อุบลราชธานี-หอการค้าอุบลราชธานี ระบุความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชากระทบการค้าชายแดนไม่มาก เพราะมีจุดผ่านแดนแค่ระดับท้องถิ่น พร้อมแนะผู้ประกอบการธุรกิจทัวร์ปรับเส้นทางไปเที่ยวลาวแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานหลังประเทศไทยปรับลดระดับสัมพันธ์ทางการทูตต่อประเทศกัมพูชา นับตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจให้รัฐบาลกัมพูชาอย่างผิดมารยาท ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวไทยงดเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศกัมพูชา เพราะเกรงความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น
หอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับสมาคมการท่องเที่ยวได้แนะนำผู้ประกอบการบริษัทท่องเที่ยวในจังหวัดปรับเปลี่ยนเส้นทางจนกว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศจะดีขึ้น พร้อมระบุว่า การกระทบกระทั่งครั้งนี้ ไม่กระทบการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา เพราะเป็นการค้าในท้องถิ่นมีมูลค่าไม่ถึงล้านบาท
สำหรับการท่องเที่ยวระหว่างไทย-กัมพูชา ส่วนใหญ่จะเดินทางลักษณะเช้าไปเย็นกลับ หรือแวะพักในกันพูชาไม่เกิน 2 วัน เพื่อไปเล่นพนันที่บ่อนช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หรือไปเที่ยวนครวัดนครธม แต่เมื่อเกิดการปะทะระหว่างทหารทั้ง 2 ประเทศ ตั้งแต่ต้นปีบริษัทท่องเที่ยวได้ลดโปรแกรมเข้าไปท่องเที่ยวในกัมพูชา แต่เพิ่มในส่วนการเข้าไปท่องเที่ยวในลาวแทน การกระทบกระทั่งครั้งใหม่ จึงไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวมากนัก
ส่วนการค้าไทย-ลาว ผ่านด่านชายแดนช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ยังเป็นปกติ มีการส่งสินค้าเข้าไปขายตามคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง ส่วนมูลค่าการค้าผ่านชายแดนด้านนี้ จะมีมูลค่าใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาคือราว 5,000-6,000 ล้านบาท เพราะสินค้าที่ไทยส่งเข้าไปขายเป็นสินค้าในกลุ่มอุปโภคบริโภค น้ำมันเชื้อเพลิง และน้ำมันหล่อลื่น ขณะที่สินค้านำเข้าจากลาวเป็นสินค้าเกษตรกรรม ซึ่งมีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานหลังประเทศไทยปรับลดระดับสัมพันธ์ทางการทูตต่อประเทศกัมพูชา นับตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจให้รัฐบาลกัมพูชาอย่างผิดมารยาท ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวไทยงดเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศกัมพูชา เพราะเกรงความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น
หอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับสมาคมการท่องเที่ยวได้แนะนำผู้ประกอบการบริษัทท่องเที่ยวในจังหวัดปรับเปลี่ยนเส้นทางจนกว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศจะดีขึ้น พร้อมระบุว่า การกระทบกระทั่งครั้งนี้ ไม่กระทบการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา เพราะเป็นการค้าในท้องถิ่นมีมูลค่าไม่ถึงล้านบาท
สำหรับการท่องเที่ยวระหว่างไทย-กัมพูชา ส่วนใหญ่จะเดินทางลักษณะเช้าไปเย็นกลับ หรือแวะพักในกันพูชาไม่เกิน 2 วัน เพื่อไปเล่นพนันที่บ่อนช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หรือไปเที่ยวนครวัดนครธม แต่เมื่อเกิดการปะทะระหว่างทหารทั้ง 2 ประเทศ ตั้งแต่ต้นปีบริษัทท่องเที่ยวได้ลดโปรแกรมเข้าไปท่องเที่ยวในกัมพูชา แต่เพิ่มในส่วนการเข้าไปท่องเที่ยวในลาวแทน การกระทบกระทั่งครั้งใหม่ จึงไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวมากนัก
ส่วนการค้าไทย-ลาว ผ่านด่านชายแดนช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ยังเป็นปกติ มีการส่งสินค้าเข้าไปขายตามคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง ส่วนมูลค่าการค้าผ่านชายแดนด้านนี้ จะมีมูลค่าใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาคือราว 5,000-6,000 ล้านบาท เพราะสินค้าที่ไทยส่งเข้าไปขายเป็นสินค้าในกลุ่มอุปโภคบริโภค น้ำมันเชื้อเพลิง และน้ำมันหล่อลื่น ขณะที่สินค้านำเข้าจากลาวเป็นสินค้าเกษตรกรรม ซึ่งมีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศ
