นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดเผยว่า ได้จับมือกับ”ไทยทีม” ดำเนินแผนงานเชิงรุก และให้การสนับสนุนภาคเอกชนในการทำตลาดในต่างประเทศมากขึ้น โดยในแผนงานปีงบประมาณ 2553 สสปน.ได้วางแนวทางการเข้าร่วมงานเทรดโชว์ต่างๆ ทั่วโลก ทั้งสิ้น11 งาน ประเดิมงานแรก EIBTM 2009 – European Incentive, Business Travel & Meeting Exhibition ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าที่ใหญ่สุดในยุโรป จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี จัดขึ้น ณ นครบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ในระหว่างวันที่ 1-3 ธันวาคมศกนี้
ซึ่งคณะรัฐบาลไทย นำโดย พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ร่วมกับ สสปน. จะนำผู้ประกอบการจากภาครัฐและเอกชน กว่า 23 ราย เดินทางเข้าร่วมงานและนำเสนอข้อมูลร่วมเจรจาธุรกิจ มีเป้าหมายเพื่อการทำตลาดเชิงรุกเพื่อขยายฐานตลาดไมซ์ในสหภาพยุโรป ซึ่งงาน EIBTM 2009 ปีก่อน มีจำนวนผู้ร่วมแสดงงาน 3,725 ราย และมีผู้เข้าร่วมงานจำนวน 8,131 ราย โดยมีนัดหมายเจรจาธุรกิจล่วงหน้าถึง 51,000 นัดหมายของทั้งงาน และประเทศไทยมีจำนวนนัดหมายทั้งสิ้น 1,700 งาน สสปน.จึงมั่นใจว่าเวทีนี้จะช่วยกระตุ้นตลาดไมซ์ไทยในยุโรปได้
อย่างไรก็ตาม สสปน.จะเร่ง ดำเนินกิจกรรม “โรดโชว์” ในหัวเมืองสำคัญในสหภาพยุโรป ควบคู่ไปกับการเข้าร่วมงานเทรดโชว์ ครอบคลุมตั้งแต่ ลอนดอน ปารีส แมดริด บรัสเซลล์ และแฟรงเฟิร์ต ตามแผนกลยุทธ์การดำเนินงานใน 3 แนวทาง ได้แก่ แนวทางการตลาดไมซ์แบบแบ่งสรรตามพื้นที่ (Clustered Destination) ตอกย้ำว่าประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเป็น “ตลาดไมซ์คุณภาพ” ในภูมิภาคเอเชีย และสุดท้ายแนวทางด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเร่งสานต่อนโยบายของรัฐบาลในด้าน “เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์” พร้อมนำมาเป็นจุดขายใหม่ที่จะสามารถกระตุ้นตลาดในกลุ่มประชุมและกลุ่มอินเซ็นทีฟของไทยได้ในระยะยาว ภายใต้แคมเปญ Thailand Maximize นำเสนอจุดเด่นด้านศักยภาพและความคุ้มค่าสำหรับการจัดกิจกรรมด้านไมซ์ในประเทศไทย จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นและทำให้ตลาดต่างประเทศ ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งคณะรัฐบาลไทย นำโดย พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ร่วมกับ สสปน. จะนำผู้ประกอบการจากภาครัฐและเอกชน กว่า 23 ราย เดินทางเข้าร่วมงานและนำเสนอข้อมูลร่วมเจรจาธุรกิจ มีเป้าหมายเพื่อการทำตลาดเชิงรุกเพื่อขยายฐานตลาดไมซ์ในสหภาพยุโรป ซึ่งงาน EIBTM 2009 ปีก่อน มีจำนวนผู้ร่วมแสดงงาน 3,725 ราย และมีผู้เข้าร่วมงานจำนวน 8,131 ราย โดยมีนัดหมายเจรจาธุรกิจล่วงหน้าถึง 51,000 นัดหมายของทั้งงาน และประเทศไทยมีจำนวนนัดหมายทั้งสิ้น 1,700 งาน สสปน.จึงมั่นใจว่าเวทีนี้จะช่วยกระตุ้นตลาดไมซ์ไทยในยุโรปได้
อย่างไรก็ตาม สสปน.จะเร่ง ดำเนินกิจกรรม “โรดโชว์” ในหัวเมืองสำคัญในสหภาพยุโรป ควบคู่ไปกับการเข้าร่วมงานเทรดโชว์ ครอบคลุมตั้งแต่ ลอนดอน ปารีส แมดริด บรัสเซลล์ และแฟรงเฟิร์ต ตามแผนกลยุทธ์การดำเนินงานใน 3 แนวทาง ได้แก่ แนวทางการตลาดไมซ์แบบแบ่งสรรตามพื้นที่ (Clustered Destination) ตอกย้ำว่าประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเป็น “ตลาดไมซ์คุณภาพ” ในภูมิภาคเอเชีย และสุดท้ายแนวทางด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเร่งสานต่อนโยบายของรัฐบาลในด้าน “เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์” พร้อมนำมาเป็นจุดขายใหม่ที่จะสามารถกระตุ้นตลาดในกลุ่มประชุมและกลุ่มอินเซ็นทีฟของไทยได้ในระยะยาว ภายใต้แคมเปญ Thailand Maximize นำเสนอจุดเด่นด้านศักยภาพและความคุ้มค่าสำหรับการจัดกิจกรรมด้านไมซ์ในประเทศไทย จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นและทำให้ตลาดต่างประเทศ ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
