ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ พ.ต.อ.นฤชา สุวรรณลาภา ผกก.สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลปะนาเระว่า มีนักเรียนถูกยิงได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จึงไปตรวจสอบพบแพทย์กำลังเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ก่อนจะนำส่งต่อไปที่โรงพยาบาลปัตตานี ทราบชื่อผู้บาดเจ็บ คือ นายปรีชา พรหมสะอาด อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/4 ม.4 ต.บ้านกลาง อ.ปะนาเระ นักศึกษา ปวช. ปี 1 วิทยาลัยอาชีวะปัตตานี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม.ที่แขนและขา, นายอำนาจ จันทร์อินทร์ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/1 ม.4 ต.บ้านกลาง อ.ปะนาเระ นักศึกษา ปวช. ปี 2 วิทยาลัยเทคนิคปัตตานี ถูกยิงที่ขาซ้าย และ ด.ญ.พิจิตรา ชุมคง อายุ 12 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 ม.1 ต.ท่าข้าม อ.ปะนาเระ นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนแหลมทองอุปถัมภ์ ถูกยิงที่หัวเข่า
จากนั้นได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด 11 มม. จำนวน 4 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่นายพรชัย บังเกิดผล อายุ 34 ปี อาชีพลูกจ้าง อบต.ท่าข้าม อ.ปะนาเระ ขับรถรับส่งนักเรียน ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน บฉ 939 ปัตตานีเพื่อจะไปส่งนักเรียนตามบ้านในพื้นที่ อ.ปะนาเระ โดยมีนักเรียนนั่งอยู่ภายในห้องโดยสาร และท้ายกระบะมีหลังคา จำนวนเกือบ 20 คน ปรากฏว่าเมื่อขับมาถึงบนถนนสายปะนาเระ – สาบัน ม.4 บ้านหัวคลอง ต.บ้านนอก ได้มีคนร้าย 2 คนขี่รถ จยย.ขับตามหลังจากนั้นชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงหลายนัด ทำให้นักเรียนหวีดร้องเสียงดังด้วยความกลัว นายพรชัย จึงรีบเร่งเครื่องหนีมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลเพื่อช่วยนักเรียนที่บาดเจ็บ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลัง 3 ฝ่ายออกติดตามไล่ล่าคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อเป็นการสร้างสถานการณ์ใต้
**คนร้ายซุ่มบิงขบวนรถไฟ
เมื่อเช้าวานนี้ (16 พ.ย.) ตำรวจวิทยาการภูธร จ.นราธิวาส พร้อมด้วยชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด เข้าตรวจสอบบริเวณป่าหญ้าคาริมทางรถไฟ บ้านสะโลว์ ต.มะลือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส หลังเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามซุ่มยิงขบวนรถไฟ เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พบปลอกกระสุนปืนอาก้าตกอยู่ 2 ปลอก และพบระเบิดแสวงเครื่องบรรจุกล่องเหล็กน้ำหนัก 10 กก. จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ โชคดีตำรวจสามารถเก็บกู้ได้
เบื้องต้นสันนิษฐานว่า คนร้ายยิงถล่มรถไฟเพื่อลวงเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณเกิดเหตุ ก่อนจุดชนวนระเบิดสังหาร แต่ระหว่างเข้าตรวจสอบมีการเปิดเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ คนร้ายจึงไม่สามารถจุดชนวนระเบิดได้
**ส่งหัวรถจักรหุ้มเกราะบริการ3จชต.
ขณะที่นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ภาคใต้ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การเดินรถไฟเส้นทาง 3 จว.ชายแดนภาคใต้ ยังคงเปิดให้บริการตามปกติทุกเส้นทาง โดยมีผู้โดยสารเต็มเกือบทุกขบวน โดยเฉพาะขบวนรถไฟท้องถิ่นที่วิ่งให้บริการฟรี เบื้องต้นได้เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยให้เข้มงวดมากขึ้น ทั้งกำลังเจ้าหน้าที่บนขบวนรถไฟ เส้นทางรถไฟและสถานีต่างๆ
"โดยเฉพาะหัวรถจักรที่นำมาวิ่งให้บริการเมื่อวานนี้ ได้เน้นใช้หัวรถจักรชนิดพิเศษ (หุ้มเกราะ) เกือบทุกขบวน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด และสร้างความมั่นใจให้กับพนักงานขับรถไฟ พร้อมขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เพิ่มควงามรัดกุมในการตรวจสอบพื้นที่เลียบเส้นทางรถไฟทั้ง 2 ฝั่งตลอดเส้นทางเพื่อกำหนดแผนมาตรการรักษาความปลอดภัยและกำหนดจุดพื้นที่ล่อแหลมเพื่อเข้าไปดูแลความปลอดภัยได้ง่ายขึ้น" นายทนงศักดิ์ กล่าว
ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าพนักงานการรถไฟอาจหยุดเดินรถเนื่องจากไม่มั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้น ขอยืนยันว่าจะไม่มีการหยุดเดินรถจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะพนักงานการรถไฟเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชน และพร้อมปฏิบัติงานบริการประชาชนตามปกติ
ขณะที่เจ้าหน้าที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาหาดใหญ่ รายหนึ่ง ระบุว่า การที่คนร้ายยังคงเพ่งเล็ง หรือมุ่งลอบยิงขบวนรถไฟเส้นทาง 3 จว.ชายแดนภาคใต้ แม้เป็นเพียงการสร้างสถานการณ์เพื่อต้องการทำร้ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคนที่ปฎิบัติหน้าที่ก็ตาม แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีผลกระทบต่อสภาพจิตใจและความเชื่อมั่นของพนักงานขับรถและผู้โดยสาร
ดังนั้น การเรียกร้องให้นำหัวรถจักรหุ้มเกราะเข้าไปวิ่งให้บริการเส้นทางจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ครบทุกขบวน จึงเป็นความจำเป็นที่เร่งด่วนที่เชื่อว่าจะสามารถเพิ่มความมั่นใจให้กับพนักงานได้
**"ผบ.พตท."จัดระเบียบ รปภ.ใต้เข้ม
ด้าน พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผบ.พตท. เปิดเผยว่า เหตุการณ์คนร้ายลอบยิงขบวนรถไฟสายท้องถิ่นขบวน 463 เส้นทางพัทลุง-สุไหงโก-ลกว่า จากการตรวจสอบเชื่อว่า คนร้ายมีเป้าหมายในการทำร้ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ เนื่องจากมีการวางระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 10 กก.ไว้ใกล้รางรถไฟใกล้บริเวณเกิดเหตุด้วย อีกทั้งจุดที่คนร้ายดักซุ่มยิงนั้น เป็นพื้นที่ป่าสวนยางที่สามารถอำพรางตัว และหลบหนีได้ง่าย ดังนั้น หากนำมาประมวลเหตุการณ์ทำให้เชื่อได้ว่า เหตุการณ์ลอบยิงขบวนรถไฟ เป็นเพียงการสร้างสถานการณ์ เพื่อล่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และคนร้ายจะลงมือกดระเบิดซ้ำ แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบระเบิดและเก็บกู้ได้ทัน
**สั่งเพิ่มความเข้มดูแลเส้นทางรถไฟ
วันเดียวกัน ในเวลา 14.00 น. พ.อ.วชิระ บุญเอี่ยม หัวหน้าคณะทำงานรัฐวิสาหกิจ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้นำคณะตรวจการซ่อมบำรุงและติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเพิ่มเติมที่สถานีรถไฟมะรือโบ หมู่ 1 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานได้อย่างครอบคลุม
จากนั้นได้ประชุมร่วมกับนายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ภาคใต้ การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวิฑูรย์ จิ้วบุญชู นายสถานีรถไฟมะรือโบ และ พ.ต.ศักดิ์สม พรหมแพทย์ นายทหารฝ่ายยุทธการ หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 38 เพื่อวางมาตรการรักษาความปลอดภัยขบวนรถไฟและเส้นทางรถไฟในพื้นที่เสี่ยง ตั้งแต่สถานีรถไฟรือเสาะ อ.รือเสาะ ถึงสถานีรถไฟมะรือโบ ระยะทางยาว 14 กม. ซึ่งเมื่อวันที่ 15 พ.ย.ผู้ก่อเหตุใช้ปืนกราดยิงขบวนรถไฟ 463 พัทลุง-สุไหงโก-ลก บริเวณบ้านมะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ทำให้ ด.ต.ชำนาญ บริสุทธิ์ ผบ.หมู่สถานีรถไฟหาดใหญ่ จ.สงขลา บาดเจ็บ
ทั้งนี้ การประชุมสรุปแนวทางการรักษาความปลอดภัย 4 ประการ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 ที่เคยมอบให้กับเจ้าหน้าที่ คือ 1. จัดชุดรักษาความปลอดภัยแต่ละหมู่บ้านบูรณาการกับเจ้าหน้าที่กองกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพื่อลาดตระเวนเส้นทางรถไฟ 24 ชั่วโมง 2. ขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแลพื้นที่ 3. รณรงค์รักษาทรัพย์สินขนส่งมวลชนสาธารณะ และหากตรวจพบสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ส่วนพื้นที่ล่อแหลมบริเวณป่ารกทึบที่ไม่ใช่เนินดิน ต้องทำให้ดูโล่งตาทั้ง 2 ฝั่งเส้นทางรถไฟ
จากนั้นได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด 11 มม. จำนวน 4 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่นายพรชัย บังเกิดผล อายุ 34 ปี อาชีพลูกจ้าง อบต.ท่าข้าม อ.ปะนาเระ ขับรถรับส่งนักเรียน ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน บฉ 939 ปัตตานีเพื่อจะไปส่งนักเรียนตามบ้านในพื้นที่ อ.ปะนาเระ โดยมีนักเรียนนั่งอยู่ภายในห้องโดยสาร และท้ายกระบะมีหลังคา จำนวนเกือบ 20 คน ปรากฏว่าเมื่อขับมาถึงบนถนนสายปะนาเระ – สาบัน ม.4 บ้านหัวคลอง ต.บ้านนอก ได้มีคนร้าย 2 คนขี่รถ จยย.ขับตามหลังจากนั้นชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงหลายนัด ทำให้นักเรียนหวีดร้องเสียงดังด้วยความกลัว นายพรชัย จึงรีบเร่งเครื่องหนีมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลเพื่อช่วยนักเรียนที่บาดเจ็บ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลัง 3 ฝ่ายออกติดตามไล่ล่าคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อเป็นการสร้างสถานการณ์ใต้
**คนร้ายซุ่มบิงขบวนรถไฟ
เมื่อเช้าวานนี้ (16 พ.ย.) ตำรวจวิทยาการภูธร จ.นราธิวาส พร้อมด้วยชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด เข้าตรวจสอบบริเวณป่าหญ้าคาริมทางรถไฟ บ้านสะโลว์ ต.มะลือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส หลังเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามซุ่มยิงขบวนรถไฟ เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พบปลอกกระสุนปืนอาก้าตกอยู่ 2 ปลอก และพบระเบิดแสวงเครื่องบรรจุกล่องเหล็กน้ำหนัก 10 กก. จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ โชคดีตำรวจสามารถเก็บกู้ได้
เบื้องต้นสันนิษฐานว่า คนร้ายยิงถล่มรถไฟเพื่อลวงเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณเกิดเหตุ ก่อนจุดชนวนระเบิดสังหาร แต่ระหว่างเข้าตรวจสอบมีการเปิดเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ คนร้ายจึงไม่สามารถจุดชนวนระเบิดได้
**ส่งหัวรถจักรหุ้มเกราะบริการ3จชต.
ขณะที่นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ภาคใต้ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การเดินรถไฟเส้นทาง 3 จว.ชายแดนภาคใต้ ยังคงเปิดให้บริการตามปกติทุกเส้นทาง โดยมีผู้โดยสารเต็มเกือบทุกขบวน โดยเฉพาะขบวนรถไฟท้องถิ่นที่วิ่งให้บริการฟรี เบื้องต้นได้เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยให้เข้มงวดมากขึ้น ทั้งกำลังเจ้าหน้าที่บนขบวนรถไฟ เส้นทางรถไฟและสถานีต่างๆ
"โดยเฉพาะหัวรถจักรที่นำมาวิ่งให้บริการเมื่อวานนี้ ได้เน้นใช้หัวรถจักรชนิดพิเศษ (หุ้มเกราะ) เกือบทุกขบวน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด และสร้างความมั่นใจให้กับพนักงานขับรถไฟ พร้อมขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เพิ่มควงามรัดกุมในการตรวจสอบพื้นที่เลียบเส้นทางรถไฟทั้ง 2 ฝั่งตลอดเส้นทางเพื่อกำหนดแผนมาตรการรักษาความปลอดภัยและกำหนดจุดพื้นที่ล่อแหลมเพื่อเข้าไปดูแลความปลอดภัยได้ง่ายขึ้น" นายทนงศักดิ์ กล่าว
ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าพนักงานการรถไฟอาจหยุดเดินรถเนื่องจากไม่มั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้น ขอยืนยันว่าจะไม่มีการหยุดเดินรถจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะพนักงานการรถไฟเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชน และพร้อมปฏิบัติงานบริการประชาชนตามปกติ
ขณะที่เจ้าหน้าที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาหาดใหญ่ รายหนึ่ง ระบุว่า การที่คนร้ายยังคงเพ่งเล็ง หรือมุ่งลอบยิงขบวนรถไฟเส้นทาง 3 จว.ชายแดนภาคใต้ แม้เป็นเพียงการสร้างสถานการณ์เพื่อต้องการทำร้ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคนที่ปฎิบัติหน้าที่ก็ตาม แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีผลกระทบต่อสภาพจิตใจและความเชื่อมั่นของพนักงานขับรถและผู้โดยสาร
ดังนั้น การเรียกร้องให้นำหัวรถจักรหุ้มเกราะเข้าไปวิ่งให้บริการเส้นทางจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ครบทุกขบวน จึงเป็นความจำเป็นที่เร่งด่วนที่เชื่อว่าจะสามารถเพิ่มความมั่นใจให้กับพนักงานได้
**"ผบ.พตท."จัดระเบียบ รปภ.ใต้เข้ม
ด้าน พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผบ.พตท. เปิดเผยว่า เหตุการณ์คนร้ายลอบยิงขบวนรถไฟสายท้องถิ่นขบวน 463 เส้นทางพัทลุง-สุไหงโก-ลกว่า จากการตรวจสอบเชื่อว่า คนร้ายมีเป้าหมายในการทำร้ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ เนื่องจากมีการวางระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 10 กก.ไว้ใกล้รางรถไฟใกล้บริเวณเกิดเหตุด้วย อีกทั้งจุดที่คนร้ายดักซุ่มยิงนั้น เป็นพื้นที่ป่าสวนยางที่สามารถอำพรางตัว และหลบหนีได้ง่าย ดังนั้น หากนำมาประมวลเหตุการณ์ทำให้เชื่อได้ว่า เหตุการณ์ลอบยิงขบวนรถไฟ เป็นเพียงการสร้างสถานการณ์ เพื่อล่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และคนร้ายจะลงมือกดระเบิดซ้ำ แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบระเบิดและเก็บกู้ได้ทัน
**สั่งเพิ่มความเข้มดูแลเส้นทางรถไฟ
วันเดียวกัน ในเวลา 14.00 น. พ.อ.วชิระ บุญเอี่ยม หัวหน้าคณะทำงานรัฐวิสาหกิจ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้นำคณะตรวจการซ่อมบำรุงและติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเพิ่มเติมที่สถานีรถไฟมะรือโบ หมู่ 1 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานได้อย่างครอบคลุม
จากนั้นได้ประชุมร่วมกับนายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ภาคใต้ การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวิฑูรย์ จิ้วบุญชู นายสถานีรถไฟมะรือโบ และ พ.ต.ศักดิ์สม พรหมแพทย์ นายทหารฝ่ายยุทธการ หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 38 เพื่อวางมาตรการรักษาความปลอดภัยขบวนรถไฟและเส้นทางรถไฟในพื้นที่เสี่ยง ตั้งแต่สถานีรถไฟรือเสาะ อ.รือเสาะ ถึงสถานีรถไฟมะรือโบ ระยะทางยาว 14 กม. ซึ่งเมื่อวันที่ 15 พ.ย.ผู้ก่อเหตุใช้ปืนกราดยิงขบวนรถไฟ 463 พัทลุง-สุไหงโก-ลก บริเวณบ้านมะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ทำให้ ด.ต.ชำนาญ บริสุทธิ์ ผบ.หมู่สถานีรถไฟหาดใหญ่ จ.สงขลา บาดเจ็บ
ทั้งนี้ การประชุมสรุปแนวทางการรักษาความปลอดภัย 4 ประการ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 ที่เคยมอบให้กับเจ้าหน้าที่ คือ 1. จัดชุดรักษาความปลอดภัยแต่ละหมู่บ้านบูรณาการกับเจ้าหน้าที่กองกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพื่อลาดตระเวนเส้นทางรถไฟ 24 ชั่วโมง 2. ขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแลพื้นที่ 3. รณรงค์รักษาทรัพย์สินขนส่งมวลชนสาธารณะ และหากตรวจพบสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ส่วนพื้นที่ล่อแหลมบริเวณป่ารกทึบที่ไม่ใช่เนินดิน ต้องทำให้ดูโล่งตาทั้ง 2 ฝั่งเส้นทางรถไฟ
