บอร์ดสสปน.ตีกลับแผนแม่บท 7 ปี ระบุยังไม่ชัดเจนในรายละเอียด สั่งนำกลับไปทำใหม่พร้อมนำเสนอ ในที่ประชุม 27 ต.ค.นี้ ด้านผู้อำนวยการสสปน.คนใหม่เป็นตามคาด ตั้ง อรรคพล สรสุชาติ คนสนิท เสธหนั่น โดยไม่ขอเสียงโหวตจากกรรมการฯ
แหล่งข่าวจากวงการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ที่ประชุมมีมติให้ สสปน.นำแผนแม่บท ระยะ 7 ปี (2553-2559) ที่ได้เสนอให้บอร์ดได้พิจารณากลับไปทำในรายละเอียดของการทำงานมาใหม่ โดยให้มีการจัดทำแผนปฏิบัติงานเป็นรายปี ในช่วง 7 ปีของแผนแม่บทเข้ามาเพิ่มเติม เพื่อให้เห็นความชัดเจนและความคืบหน้าของการทำงานยิ่งขึ้น พร้อมกับกำหนดให้แล้วเสร็จและนำมาเสนอในการประชุมในวันที่ 27 ต.ค.52 เพื่อพิจารณาในวาระดังกล่าวนี้โดยตรง
อย่างไรก็ตามแผนแม่บทดังกล่าว สสปน.ได้คาดหวังว่าภายใน 7 ปี สสปน.จะผลักดันให้อุตสาหกรรมไมซืของประเทศไทยเติบโตอย่างน้อย 20% พร้อมเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ให้เดินทางเข้ามาประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น หรือเป็นสัดส่วน 20% ของนักท่องเที่ยวทั่วไป จากปัจจุบันสัดส่วนนักท่องเที่ยวไมซ์ไม่ถึง 10% ของนักท่องเที่ยวทั่วไป อย่างไรก็ตามจากแผนแม่บทดังกล่าว
ที่ประชุมยังได้เป็นห่วงในเรื่องของการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน และ สถานที่จัดงานและการประชุมจะมีเพียงพอหรือไม่ใน 7 ปีข้างหน้า รวมถึงเรื่องระบบการรักษาความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการเชิญชวนนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ให้เดินทางเข้ามา จึงต้องเป็นหน้าที่ สสปน.ที่จะต้องไปผลักดันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมความพร้อมรับมือด้วย
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังได้ประกาศชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจาก บริษัท เฮด ฮันเตอร์ ให้เข้ารับตำแหน่ง ผู้อำนวยการ สสปน. คือนายอรรคพล สรสุชาติ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.52 เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเสนอชื่อนายอรรคพล ในที่ประชุมบอร์ด สสปน.ครั้งนี้ ประธานบอร์ด หรือนายอนุศักดิ์ อินทรภูวศักดิ์ เป็นผู้แจ้งรายชื่อต่อที่ประชุม พร้อมเสนอขอไม่ให้มีการโหวตในที่ประชุมโดยอ้างเหตุผลไม่ต้องการให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีกับการทำงานร่วมกันนับจากนี้ต่อไป
ทั้งนี้นายอรรคพล สรสุชาติ มีประวัตการทำงานเป็นนักการเมือง เริ่มต้นสังกัดอยู่พรรคประชาธิปัตย์ และเป็นคนสนิทของพล.ตรีสนั่น ขจรประศาสตร์ รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลงานด้านท่องเที่ยว และ ที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ทำให้นายอรรคพล ออกจากพรรคประชาธิปัตย์มาพร้อมกับ พล.ตรีสนั่น และมีตำแหน่งล่าสุด เป็น เลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (รองนายกรัฐมนตรีพลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) นั่นเอง
แหล่งข่าวจากวงการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ที่ประชุมมีมติให้ สสปน.นำแผนแม่บท ระยะ 7 ปี (2553-2559) ที่ได้เสนอให้บอร์ดได้พิจารณากลับไปทำในรายละเอียดของการทำงานมาใหม่ โดยให้มีการจัดทำแผนปฏิบัติงานเป็นรายปี ในช่วง 7 ปีของแผนแม่บทเข้ามาเพิ่มเติม เพื่อให้เห็นความชัดเจนและความคืบหน้าของการทำงานยิ่งขึ้น พร้อมกับกำหนดให้แล้วเสร็จและนำมาเสนอในการประชุมในวันที่ 27 ต.ค.52 เพื่อพิจารณาในวาระดังกล่าวนี้โดยตรง
อย่างไรก็ตามแผนแม่บทดังกล่าว สสปน.ได้คาดหวังว่าภายใน 7 ปี สสปน.จะผลักดันให้อุตสาหกรรมไมซืของประเทศไทยเติบโตอย่างน้อย 20% พร้อมเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ให้เดินทางเข้ามาประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น หรือเป็นสัดส่วน 20% ของนักท่องเที่ยวทั่วไป จากปัจจุบันสัดส่วนนักท่องเที่ยวไมซ์ไม่ถึง 10% ของนักท่องเที่ยวทั่วไป อย่างไรก็ตามจากแผนแม่บทดังกล่าว
ที่ประชุมยังได้เป็นห่วงในเรื่องของการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน และ สถานที่จัดงานและการประชุมจะมีเพียงพอหรือไม่ใน 7 ปีข้างหน้า รวมถึงเรื่องระบบการรักษาความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการเชิญชวนนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ให้เดินทางเข้ามา จึงต้องเป็นหน้าที่ สสปน.ที่จะต้องไปผลักดันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมความพร้อมรับมือด้วย
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังได้ประกาศชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจาก บริษัท เฮด ฮันเตอร์ ให้เข้ารับตำแหน่ง ผู้อำนวยการ สสปน. คือนายอรรคพล สรสุชาติ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.52 เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเสนอชื่อนายอรรคพล ในที่ประชุมบอร์ด สสปน.ครั้งนี้ ประธานบอร์ด หรือนายอนุศักดิ์ อินทรภูวศักดิ์ เป็นผู้แจ้งรายชื่อต่อที่ประชุม พร้อมเสนอขอไม่ให้มีการโหวตในที่ประชุมโดยอ้างเหตุผลไม่ต้องการให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีกับการทำงานร่วมกันนับจากนี้ต่อไป
ทั้งนี้นายอรรคพล สรสุชาติ มีประวัตการทำงานเป็นนักการเมือง เริ่มต้นสังกัดอยู่พรรคประชาธิปัตย์ และเป็นคนสนิทของพล.ตรีสนั่น ขจรประศาสตร์ รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลงานด้านท่องเที่ยว และ ที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ทำให้นายอรรคพล ออกจากพรรคประชาธิปัตย์มาพร้อมกับ พล.ตรีสนั่น และมีตำแหน่งล่าสุด เป็น เลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (รองนายกรัฐมนตรีพลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) นั่นเอง