xs
xsm
sm
md
lg

รุมจวก"อภินันท์" ยก"โรมานอฟ" กระทบสถาบันฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ส.ส.- ส.ว.รุมถล่ม“จิ๋ว-อภินันท์” ยกตัวอย่าง “โรมานอฟ” ล่มสลาย มีนัยประหวัดถึงสถาบันสำคัญ เตือนสติเป็นถึงนายทหารระดับสูงควรมีสติมากกว่านี้ อัดพวกนายว่า ขี้ข้าพลอย พูดไม่สมเป็นรองประธานสภาฯ ยันปัญหาการเมืองไทยระอุจาก “คนขี้คุก” ไม่เกี่ยวกับสถาบันเบื้องสูง "สาทิตย์" ฟุ้งแผน"เสื้อแดง" เดินเกมแรงโค่นรัฐบาลเป็นไปตามคาด มั่นใจรัฐบาลรับมือไหว

นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีที่ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ให้สัมภาษณ์ตัวอย่างความล่มสลายของราชวงศ์โรมานอฟของรัสเซียว่า เท่าที่อ่านตนดูแม้จะไม่ชัดเจนว่าเป็นการยกตัวอย่างของ พล.อ.ชวลิต หรือ พ.อ.อภินันท์ แต่ไม่สบายใจที่มีการยกตัวอย่างเช่นนี้ เพราะมีนัยประหวัดไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งทั้งสองท่านสามารถยกตัวอย่างความล่มสลายของรัฐบาลประเทศต่างๆ ในประวัติศาสตร์ได้ ไม่เห็นจะต้องเลยเถิดไปถึงการล่มสลายของระบอบที่ก่อให้เกิดการปฏิวัติใหญ่ขึ้นในโลก คือการปฏิวัติบอลเชวิก ที่นำทฤษฎีลัทธิคอมมิวนิสต์มาประยุกต์ใช้เป็นรูปธรรมครั้งแรกในโลก หากเป็นเรื่องกลอนพาไป ไม่มีความหมายแฝงเร้นก็ไม่เป็นไร แต่คนเป็นถึงพลเอก พันเอก คนหนึ่งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี อีกคนปัจจุบันเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ควรกลั่นกรองให้มากกว่านี้

โดยการพูดจาคาบลูกคาบดอกไต่เส้นเช่นนี้เกิดขึ้นมากในระยะหลัง สังคมควรใช้วิจารณญาณไตร่ตรองให้มากว่าผู้พูดมีวัตถุประสงค์เช่นใด ตนไม่อยากกล่าวหาใคร แต่ก็ไม่อยากให้เรื่องราวผ่านเลยไปโดยไม่ออกมาท้วงติง สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยอยู่เหนือการเมืองมาตั้งแต่ปี 2475 การปกครองเป็นเรื่องของรัฐบาลที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาตามกลไกของระบอบการเมืองในแต่ละห้วงเวลา หากจะมีความขัดแย้งก็ควรจำกัดอยู่ในระดับของรัฐบาล ไม่ควรพูดจากยกตัวอย่างกำกวม โดยเฉพาะ พล.อ.ชวลิตที่ประกาศถึงความจงรักภักดีสูงสุดมาโดยตลอด ควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชนและนักการเมืองทั้งหลาย โดยเฉพาะนักการเมืองในพรรคเพื่อไทย

“ผมไม่อยากให้ประชาชนเข้าใจ พล.อ.ชวลิตผิดๆ เพราะท่านเองก็เคยถูกโจมตีมาตั้งแต่ปี 2526 โดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ว่าฝักใฝ่ในระบบสภาเปรซิเดียม ซึ่งเป็นรูปแบบการปกครองของรัสเซียภายหลังการล่มสลายของราชวงศ์โรมานอฟ จนเกิดประโยคฮิตในขณะนั้นจาก ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ว่ากูไม่กลัวมึง” นายคำนูณกล่าว

***เรียกร้องให้ “พ.อ.อภิวันท์”แถลงแก้ข่าว

นาย สมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ในฐานะโฆษกกรรมาธิการพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ฯ วุฒิสภากล่าวว่า เรื่องนี้พ.อ.อภิวันท์ ไม่ควรพูด เพราะอย่าลืมว่าท่านอยู่ในตำแหน่งรองประธานสภาฯ ไม่ใช่เป็นแกนนำ นปก. มีเรื่องอื่นให้เปรียบเทียบจำนวนมากมายทำไมไม่ยกตัวอย่างเปรียบเทียบ กลับมาเปรียบเทียบกับราชวงศ์โรมานนอฟ ซึ่งเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนจึงไม่บังควรอย่างยิ่ง และการเปรียบเทียบเช่นนี้ไม่เหมาะสม เพราะพ.อ.อภิวันท์ เป็นถึงอดีตนายทหารเก่า ไม่น่าจะคิดได้เช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ตนขอเรียกร้องให้พ.อ.อภิวันท์ แถลงข่าวแก้ข่าวนี้ เพื่อขอโทษประชาชนด้วย

นายเทพไท เสนพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าพ.อ.อภิวันท์ หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูดในสถานการณ์วันนี้มีวัตถุประสงค์อะไร เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่อาจจะกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ในลักษณะพาดพิงได้ เพราะช่วงที่ผ่านมาพ.ต.ทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์ไทม์ออนไลน์ ถึงสถาบันเบื้องสูงอย่างรุนแรง จึงไม่ทราบว่าการออกมาพูดของพ.อ.อภิวันท์ เป็นการผสมโรงกับการให้สัมภาษณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณใช่หรือไม่ตนไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องลักษณะ เจ้านายว่า ขี้ข้าพลอย

**ระบุชี้เป้าคนเสื้อแดง

นายเทพไทกล่าวว่า ถ้าเรื่องดังกล่าวออกมาจากคำพูดของแกนนำคนเสื้อแดง หรือพวกแดงสยาม ตนก็จะไม่แปลกใจ เพราะคนเหล่านี้ได้ประกาศจุดยืนชัดเจนที่จะต่อต้านกลุ่มอำนาจตยาธิปไตย แต่เรื่องดังกล่าวกลับออกมาจากปากของพ.อ.อภิวันท์ ที่มีฐานะเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฏร และภูมิหลังก็เป็นนักเรียนนายร้อยจปร. รับราชการเป็นนายทหาร จนได้รับพระราชทานยศ ระดับพันเอก แต่กลับมาพูดในเรื่องที่หมิ่นเหม่ จึงอยากจะเรียกร้องให้พ.อ.อภิวันท์ในฐานะที่เป็นรองประธานสภา และในบางครั้งก็ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานที่ประชุมสภา ควรจะทบทวนบทบาทของตนเอง ว่าการแสดงความเห็นดังกล่าวเหมาะสมกับสถานะทางตำแหน่งหรือไม่ และอยากจะให้ออกมาชี้แจงต่อสังคมว่าการหยิบยกเรื่องดังกล่าวออกมาพูด แท้จริงแล้วมีวัตถุประสงค์ใด

“ถ้าจะยกเรื่องการล่มสลายของราชวงศ์ของประเทศรัสเซียมาเปรียบเทียบกับการเมืองในประเทศไทยขณะนี้ เป็นเรื่องที่ไม่บังควรอย่างยิ่ง ไม่ควรทำตัวเป็นหัวหน้าคนเสื้อแดงพูดจาชี้ช่องทางให้คนเสื้อแดงใช้เป็นเป้าหมายในการเคลื่อนไหวในการชุมนุมครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ในลักษณะชี้โพรงให้กระรอก และเชื่อว่าเรื่องว่านี้จะได้รับการต่อต้านจากสังคมอย่างรุนแรงเหมือนกับกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์ไทม์ออนไลน์ และสุดท้ายก็ออกมาเฉไฉปฏิเสธว่าเป็นเรื่องที่รู้เท่าไม่ถึงการบกพร่องโดยสุจริตเหมือนเดิม และคนในสังคมก็คงจะไม่ยอมให้อภัยกับพฤติกรรมแบบนี้ที่เกิดขึ้นมาในช่วงหลังอย่างซ้ำซาก”

**ย้ำอย่านำราชวงศ์อื่นมาเปรียบเทียบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า การยกเหตุการณ์โรมานอฟ มาอ้างว่าเป็นเพราะประชาชนไม่ยอมรับและลุกฮือขึ้นมาต่อต้านจนทำให้ราชวงศ์ล่มสลาย สามารถนำมาเปรียบเทียบกับประชาชนคนไทยได้หรือไม่ นายเทพไทกล่าวว่า ไม่ควรหยิบยกราชวงศ์ประเทศต่างๆมาเทียบกับราชวงศ์ไทย เพราะแต่ละประเทศมีโครงสร้างทางการปกครองที่ต่างกัน สถานะของราชวงศ์ของแต่ละประเทศก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทยขณะนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะสถาบันดังกล่าวได้ระบุในรัฐธรรมนูญไว้ชัดเจนว่า “พระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมือง ผู้ใดจะละเมิดมิได้”

“ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นเรื่องของสามัญชนคนขี้คุกที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ไม่ยอมรับกฎหมายของบ้านเมือง ปฏิเสธขบวนการยุติธรรมที่ตัดสินคดีว่าตัวเองมีความผิด ไม่มีความเป็นธรรม ถ้าตนเองถูกก็ยุติธรรม ถ้าลิ่วล้อจะหยิบยกพ.ต.ท.ทักษิณไปเทียบเคียงกับราชวงศ์โรมานอฟ ก็ควรที่จะไปพูดจาและเคลื่อนไหวที่ประเทศอื่น สำหรับประเทศไทยไม่ต้อนรับพวกคนที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ”

**อภิวันท์ แจงไม่ได้หวังให้ล้มล้าง

พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า เป็นเพราะอยากเตือนสติ สถานการณ์การเมืองบ้านเรามีความแตกแยกกันสูง แอบอ้างสถาบันมาทำลายล้างเพื่อประโยชน์ฝ่ายหนึ่ง เพื่อทำลายล้างอีกฝ่าย เลยเอาหนังสือประวัติศาสตร์ราชวงศ์โรมานอฟ ราชวงศ์บูร์บง ของฝรั่งเศส การล่มสลายของราชวงศ์ฮั่น มาอ่าน ตนเป็นห่วงสถานการณ์ เพราะก่อนการล่มสลายทั้ง3ราชวงศ์ เกิดสถานการณ์คล้ายๆ กับประเทศไทยปัจจุบัน

“วันนี้ยังแก้ไขได้ กลุ่มอำนาจแต่ละฝ่ายหันมาเจรจาอย่างสันติวิธี สิ่งที่พูดเพราะความเป็นห่วงชาติบ้านเมือง ตราบใดกระบวนการยุติธรรมไม่เป็นธรรมบ้านเมืองอยู่ไม่ได้ ผู้มีอำนาจต้องสร้างกระบวนการยุติธรรมให้เป็นธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัฒนธรรมไทยคนเป็นผู้ใหญ่ต้องให้อภัยเด็ก คนมีอำนาจต้องเห็นใจผู้ไม่มีอำนาจ ขณะเดียวกันคนที่เป็นเด็กก็ต้องให้ความเคารพผู้ใหญ่ บ้านเมืองเราถึงอยู่รอดปลอดภัยมาถึงปัจจุบัน แต่สถานการณ์ปัจจุบันมันเป็นสถานการณ์เข่นฆ่า ประหัตประหารกันทางการเมืองค่อนข้างรุนแรง ไม่เคยปรากฎมาในประวัติศาสตร์ชาติไทย มีการกล่าวหาพรรคการเมืองฝ่ายหนึ่งทรยศชาติ ทั้งที่ความเป็นจริงไม่ใช่ ต้องการพูดเตือนสติเท่านั้น มิเช่นนั้นจะเป็นเหมือนราชวงศ์โรมานอฟ ราชวงศ์บูร์บง พระเจ้าฮั่น ซึ่งมีประวัติศาสตร์สอนมาแล้ว”

**“มาร์ค” ลั่น คนไทยต้องได้ฉลองปีใหม่

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีคนเสื้อแดงประกาศชุมนุมในวันที่29พ.ย.เพื่อบีบและปิดเกมภายในวันที่3ธ.ค.เพื่อให้รัฐบาลยุบสภาว่า มีการพูดเรื่องการชุถมนุมแต่ละครั้งนั้นเป็นระยะ ตนไม่ทราบว่าจุดประสงค์และเงื่อนไขคืออะไร คงต้องรอดูเพราะที่ผ่านมากว่าจะทราบความชัดเจนรูปแบบการเคลื่อนไหวนั้น มันใกล้เวลาชุมนุมพอสมควร เมื่อถามว่าเรื่องนี้เหมาะสมหรือไม่เพราะชุมนุมใกล้วันที่5ธ.ค. นายกฯกล่าวว่าต้องไปถามผู้จัดการชุมนุม เมื่อถามว่าจะประกาศพ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรด้วยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่าขึ้นอยู่กับข่าวที่เราจะได้ เมื่อถามว่าคนเสื้อแดงต้องการให้รัฐบาลยุบสภาและขู่ว่าไม่ให้รัฐบาลจัดงานฉลองปีใหม่ด้วย นายกฯกล่าวว่า เป็นข้อเรียกร้องเดิมและเป็นสิทธิที่จะแสดงออก แต่ตนขอให้คนไทยได้ฉลองวันปีใหม่เป็นใช้ได้ เมื่อถามว่ามั่นใจว่าดูแลสถานการณ์ช่วงปีใหม่ได้หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ตั้งใจเต็มที่

**"เสื้อแดง" เดินเกมตามคาด

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 29 พ.ย.นี้ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ รัฐบาลมีหน้าที่เตรียมการรับมือ ไม่ประมาท อย่างไรก็ตามจะพยายามทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองมากที่สุด แม้เราจะยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง หรือการเคลื่อนไหวที่เป็นสิทธิทางการเมือง แต่ทุกอย่างต้องให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย ฉะนั้นเที่ยวนี้หากมีอะไรที่เกินเลยกว่าขอบเขตกฎหมาย ก็ต้องจัดการโดยเด็ด เป็นการจัดการเด็ดขาดภายใต้กฎหมาย ซึ่งในเวลานี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย ก็มีกาประชุมเตรียมการรับสถานการณ์ตลอดเวลาและมั่นใจว่าจะสามารถดูแลสถานการณ์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยได้

**อัดทำอะไรให้ดูความเหมาะสม

นายสาทิตย์ กล่าวด้วยว่า ในช่วงเวลาอันเป็นมหามงคล คนไทยควรจะรู้ว่าตัวเองว่าควรจะดำเนินการ จะทำอะไร จะเคลื่อนไหวอย่างไร เพื่อให้อยู่ในกรอบของความเหมาะสม ฉะนั้นในวันดังกล่าว จะเสื้อสีอะไรก็แล้วแต่ หากจะแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีนี้ทำได้ แต่ไม่ควรใช้เหตุการณ์วันมหามงคล มาคาบเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมือง ตรงนี้ต้องแยกกันให้ออก

เมื่อถามว่ารัฐบาลจะมีมาตรการป้องปราม แจ้งให้ฝ่ายผู้ชุมนุมทราบอย่างไรบ้าง นายสาทิตย์ กล่าวว่า จริงๆ ตอนนี้เราทำทั้งการเตรียมการ และการเข้าไปทำความเข้าใจกับแกนนำ และในหลายพื้นที่มีการส่งคนเข้าไปทำความเข้าใจกับแกนนำ จะเห็นว่าแกนนำแต่ละพื้นที่มีการเปลี่ยนท่าทีไปแล้ว เช่น ที่จ.เลย ที่รัฐมนตรีไปตรวจงาน ไม่มีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อสีใดเลย อันนี้เป็นข้อตกลงของทางนักการเมืองท้องถิ่นใน จ.เลย รวมทั้งที่ จ.พะเยา ส่วนจังหวัดอื่นเราก็ส่งคนไปพูดคุยตลอดเวลา

เมื่อถามว่า การลงพื้นที่ลักษณะนี้เป็นการเตรียมการเลือกตั้ง หรือจะยุบสภาหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ไม่เลย เราไปเรื่องประกันรายได้เกษตรกร เสาร์อาทิตย์นี้ทั้ง 2 ที่ ส่วนวันอาทิตย์หน้าที่ จ.เชียงใหม่ ภาคเช้าเป็นการประชุมหอการค้าทั่วประเทศ ภาคบ่ายบินลงใต้ไป มอ.หาดใหญ่ เป็นการพูดเรื่องยุทธศาสตร์การพัฒนาภาคใต้อย่างยั่งยืน ไม่ได้เกี่ยวกับสถานการณ์ยุบไม่ยุบสภา

**“ประวิตร”ฮึ่มทหารต้องเข้มงวด

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ในการชุมนุมแต่ละครั้ง เราพยายามทุกครั้งให้เกิดความเรียบร้อย เราคงไม่ประเมินว่า จะเกิดความรุนแรงขึ้น เพราะเราไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงจากการชุมนุม เนื่องจากจะทำให้เกิดความเสียหายและทำให้ความเชื่อมั่นลดน้อยลง ดังนั้นการชุมนุมต้องอยู่ในกรอบ และไม่ให้เกิดอันตรายต่อคนอื่น หรือสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ส่วนจะประกาศพื้นที่ พ.ร.บ.ความมั่นคง หรือไม่ คงต้องดูอีกครั้งว่า ข่าวสารเป็นอย่างไร และควรดำเนินการอย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น