เมื่อเวลา11.00 น.วานนี้ (22 พ.ย.) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย และอดีตนักบิน F-16 แถลงข่าวกรณีรัฐบาลสั่งการให้เครื่องบินรบของกองทัพอากาศ ติดอาวุธขึ้นบินประกบเครื่องบิน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขณะเดินทางออกจากประเทศกัมพูชา ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เคยให้สัมภาษณ์ถึงเครื่องบินที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เช่ามาได้ขออนุญาติกรมขนส่งทางอากาศ (ขอ.) และบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย เพื่อบินผ่านประเทศไทย ซึ่งขออนุญาต เพราะไม่มีการแจ้งว่าเครื่องบินลำดังกล่าวมีพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้โดยสาร ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่จำเป็นต้องล้วงเอาตารางการบินในประเทศกัมพูชา แต่ทันที่ที่รัฐบาลไทยรู้ข้อมูล ก็ได้ทำหนังสือสั่งการไปยังวิทยุการบิน ไม่อนุญาตให้เครื่องบินที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยสาร บินกลับผ่านน่านฟ้าไทย เพราะเป็นบุคคลที่ทำผิดกฎหมาย ที่ทางการต้องการตัว หากฝ่าฝืน ก็จะส่งเครื่องบินขึ้นประกบบังคับให้ลงจอดในประเทศ และดำเนินการจับกุมพ.ต.ท.ทักษิณ ทันที
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวพร้อมกับแสดงแผนการบินและคำสั่ง สำนักนายกรัฐมนตรีให้ยกเลิกการอนุมัติของกรมขนส่งทางอากาศที่ 5779/11/2009 และ5899/11/2009 ว่า จากคำให้สัมภาษณ์ของนายสุเทพนั้น บิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะ ในส่วนของตารางการบินนั้น ตามกฎการบินสากล ทางสนามบินต้นทาง จะส่งข้อมูลให้กับประเทศที่จะขออนุญาตบินผ่าน เฉพาะแบบของเครื่องบิน นามเรียกขานของเครื่องบิน เส้นทางที่จะบิน และข้อมูลจำเป็นอื่นๆ เท่านั้น ส่วนข้อมูลของผู้โดยสารที่เดินทางมากับเครื่องบิน เป็นใคร ชื่ออะไรบ้างนั้น เป็นข้อมูลภายในของกัมพูชา ซึ่งมิได้ส่งให้ทางการไทยรับทราบ
"ขอตั้งข้อสังเกตุว่า นายสุเทพไปแอบทราบมาได้อย่างไรว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมากับเครื่องบินลำดังกล่าว จึงได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิกการอนุมัติของกรมขนส่งทางอากาศที่ 5779/11/2009 และ5899/11/2009 ซึ่งเป็นการอนุมัติให้บินผ่านน่านฟ้าไทยของเครื่องบิน CL30 ลำดังกล่าว มีคำเรียกขาน N300BZ" น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่าหลังจากเครื่องบิน พ.ต.ท.ทักษิณ บินออกจากกัมพูชาเวลาประมาณ 9.45 วันที่14 พ.ย. รัฐบาลสั่งการให้เครื่องบิน F-16 สองลำ และเครื่องบิน F5 สองลำ ขึ้นบินประกบ เครื่องบินโดยสาร พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งนักบินมารู้คำสั่งยกเลิก เมื่อเครื่องเข้าน่านฟ้าไทยแล้ว นักบินจึงได้เปลี่ยนเส้นทางการบิน และทราบมาอีกว่า เครื่องบินรบของไทยที่บินประกบอยู่ในน่านฟ้าไทย อยู่ในระยะจอเรดาร์ 40ไมล์ กรณีดังกล่าวข้าราชการกองทัพอากาศจำนวนมาก ไม่สบายใจที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว เพราะเป็นการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ ไปในทางที่อาจจะขัดต่อกฎหมาย เนื่องจากเครื่องบินขับไล่ที่ใช้ในภารกิจสกัดกั้นนั้นจะขึ้นเพื่อปฏิบัติภารกิจได้ 4กรณี ตาม พ.ร.บ.การปฏิบัติต่ออากาศยานที่กระทำผิดกฎหมาย 1. ตัวอากาศยานที่ถูกสกัดกั้นต้องกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ 2. ทำผิดอนุสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ 3. ทำผิดกฎหมายอื่น 4. หรือเพื่อป้องกันภยันตรายแก่ราชอาณาจักร
"การสั่งการนี้ ไม่ทราบว่าใช้เหตุผลตามพ.ร.บ.มาตราไหนมาสั่งการ หากนายสุเทพ ยืนยันว่า เครื่องบินที่ พ.ต.ท.ทักษิณโดยสารมาด้วย กระทำความผิดจนต้องสั่งให้เครื่องบินขึ้นสกัดกั้น ตามกฎหมายระบุว่า กองทัพอากาศจะต้องเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการนำเครื่องบินวิ่งขึ้นที่มีมูลค่าหลายล้านบาท จากเครื่องบินที่กระทำความผิดภายใน 30 วัน หากไม่มีการเรียกเก็บเงินก็แสดงว่านายสุเทพ สั่งการครั้งนี้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งการสั่งการให้เครื่องบิน F-16 และ F5 ติดอาวุธต็มพิกัด กับเครื่องบินโดยสารพลเรือนนั้น ส่อให้เห็นเจตนาของผู้สั่งการ ต้องการให้กองทัพอากาศละเมิดกฎหมาย เพราะขั้นตอนการปฏิบัติกับอากาศยานพลเรือน ได้ระบุไว้ชัดเจนว่า ห้ามใช้อาวุธกับเครื่องบันโดยสารเด็ขาด" น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว และว่า หากเครื่องบิน พ.ต.ท.ทักษิณ บินเข้าน่านฟ้าไทย เครื่องบินรบไทยได้รับคำสั่งให้นำเครื่องบินอดีตนายกฯบินลง หากไม่บินลง ก็ไม่เชื่อว่านักบินจะตัดสินใจยิงเครื่องให้ตก เพราะเป็นที่รู้กันในวงการนักบิน จะไม่มีการยิงเครื่องบินโดยสารของพลเรือน นักบินคงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ผิดกฎหมาย
**"เทือก"ตอก พท.ขี้โม้
ด้านนายสุเทพ เทือสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า พรรคเพื่อไทยขยันสร้างข่าวให้คนตื่นเต้น เรื่องนี้เคยชี้แจงไปหลายครั้งแล้วว่า เครื่องบินของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้แจ้งผู้โดยสารที่นั่งมาด้วย แต่เที่ยวกลับ เราห้ามบินผ่านน่านฟ้าไทย ซึ่งต้องแจ้งเขาก่อน แต่ถ้าจู่ๆ เราไปบังคับให้เขาเอาเครื่องลง แล้วจับก็จะเป็นปัญหา เพราะเป็นเครื่องบินชาติอื่น แต่ในเที่ยวกลับหากเขาเข้ามา ก็ให้บินประกบ เพราะไทยมีสิทธิ์บังคับคนที่เราไม่อนุญาตให้บินผ่านน่านฟ้าของเรา แต่ถ้ายังฝ่าฝืนเรามีสิทธิ์จะบังคับให้เขาลงจอดได้ ยืนยันว่า เราไม่ได้ส่งเครื่องประกบทั้งเที่ยวไป และกลับ ที่พรรคเพื่อไทยอ้างนั้นเป็นเรื่องขี้โม้
" ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ บินเข้ามาในน่านฟ้าไทย จะไม่ต้องประกบ แต่จะสั่งให้จอดทันที ไม่ได้ไปถึงกัมพูชาหรอก" นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยถามว่ารัฐบาลใช้กฎมายอะไรบังคับไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ บินผ่านน่านฟ้าไทย นายสุเทพ กล่าวว่า กฎหมายนั้นมี แต่ให้ไปหาเอาเอง สรุปว่าตนมีอำนาจก็แล้วกัน พรรคเพื่อไทยจะทำอะไรก็แล้วแต่เขา ตนก็มีหลักฐานเช่นเดียวกัน ส่วนที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่ามีหลักฐานนั้น คงจะเป็นหลักฐานของตนที่สั่งการไป
** ทอ.ยันไม่ได้ส่งเอฟ16บินประกบ
ด้านน.อ.มณฑล สัชฌุกร รองโฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงคือ เครื่องบินเช่าเหมาลำเครื่องนี้ ระหว่างเดินทางไปกัมพูชา ได้มีการขอบินผ่านน่านฟ้าของไทย เพื่อเข้าสู่กัมพูชาโดยมีการขอผ่านเส้นทางทั้งขาไป และขากลับ ซึ่งถือเป็นกฎการบินปกติที่เครื่องบินทุกชนิด หากจะเข้าน่านฟ้าประเทศใดต้องทำการขออนุญาต ซึ่งการขอผ่านเส้นทางการบินของไทยครั้งนี้ เครื่องบินพลเรือนเช่าเหมาลำนี้ไม่ได้แจ้งว่า มีผู้โดยสารเป็นใคร ซึ่งปกติก็ไม่จำเป็นต้องแจ้ง ทำให้ฝ่ายการบินอนุญาตให้ผ่านน่านฟ้าไทย ซึ่งอนุญาตทั้งขาไปและขากลับ
แต่เมื่อรัฐบาลทราบว่า เครื่องบินลำดังกล่าว คือเครื่องบินที่พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้เป็นพาหนะเดินทาง ทำให้รัฐบาลสั่งยกเลิกอนุญาตบินผ่านน่านฟ้าไทยในการบินเที่ยวกลับ เพราะเป็นบุคคลที่ไม่พึ่งประสงค์ จึงให้ยกเลิกการอนุญาตบินผ่านไทย ซึ่งก็ได้มีการแจ้งให้เที่ยวบินนั้นทราบแล้ว
อย่างไรก็ตาม กองทัพอากาศไม่ได้มีการส่งเครื่องบินเอฟ 16 ไปประกบเครื่องบินเช่าเหมาลำของพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเครื่องบินลำนั้นไม่ได้บินเข้าน่านฟ้าไทย ตามที่ได้มีการยกเลิกอนุญาตผ่านน่านฟ้าไทยไปแล้ว
"จะใช้คำว่า ประกบไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้บินเข้ามาในประเทศไทย เขาบินอ้อมไป ส่วนของเราก็บินตามปกติ ห้วงเวลาที่เครื่องบิน พ.ต.ท.ทักษิณ บินไปดูไบนั้นก็เป็นวันปกติ ซึ่งกองทัพอากาศ มีการบินรักษาเขตแดนการบินอยู่ตามปกติ ทั้งนี้ เครื่องบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เข้าน่านฟ้าไทย กองทัพอากาศจึงไม่มีการส่งเครื่องบินเอฟ 16 ติดอาวุธหนักเข้าประกบตามที่พรรคเพื่อไทยระบุ" รองโฆษก ทอ.กล่าว และว่า เครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศ มีการเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจอดพร้อมบินอยู่ที่ภาคพื้น ซึ่งบรรจุอาวุธหนักเต็มพิกัด เพื่อป้องกันเหตุไม่คาคคิด ซึ่งถือเป็นมาตรฐานสากลที่ทุกกองทัพของนานาชาติปฏิบัติ
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวพร้อมกับแสดงแผนการบินและคำสั่ง สำนักนายกรัฐมนตรีให้ยกเลิกการอนุมัติของกรมขนส่งทางอากาศที่ 5779/11/2009 และ5899/11/2009 ว่า จากคำให้สัมภาษณ์ของนายสุเทพนั้น บิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะ ในส่วนของตารางการบินนั้น ตามกฎการบินสากล ทางสนามบินต้นทาง จะส่งข้อมูลให้กับประเทศที่จะขออนุญาตบินผ่าน เฉพาะแบบของเครื่องบิน นามเรียกขานของเครื่องบิน เส้นทางที่จะบิน และข้อมูลจำเป็นอื่นๆ เท่านั้น ส่วนข้อมูลของผู้โดยสารที่เดินทางมากับเครื่องบิน เป็นใคร ชื่ออะไรบ้างนั้น เป็นข้อมูลภายในของกัมพูชา ซึ่งมิได้ส่งให้ทางการไทยรับทราบ
"ขอตั้งข้อสังเกตุว่า นายสุเทพไปแอบทราบมาได้อย่างไรว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมากับเครื่องบินลำดังกล่าว จึงได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิกการอนุมัติของกรมขนส่งทางอากาศที่ 5779/11/2009 และ5899/11/2009 ซึ่งเป็นการอนุมัติให้บินผ่านน่านฟ้าไทยของเครื่องบิน CL30 ลำดังกล่าว มีคำเรียกขาน N300BZ" น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่าหลังจากเครื่องบิน พ.ต.ท.ทักษิณ บินออกจากกัมพูชาเวลาประมาณ 9.45 วันที่14 พ.ย. รัฐบาลสั่งการให้เครื่องบิน F-16 สองลำ และเครื่องบิน F5 สองลำ ขึ้นบินประกบ เครื่องบินโดยสาร พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งนักบินมารู้คำสั่งยกเลิก เมื่อเครื่องเข้าน่านฟ้าไทยแล้ว นักบินจึงได้เปลี่ยนเส้นทางการบิน และทราบมาอีกว่า เครื่องบินรบของไทยที่บินประกบอยู่ในน่านฟ้าไทย อยู่ในระยะจอเรดาร์ 40ไมล์ กรณีดังกล่าวข้าราชการกองทัพอากาศจำนวนมาก ไม่สบายใจที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว เพราะเป็นการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ ไปในทางที่อาจจะขัดต่อกฎหมาย เนื่องจากเครื่องบินขับไล่ที่ใช้ในภารกิจสกัดกั้นนั้นจะขึ้นเพื่อปฏิบัติภารกิจได้ 4กรณี ตาม พ.ร.บ.การปฏิบัติต่ออากาศยานที่กระทำผิดกฎหมาย 1. ตัวอากาศยานที่ถูกสกัดกั้นต้องกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ 2. ทำผิดอนุสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ 3. ทำผิดกฎหมายอื่น 4. หรือเพื่อป้องกันภยันตรายแก่ราชอาณาจักร
"การสั่งการนี้ ไม่ทราบว่าใช้เหตุผลตามพ.ร.บ.มาตราไหนมาสั่งการ หากนายสุเทพ ยืนยันว่า เครื่องบินที่ พ.ต.ท.ทักษิณโดยสารมาด้วย กระทำความผิดจนต้องสั่งให้เครื่องบินขึ้นสกัดกั้น ตามกฎหมายระบุว่า กองทัพอากาศจะต้องเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการนำเครื่องบินวิ่งขึ้นที่มีมูลค่าหลายล้านบาท จากเครื่องบินที่กระทำความผิดภายใน 30 วัน หากไม่มีการเรียกเก็บเงินก็แสดงว่านายสุเทพ สั่งการครั้งนี้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งการสั่งการให้เครื่องบิน F-16 และ F5 ติดอาวุธต็มพิกัด กับเครื่องบินโดยสารพลเรือนนั้น ส่อให้เห็นเจตนาของผู้สั่งการ ต้องการให้กองทัพอากาศละเมิดกฎหมาย เพราะขั้นตอนการปฏิบัติกับอากาศยานพลเรือน ได้ระบุไว้ชัดเจนว่า ห้ามใช้อาวุธกับเครื่องบันโดยสารเด็ขาด" น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว และว่า หากเครื่องบิน พ.ต.ท.ทักษิณ บินเข้าน่านฟ้าไทย เครื่องบินรบไทยได้รับคำสั่งให้นำเครื่องบินอดีตนายกฯบินลง หากไม่บินลง ก็ไม่เชื่อว่านักบินจะตัดสินใจยิงเครื่องให้ตก เพราะเป็นที่รู้กันในวงการนักบิน จะไม่มีการยิงเครื่องบินโดยสารของพลเรือน นักบินคงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ผิดกฎหมาย
**"เทือก"ตอก พท.ขี้โม้
ด้านนายสุเทพ เทือสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า พรรคเพื่อไทยขยันสร้างข่าวให้คนตื่นเต้น เรื่องนี้เคยชี้แจงไปหลายครั้งแล้วว่า เครื่องบินของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้แจ้งผู้โดยสารที่นั่งมาด้วย แต่เที่ยวกลับ เราห้ามบินผ่านน่านฟ้าไทย ซึ่งต้องแจ้งเขาก่อน แต่ถ้าจู่ๆ เราไปบังคับให้เขาเอาเครื่องลง แล้วจับก็จะเป็นปัญหา เพราะเป็นเครื่องบินชาติอื่น แต่ในเที่ยวกลับหากเขาเข้ามา ก็ให้บินประกบ เพราะไทยมีสิทธิ์บังคับคนที่เราไม่อนุญาตให้บินผ่านน่านฟ้าของเรา แต่ถ้ายังฝ่าฝืนเรามีสิทธิ์จะบังคับให้เขาลงจอดได้ ยืนยันว่า เราไม่ได้ส่งเครื่องประกบทั้งเที่ยวไป และกลับ ที่พรรคเพื่อไทยอ้างนั้นเป็นเรื่องขี้โม้
" ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ บินเข้ามาในน่านฟ้าไทย จะไม่ต้องประกบ แต่จะสั่งให้จอดทันที ไม่ได้ไปถึงกัมพูชาหรอก" นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยถามว่ารัฐบาลใช้กฎมายอะไรบังคับไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ บินผ่านน่านฟ้าไทย นายสุเทพ กล่าวว่า กฎหมายนั้นมี แต่ให้ไปหาเอาเอง สรุปว่าตนมีอำนาจก็แล้วกัน พรรคเพื่อไทยจะทำอะไรก็แล้วแต่เขา ตนก็มีหลักฐานเช่นเดียวกัน ส่วนที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่ามีหลักฐานนั้น คงจะเป็นหลักฐานของตนที่สั่งการไป
** ทอ.ยันไม่ได้ส่งเอฟ16บินประกบ
ด้านน.อ.มณฑล สัชฌุกร รองโฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงคือ เครื่องบินเช่าเหมาลำเครื่องนี้ ระหว่างเดินทางไปกัมพูชา ได้มีการขอบินผ่านน่านฟ้าของไทย เพื่อเข้าสู่กัมพูชาโดยมีการขอผ่านเส้นทางทั้งขาไป และขากลับ ซึ่งถือเป็นกฎการบินปกติที่เครื่องบินทุกชนิด หากจะเข้าน่านฟ้าประเทศใดต้องทำการขออนุญาต ซึ่งการขอผ่านเส้นทางการบินของไทยครั้งนี้ เครื่องบินพลเรือนเช่าเหมาลำนี้ไม่ได้แจ้งว่า มีผู้โดยสารเป็นใคร ซึ่งปกติก็ไม่จำเป็นต้องแจ้ง ทำให้ฝ่ายการบินอนุญาตให้ผ่านน่านฟ้าไทย ซึ่งอนุญาตทั้งขาไปและขากลับ
แต่เมื่อรัฐบาลทราบว่า เครื่องบินลำดังกล่าว คือเครื่องบินที่พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้เป็นพาหนะเดินทาง ทำให้รัฐบาลสั่งยกเลิกอนุญาตบินผ่านน่านฟ้าไทยในการบินเที่ยวกลับ เพราะเป็นบุคคลที่ไม่พึ่งประสงค์ จึงให้ยกเลิกการอนุญาตบินผ่านไทย ซึ่งก็ได้มีการแจ้งให้เที่ยวบินนั้นทราบแล้ว
อย่างไรก็ตาม กองทัพอากาศไม่ได้มีการส่งเครื่องบินเอฟ 16 ไปประกบเครื่องบินเช่าเหมาลำของพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเครื่องบินลำนั้นไม่ได้บินเข้าน่านฟ้าไทย ตามที่ได้มีการยกเลิกอนุญาตผ่านน่านฟ้าไทยไปแล้ว
"จะใช้คำว่า ประกบไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้บินเข้ามาในประเทศไทย เขาบินอ้อมไป ส่วนของเราก็บินตามปกติ ห้วงเวลาที่เครื่องบิน พ.ต.ท.ทักษิณ บินไปดูไบนั้นก็เป็นวันปกติ ซึ่งกองทัพอากาศ มีการบินรักษาเขตแดนการบินอยู่ตามปกติ ทั้งนี้ เครื่องบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เข้าน่านฟ้าไทย กองทัพอากาศจึงไม่มีการส่งเครื่องบินเอฟ 16 ติดอาวุธหนักเข้าประกบตามที่พรรคเพื่อไทยระบุ" รองโฆษก ทอ.กล่าว และว่า เครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศ มีการเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจอดพร้อมบินอยู่ที่ภาคพื้น ซึ่งบรรจุอาวุธหนักเต็มพิกัด เพื่อป้องกันเหตุไม่คาคคิด ซึ่งถือเป็นมาตรฐานสากลที่ทุกกองทัพของนานาชาติปฏิบัติ