ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- มีบางประเด็นสำคัญที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ไม่ได้แถลงกับสื่อ หลังกลับจากการไปพบหารือกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาสมเด็จฯ ฮุนเซน วันพุธ (21 ต.ค.) ที่ผ่านมา รวมทั้งประเด็นที่สองพรรค - พรรคประชาชนกัมพูชา กับ พรรคเพื่อไทย ได้ตกลงกันจัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางทหารขึ้นมาชุดหนึ่ง และ ผู้นำเขมรเรียกร้องให้กลุ่มคนเสื้อแดงในประเทศไทยสนับสนุนพรรคเพื่อไทยอย่างแข็งขันด้วย
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ดืมอัมปึล ซึ่งเป็นสื่อที่สนับสนุนรัฐบาล นายกฯ กัมพูชา ได้เรียกร้องผ่าน พลพรรคคนเสื้อแดง ให้ช่วยกันสนับสนุนพรรคเพื่อไทย อย่างแข็งขันและเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างเพื่อไทย กับ พรรคประชาชนกัมพูชา อย่างแน่นแฟ้น
“สองฝ่ายได้หารือกันเกี่ยวกับการส่งเสริมการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างผู้นำพรรคประชาชนกัมพูชา กับ พรรคเพื่อไทย” ดืมอัมปึลอ้างคำพูดของแหล่งข่าวระดับสูง ที่ร่วมรับฟังการสนทนาระหว่าง พล.อ.ชวลิต กับสมเด็จฯ ฮุนเซน ที่บ้านพักเมืองตาขะเมา วันพุธที่ผ่านมา
ท่านนายกฯ ฮุนเซน ยังได้เรียกร้อง (ผ่าน พล.อ.ชวลิต) ขอให้กลุ่มคนเสื้อแดงสนับสนุน พล.อ.ชวลิต กับพรรคเพื่อไทย อย่างแข็งขัน..” ดืมอัมปึล กล่าว
พล.อ.ชวลิต ประธานพรรคเพื่อไทย ไปเยี่ยมเยือนผู้นำกัมพูชาในวันเดียวกัน และกลับถึงกรุงเทพฯ แถลงข่าวเรื่องที่สมเด็จฯ ฮุนเซน พร้อมให้การต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเข้ากัมพูชา และจะจัดหาบ้านพักให้พำนักอยู่ในประเทศนี้อย่างสมเกียรติ
สมเด็จฯ ฮุนเซน บอกกับ พล.อ.ชวลิต ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งปัจจุบันเป็นนักโทษหนีอาญาแผ่นดิน เป็น “เพื่อนชั่วนิรันดร” ของตน และยินดีต้อนรับสู่กัมพูชาทุกเมื่อ
สมเด็จฯ ฮุนเซน ยังได้เสนอต่อ พล.อ.ชวลิต ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานทางทหาร ระหว่างพรรคประชาชนกัมพูชา กับ พรรคเพื่อไทย ขึ้นมาชุดหนึ่ง ฝ่ายกัมพูชาได้มอบหมายให้ พ.อ.เตียบัญ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหม เป็นหัวหน้าคณะ เพื่อประสานงานกับคณะของพรรคเพื่อไทย ดืมอัลปึล กล่าว
ไม่มีการแถลงจุดประสงค์เกี่ยวกับการตั้งคณะกรรมการร่วมทางทหารระหว่างสองพรรค สองประเทศในครั้งนี้
สำหรับ พรรคเพื่อไทย จะมีการแต่งตั้งอดีตนายทหารระดับสูงคนหนึ่งขึ้นเป็นหัวหน้าคณะกรรมการของฝ่ายนั้น ดืมอัมปึล กล่าว
ความเคลื่อนทางการทหารนี้ มีขึ้นหลังจาก พล.อ.ชวลิต ประกาศเมื่อต้นเดือนนี้ จะมีนายทหารนอกราชการจำนวนมากเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 เพื่อนร่วมรุ่นของ พ.ต.ท.ทักษิณ
พล.อ.จีรเดช คชรัตน์ อดีตรองผู้บัญชาการทหารบก ที่เพิ่งเกษียณจากราชการในวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นอีกคนหนึ่งที่สมัครเข้าเป็นเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่งได้สร้างความแปลกใจให้แก่สาธารณชนทั่วไป เนื่องจากอดีตนายทหารผู้นี้เคยมีบทบาทสำคัญ ในเดือน ก.พ.ปีนี้ เป็นผู้นำคณะตัวแทนจากกองทัพบก ไป “ขอโทษ” ต่อฝ่ายกัมพูชา กรณีที่ทหารไทยยิงปืนครกล้ำแดน
พล.อ.จีรเดช ยังมีบทบาทใกล้ชิดในคณะรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาค 3 สืบต่อจาก พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร และถูกดึงตัวจากกองทัพภาคที่ 3 เข้าสู่กองทัพบกในเวลาต่อมา จนกระทั่งได้ขึ้นสู่ตำแหน่งรอง ผบ.ทบ.จนกระทั่งเกษียณอายุราชการ
ไม่กี่เดือนมานี้ สมเด็จฯ ฮุนเซน ได้วิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายทหารของไทยอย่างรุนแรงมาตลอด รวมทั้งเคยสบประมาทต่อหน้า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ไปเยือนว่า ทหารไทยจะต้องใช้กำลัง 3-5 เท่าตัว ในการสู้รบกับทหารกัมพูชาที่มีกำลังน้อยกว่า แต่กรำสงครามมามากกว่า
สมเด็จฯ ฮุนเซน ขู่จะยิงเครื่องบินไทยทุกลำที่บินล้ำน่านฟ้า และครั้งล่าสุดในสัปดาห์ปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ก็ได้สั่งให้ทหารทุกหน่วยที่ประจำชายแดนด้านปราสาทพระวิหาร ยิงคนไทยทุกคนที่ รุกเข้าไปใน “เขตทับซ้อน” ระหว่างสองประเทศ ซึ่งหมายถึงพื้นที่ 4.6 ตร.กม.รอบๆ ปราสาทพระวิหาร