สมาชิกวุฒิสภาต้องลงมติคัดเลือกกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทช. 1 คน แทนตำแหน่งที่ว่างลงจากการลาออก ด้วยวิธีการเปิดเผยแบบขานชื่อเรียงตามตัวอักษร เป็นรอบที่ 2 หลังจากรอบแรกผู้เหมาะสมทั้ง 2 คนได้คะแนนไม่ถึงกึ่งหนึ่ง หรือ 75 เสีย นายสุรนันท์ วงศ์วิทยกำจร ได้ 69 คะแนน ส่วน พล.อ.ชูชาติ พรหมพระสิทธิ์ ได้ 56 คะแนน
ขณะที่ก่อนหน้านี้ต้องเปิดประชุมลับอภิปรายคุณสมบัติ เพราะ ส.ว.ส่วนหนึ่งอ้างถึงจดหมายจากคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ คตง. แจ้งข้อมูลไม่เหมาะสม
คาดว่าหลังจากนั้นที่ประชุมจะพิจารณาวาระการคัดเลือกกรรมการ กทช. 3 คนแทนตำแหน่งที่ว่าง โดยมีผู้เหมาะสม 6 คน ซึ่งวุฒิสภาต้องเลือกให้เหลือ 3 คน โดยแต่ละคนต้องได้รับคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิก หรือ 75 เสียงขึ้นไป
ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติร่าง พ.ร.บ.ตรวจเงินแผ่นดิน ด้วยคะแนนเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่ง โดยมีมติ 65 ต่อ 58 เสียง และงดออกเสียง 11 คน ส่งผลให้วุฒิสภาต้องประสานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อตั้งคณะกรรมาธิการร่วมศึกษารายละเอียดของร่างกฎหมาย เนื่องจากเกรงว่าการลงมติของวุฒิสภาอาจเข้าข่ายขัดกันแห่งผลประโยชน์ เนื่องจาก คตง.เป็นองค์กรหนึ่งที่ต้องทำหน้าที่คัดเลือก ส.ว.สรรหา
ขณะที่ก่อนหน้านี้ต้องเปิดประชุมลับอภิปรายคุณสมบัติ เพราะ ส.ว.ส่วนหนึ่งอ้างถึงจดหมายจากคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ คตง. แจ้งข้อมูลไม่เหมาะสม
คาดว่าหลังจากนั้นที่ประชุมจะพิจารณาวาระการคัดเลือกกรรมการ กทช. 3 คนแทนตำแหน่งที่ว่าง โดยมีผู้เหมาะสม 6 คน ซึ่งวุฒิสภาต้องเลือกให้เหลือ 3 คน โดยแต่ละคนต้องได้รับคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิก หรือ 75 เสียงขึ้นไป
ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติร่าง พ.ร.บ.ตรวจเงินแผ่นดิน ด้วยคะแนนเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่ง โดยมีมติ 65 ต่อ 58 เสียง และงดออกเสียง 11 คน ส่งผลให้วุฒิสภาต้องประสานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อตั้งคณะกรรมาธิการร่วมศึกษารายละเอียดของร่างกฎหมาย เนื่องจากเกรงว่าการลงมติของวุฒิสภาอาจเข้าข่ายขัดกันแห่งผลประโยชน์ เนื่องจาก คตง.เป็นองค์กรหนึ่งที่ต้องทำหน้าที่คัดเลือก ส.ว.สรรหา