลักษณะนี้ ถือเป็นการการดำเนินการสรรหา ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นจึงอยากให้ประธานวุฒิสภา ทำการชะลอการสรรหาเรื่องนี้ไปก่อน เพราะถ้าการสรรหาในครั้งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อาจนำสู่การส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ
นายวรินทร์ กล่าวว่า เนื่องจากตนมีข้อสังเกตุว่า ในการประชุมเพื่อสรรหา กทช. อาจมีการกระทำการเข้าข่ายรัฐธรรมนูญ มาตรา 122 ที่ระบุว่า ห้ามมีการชี้นำ หรือทำให้การลงคะแนนเกิดขึ้นด้วยการโน้มน้าวผู้ลงคะแนน เพราะมีข้อสังเกตุจากการทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมของนาย นิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา ที่ได้กล่าวในที่ประชุม หลังจากที่ไม่สามารถเลือกในรอบแรกได้ เกินกว่ากึ่งหนึ่งคือ 76 เสียง ทำให้ต้องเลือกในรอบที่ 2 ซึ่งนายนิคม ประธานในที่ประชุมได้พูดในลักษณะทำนองว่า ได้มีการตกลงสัญญาสุภาพบุรุษกันในคณะกรรมาธิการกิจการวุฒิสภา หรือ วิปวุฒิฯ ถ้ามีการเลือกรอบ 2 ก็จะให้เทคะแนนให้กับผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดในรอบแรก
นายวรินทร์ กล่าวว่า คำกล่าวในลักษณะนี้ ถือเป็นการการดำเนินการสรรหา ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นจึงอยากให้ประธานวุฒิสภา ทำการชะลอการสรรหาเรื่องนี้ไปก่อน เพราะถ้าการสรรหาในครั้งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อาจนำสู่การส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ