ASTVผู้จัดการรายวัน- คนไทยผู้รักชาติทั่วประเทศ เตรียมหลั่งไหล เข้ากรุงเทพฯ ร่วมเวทีสนามหลวง แสดงพลังปกป้องสถาบันหลักของชาติ แกนนำพันธมิตรฯปรับรูปแบบชุมนุม 15 พ.ย.ไม่เคลื่อนขบวนไปลานพระบรมรูปทรงม้า เปิดทางให้กับการฝึกซ้อมพิธีสวนสนาม ขอปักหลักที่สนามหลวง จนสลายการชุมนุมก่อนเที่ยงคืน
ตามที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่า ที่มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ร่วมชุมนุมใหญ่เพื่อแสดงพลังปกป้องสถาบันหลักของชาติ ในวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ย. 52 เวลา 16.00 น. ที่ท้องสนามหลวง โดยมีกำหนดจะเคลื่อนขบวนไปประกาศเจตนารมณ์ที่ลานพระบรมรูปในช่วงกลางคืนนั้น ล่าสุดนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ เปิดเผยว่า ทางแกนนำพันธมิตรฯได้มีมติให้ปรับแผนการชุมนุมใหม่ โดยจะไม่เคลื่อนขบวนไปยังลานพระบรมรูปทรงม้า เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว มีการฝึกซ้อมพิธีสวนสนาม เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ดังนั้น การชุมนุมของพันธมิตรฯและประชาชนทุกหมู่เหล่าในวันที่ 15 พ.ย. จะปักหลักอยู่ที่ท้องสนามหลวงไปจนกว่าจะสลายการชุมนุมในเวลาประมาณ 23.00 น.
**คาดพันธมิตรฯ ใต้ร่วม 2 หมื่นคน
นายสุนทร รักษ์รงค์ ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 16 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยว่าขณะนี้เริ่มมีประชาชนทยอยเดินทางเข้าร่วมการชุมนุมใหญ่ร่วมกับพันธมิตรฯ ในวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ย.นี้ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวที่ทยอยเดินทางล่วงหน้าตั้งแต่วันนี้ เพื่อไปโรงพยาบาลศิริราช เข้าร่วมถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงหายจากอาการพระประชวรโดยเร็ว ก่อนจะเดินทางไปสมทบกันที่ท้องสนามหลวง
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เดินทางเข้าร่วมชุมนุมส่วนใหญ่จะเดินทางโดยขบวนรถไฟในวันเสาร์เป็นเส้นทางหลัก เบื้องต้นมีประชาชนแจ้งยอดที่จะเข้าร่วมการชุมนุมโดยสมัครใจประมาณจังหวัดละ 500 คน ซึ่งหากรวมทั้งเครือข่ายทั้ง16 จังหวัดภาคใต้ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกว่า 20,000 คน
"เรามั่นใจว่า จำนวนผู้ชุมนุมครั้งนี้จะมีจำนวนมาก เนื่องจากพบว่ามีประชาชนส่วนหนึ่งที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้แบ่งสี แบ่งฝ่าย แสดงจุดยืนขอเข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้เพื่อแสดงความจงรักภักดีสถาบันพระมหากษัตริย์ เนื่องจากทนไม่ได้กับพฤติกรรม และการกระทำของ ทักษิณ ชินวัตร จึงต้องการแสดงให้เห็นพลังบริสุทธิ์ของประชาชนชาวไทย ที่รักและเทิดทูนสถาบันฯ " นายสุนทรกล่าว
**พธม.9 จว.เหนือตอนล่างสมทบ
น.ส.จีรนันท์ อินทสุรวงศ์ (เจ๊นันท์) แกนนำพันธมิตรฯนครสวรรค์ ในฐานะแกนหลักผู้ประสานงานในภาคเหนือตอนล่าง เปิดเผยว่าบรรดาแกนนำพันธมิตรใน 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง เตรียมตัวเข้ากรุงเทพฯในวันที่ 15 พ.ย.นี้อย่างเต็มที่ เป็นการระดมพลร่วมสนับสนุนการนัดรวมตัวชุมนุมใหญ่ของพันธมิตรฯ ทั่วประเทศ เพื่อแสดงพลังรัก และปกป้องเกียรติภูมิของชาติ และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
ด้านนายผ้าง พลชัย แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ แม่สาย จ.เชียงราย กล่าวว่า ในวันที่ 15 พ.ย. ทางกลุ่มของตนจะมีการระดมทุนและจำนวนคนไปสมทบอย่างแน่นอน โดยทุกคนจะเดินทางไปกันเอง
**พันธมิตรฯ พัทยาเพิ่มจุดรับ-ส่ง
นางธีระวรรณ ปลื้มจิตต์ สมาชิกกลุ่มพันธมิตรฯ พัทยา-นาเกลือ กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับการประสานงานร่วมจากกลุ่มชาวนาเกลือในการเดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่ เพื่อแสดงพลังรักชาติในวันที่ 15 พ.ย.นี้ โดยกำหนดเพิ่มจุดรับ-ส่งผู้ที่จะเดินทางไปร่วมกิจกรรมเพิ่มเติมจากเดิมบริเวณหน้ามูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานนาเกลือ
ทั้งนี้ มีการนัดหมายการเดินทางด้วยรถตู้บริเวณหน้าวัดชัยมงคล พัทยาใต้ โดยจะออกเดินทางในเวลา 11.00 น. เพื่อไปสมทบในการร่วมแสดงพลังรักชาติให้เป็นที่รับรู้ต่อนานาประเทศอย่างกว้างขวางด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังได้รับทราบข้อมูลด้วยว่ามีการนัดหมายกันเดินทางไปร่วมกิจกรรมเดียวกันนี้ ที่บริเวณหน้าหน้าสรรพสินค้าไมค์ช็อปปิ้งมอลล์ อีกด้วย
**พธม.โคราชจี้ปิดพรมแดนไทย-เขมร
วานนี้ (13 พ.ย.) กลุ่มพันธมิตรโคราช นำโดย นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และนายแพทย์ศุภผล เอี่ยมเมธาวี และสมาชิกพันธมิตรนครราชสีมากว่า 100 คน ได้รวมตัวกันแสดงเจตนารมณ์ในความรักชาติ รักในหลวง และให้กำลังใจกับทหารที่เป็นรั้วของชาติ และรวมพลังในการต่อต้านสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ร่วมมือกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นคนไทยขายชาติทำลายประเทศและสถาบันต่างๆ
โดยกลุ่มพันธมิตรฯ นำหุ่นฟางที่ติดใบหน้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ สมเด็จฮุนเซน และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ พร้อมทั้งป้ายข้อความที่เขียนประณามต่างๆ เดินแห่ประณามไปรอบเมือ งจากนั้นกลุ่มพันธมิตรโคราชได้เผาหุ่นฟาง พ.ต.ท.ทักษิณ สมเด็จฮุนเซน,และ พล.อ.ชวลิต
ต่อมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินเท้าไปยังบริเวณหน้าทางเข้าค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 เพื่อยื่นหนังสือแสดงเจตนารมณ์ให้กองทัพภาคที่ 2 ปกป้องสถาบันและประเทศชาติด้วยการปิดพรมแดนไทย-กัมพูชาด้านติดกับภาคอีสานเพื่อประท้วงสมเด็จฮุนเซน นายกฯกัมพูชาที่ออกมาท้ารัฐบาลไทย โดย พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ส่งตัวแทนมารับหนังสือ จากนั้นกลุ่มพันธมิตรฯ สลายตัวไป
**ไม่สกัดกั้นหากชุมนุมโดยสงบ
นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ไม่ว่าเสื้อเหลือง เสื้อแดง หากชุมนุมอยู่ในกรอบ ไม่เกิดความวุ่นวาย ก็จะไม่มีผลกระทบต่อประชาชน แต่ถ้าหากทำนอกกรอบกฎหมาย มีผลกระทบ ทางรัฐบาลก็ต้องเตือน
เมื่อถามว่าในส่วนของกระทรวงมหาดไทยได้กำชับในแต่ละจังหวัดเรื่องการชุมนุมอย่างไร เพราะเบื้องต้นมีกระแสข่าวว่าจะมีการระดมคนมาร่วมชุมนุมด้วย นายถาวร กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษของกระทรวงมหาดไทย (ศปก.) คอยทำหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว ซึ่งจะไม่ทำให้ประชาชนต้องกระทบกระเทือนต่อสิทธิเสรีภาพ การเดินทางไปไหนหรือการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด หากไม่ผิดกฎหมาย เราก็จะไม่สกัดกั้น
**"ลิ่วล้อบรรหาร"มือไม่พายเอาตีนราน้ำ
นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า การที่กลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศท่าทีในการชุมนุมว่า จะต่อต้านอดีตนายกฯ และสมเด็จฮุนเซน รวมทั้งจะประกาศศักดิ์ศรีเกียรติภูมิของประเทศไทย และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น เราเห็นว่า สถาบันฯขอประเทศเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด ไม่อยากให้ใครแตะต้อง ขอให้ระมัดระวังในเนื้อหาในการชุมนุม จะต้องไม่นำสถาบันฯ ลงมาแปดเปื้อนทางการเมือง ไม่ว่าจะรูปแบบใด
"รัฐบาลก็จะต้องระมัดระวังท่าที เพราะขณะนี้เสียงของฝ่ายค้านก็ระบุว่ารัฐบาลได้ระดมคนมาร่วมชุมนุมด้วย ดังนั้นจึงขอเรียกร้องแกนนำพันธมิตรฯซึ่งสวมบทบาททั้ง 2 บทบาท คือผู้นำภาคประชาชน และแกนนำของพรรคการเมืองใหม่ ต้องไม่นำเรื่องดังกล่าวมาตีกินทางการเมือง จนนำไปสู่ความขัดแย้งของทั้ง 2 ประเทศ" โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนากล่าว
**นครบาลเชื่อพันธมิตรชุมนุมสงบ
พ.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบก.อก.บช.น. ในฐานะผู้ช่วยโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะมีการชุมนุมที่ท้องสนามหลวงในวันที่ 15 พ.ย.นี้ ว่า พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ บช.น. มีหน้าที่หลักในการดูแลความสงบเรียบร้อยให้เป็นไปอย่างสงบ และรักษาการไม่ให้มีบุคคลที่ 3 เข้ามาก่อความวุ่นวายได้ รวมถึงการจัดการจราจรให้กระทบกับประชาชนทั่วไปให้น้อยที่สุด โดยในส่วนของการดูแลความปลอดภัยจากการข่าวใช้กำลังของ บช.น.เป็นหลัก เนื่องจากทางแกนนำประกาศว่าจะมีการชุมนุมอย่างสงบและไม่เคลื่อนย้ายไปจุดอื่นเกินกว่าที่ประกาศไว้ จากสนามหลวง มาถนนราชดำเนิน และมาที่ลานพระบรมรูปทรงม้า
พ.ต.อ.ปิยะ กล่าวต่อว่า ทาง บช.น. ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า (ศปก.น.) ไว้ 2 จุดใหญ่ ๆ จุดแรกคือ ท้องสนามหลวง จะมีกำลัง 1 กองร้อย (150 นาย) จากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) จุดที่สองคือ ศปก.น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีกำลัง 1 กองร้อย จาก กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 (บก.น.6) โดยยังมีศปก.น.ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า 1 กองร้อยจากกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (บก.อคฝ.) โดยจะมีกำลังทั้งหมด 3 กองร้อย และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร 1 กองร้อย และสนธิกำลังจากกองบังคับการสืบสวน และกองกำกับการสืบสวน บก.น.1-9 รวมอีก 150 นาย จัดเตรียมพนักงานสอบสวนเพื่อจัดบันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวอีก 100 นาย เจ้าหน้าที่บริหารเหตุการณ์ 50 นาย รวมทั้งหมดจากการข่าวในวันนี้มีตำรวจดูแลทั้งหมด 900 นาย
พ.ต.อ.ปิยะ กล่าวอีกว่า สำหรับการข่าวในเบื้องต้นผู้ชุมนุมไม่น่าจะเกิน 10,000 คน โดยทางกทม. ทั้งสำนักเทศกิจ และสำนักบรรเทาสาธารณภัย มาร่วมด้วย ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารนั้น ยังไม่มีการใช้เพียงแต่ร้องขอเอาไว้ หากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินก็จะประสานได้ ซึ่งถือเป็นภารกิจหลักของ บช.น.ในการดูแล และการชุมนุมไม่น่ายืดเยื้อ เพราะแกนนำบอกว่าเป็นการชุมนุมเพื่อแสดงพลังและจะจบลงในวันนั้น แต่อย่างไรก็ตามบริเวณลานพระรูปทรงม้า จะมีการซ้อมสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ คาดว่าเสร็จสิ้นในเวลา 19.00 น. ตำรวจจะทำงานโดยใช้การข่าวเป็นระยะทาง รรท.ผบ.ตร. มีนโยบายอยู่แล้วว่า ให้ชุมนุมอย่างสงบไม่รบกวนผู้อื่น แผนที่ใช้หลักคือกรกฎ 52 ส่วนรายละเอียดจะมีการออกแผนรองรับในการดูแลสนามหลวง และลานพระบรมรูปทรงม้า ของ บช.น.ต่อไป
พ.ต.อ.ปิยะ กล่าวด้วยว่า สำหรับการจัดการจราจรนั้น พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.จร. ทำหน้าที่ดูแล โดยจะให้อยู่ภายในจุดที่ชุมนุม แต่หากมีการรวมตัวกันจากสนามหลวง มาถนนราชดำเนินใน ผ่านสะพานผ่านภิภพ มาถนนราชดำเนินกลาง ราชดำเนินนอก ถึงลานพระบรมรูปทรงม้า ก็จะประชาสัมพันธ์แจ้งให้ทราบ เบื้องต้นยังไม่มีการปิดการจราจร แต่ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารเป็นระยะ หากเป็นไปได้ ช่วงเวลา 18.00 น. ขอให้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น โดยการชุมนุมเป็นสิทธิ์พื้นฐานไม่ว่าเป็นสีไหนตำรวจมีมาตรฐานอยู่แล้ว เน้นในเรื่องความสงบเรียบร้อย การจัดการจราจร ให้เกิดคงวามสงบ เชื่อว่าไม่ว่ากลุ่มใดหากปฏิบัติตามกฎหมายจะผ่านไปด้วยดี ส่วนการข่าวไม่มีสิ่งบอกเหตุใด ๆ โดยให้ฝ่ายสืบสวน 150 นายดูแลพื้นที่อยู่แล้ว ส่วนเรื่องบ้านพักบุคคลสำคัญยังดำเนินการไปตามปกติ
"ขั้นตอนใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ต้องใช้เกินกว่าสถานการณ์ปกติจะควบคุมได้ ปัจจุบันตำรวจดูแลได้อยู่ ไม่ถึงขั้นนั้น และตำรวจมีเพียง 1 มาตรฐานเท่านั้น การชุมนุมของทุกกลุ่มไม่ว่าเหลือง แดง หรือที่คลองเตย ไม่มีอะไรผิดปกติ การชุมนุมเป็นสิทธิทำได้ แต่ต้องชุมนุมโดยสงบ ซึ่งตำรวจจะประชุมหารือเป็นระยะ" พ.ต.อ.ปิยะกล่าว
ตามที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่า ที่มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ร่วมชุมนุมใหญ่เพื่อแสดงพลังปกป้องสถาบันหลักของชาติ ในวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ย. 52 เวลา 16.00 น. ที่ท้องสนามหลวง โดยมีกำหนดจะเคลื่อนขบวนไปประกาศเจตนารมณ์ที่ลานพระบรมรูปในช่วงกลางคืนนั้น ล่าสุดนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ เปิดเผยว่า ทางแกนนำพันธมิตรฯได้มีมติให้ปรับแผนการชุมนุมใหม่ โดยจะไม่เคลื่อนขบวนไปยังลานพระบรมรูปทรงม้า เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว มีการฝึกซ้อมพิธีสวนสนาม เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ดังนั้น การชุมนุมของพันธมิตรฯและประชาชนทุกหมู่เหล่าในวันที่ 15 พ.ย. จะปักหลักอยู่ที่ท้องสนามหลวงไปจนกว่าจะสลายการชุมนุมในเวลาประมาณ 23.00 น.
**คาดพันธมิตรฯ ใต้ร่วม 2 หมื่นคน
นายสุนทร รักษ์รงค์ ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 16 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยว่าขณะนี้เริ่มมีประชาชนทยอยเดินทางเข้าร่วมการชุมนุมใหญ่ร่วมกับพันธมิตรฯ ในวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ย.นี้ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวที่ทยอยเดินทางล่วงหน้าตั้งแต่วันนี้ เพื่อไปโรงพยาบาลศิริราช เข้าร่วมถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงหายจากอาการพระประชวรโดยเร็ว ก่อนจะเดินทางไปสมทบกันที่ท้องสนามหลวง
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เดินทางเข้าร่วมชุมนุมส่วนใหญ่จะเดินทางโดยขบวนรถไฟในวันเสาร์เป็นเส้นทางหลัก เบื้องต้นมีประชาชนแจ้งยอดที่จะเข้าร่วมการชุมนุมโดยสมัครใจประมาณจังหวัดละ 500 คน ซึ่งหากรวมทั้งเครือข่ายทั้ง16 จังหวัดภาคใต้ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกว่า 20,000 คน
"เรามั่นใจว่า จำนวนผู้ชุมนุมครั้งนี้จะมีจำนวนมาก เนื่องจากพบว่ามีประชาชนส่วนหนึ่งที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้แบ่งสี แบ่งฝ่าย แสดงจุดยืนขอเข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้เพื่อแสดงความจงรักภักดีสถาบันพระมหากษัตริย์ เนื่องจากทนไม่ได้กับพฤติกรรม และการกระทำของ ทักษิณ ชินวัตร จึงต้องการแสดงให้เห็นพลังบริสุทธิ์ของประชาชนชาวไทย ที่รักและเทิดทูนสถาบันฯ " นายสุนทรกล่าว
**พธม.9 จว.เหนือตอนล่างสมทบ
น.ส.จีรนันท์ อินทสุรวงศ์ (เจ๊นันท์) แกนนำพันธมิตรฯนครสวรรค์ ในฐานะแกนหลักผู้ประสานงานในภาคเหนือตอนล่าง เปิดเผยว่าบรรดาแกนนำพันธมิตรใน 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง เตรียมตัวเข้ากรุงเทพฯในวันที่ 15 พ.ย.นี้อย่างเต็มที่ เป็นการระดมพลร่วมสนับสนุนการนัดรวมตัวชุมนุมใหญ่ของพันธมิตรฯ ทั่วประเทศ เพื่อแสดงพลังรัก และปกป้องเกียรติภูมิของชาติ และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
ด้านนายผ้าง พลชัย แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ แม่สาย จ.เชียงราย กล่าวว่า ในวันที่ 15 พ.ย. ทางกลุ่มของตนจะมีการระดมทุนและจำนวนคนไปสมทบอย่างแน่นอน โดยทุกคนจะเดินทางไปกันเอง
**พันธมิตรฯ พัทยาเพิ่มจุดรับ-ส่ง
นางธีระวรรณ ปลื้มจิตต์ สมาชิกกลุ่มพันธมิตรฯ พัทยา-นาเกลือ กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับการประสานงานร่วมจากกลุ่มชาวนาเกลือในการเดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่ เพื่อแสดงพลังรักชาติในวันที่ 15 พ.ย.นี้ โดยกำหนดเพิ่มจุดรับ-ส่งผู้ที่จะเดินทางไปร่วมกิจกรรมเพิ่มเติมจากเดิมบริเวณหน้ามูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานนาเกลือ
ทั้งนี้ มีการนัดหมายการเดินทางด้วยรถตู้บริเวณหน้าวัดชัยมงคล พัทยาใต้ โดยจะออกเดินทางในเวลา 11.00 น. เพื่อไปสมทบในการร่วมแสดงพลังรักชาติให้เป็นที่รับรู้ต่อนานาประเทศอย่างกว้างขวางด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังได้รับทราบข้อมูลด้วยว่ามีการนัดหมายกันเดินทางไปร่วมกิจกรรมเดียวกันนี้ ที่บริเวณหน้าหน้าสรรพสินค้าไมค์ช็อปปิ้งมอลล์ อีกด้วย
**พธม.โคราชจี้ปิดพรมแดนไทย-เขมร
วานนี้ (13 พ.ย.) กลุ่มพันธมิตรโคราช นำโดย นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และนายแพทย์ศุภผล เอี่ยมเมธาวี และสมาชิกพันธมิตรนครราชสีมากว่า 100 คน ได้รวมตัวกันแสดงเจตนารมณ์ในความรักชาติ รักในหลวง และให้กำลังใจกับทหารที่เป็นรั้วของชาติ และรวมพลังในการต่อต้านสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ร่วมมือกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นคนไทยขายชาติทำลายประเทศและสถาบันต่างๆ
โดยกลุ่มพันธมิตรฯ นำหุ่นฟางที่ติดใบหน้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ สมเด็จฮุนเซน และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ พร้อมทั้งป้ายข้อความที่เขียนประณามต่างๆ เดินแห่ประณามไปรอบเมือ งจากนั้นกลุ่มพันธมิตรโคราชได้เผาหุ่นฟาง พ.ต.ท.ทักษิณ สมเด็จฮุนเซน,และ พล.อ.ชวลิต
ต่อมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินเท้าไปยังบริเวณหน้าทางเข้าค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 เพื่อยื่นหนังสือแสดงเจตนารมณ์ให้กองทัพภาคที่ 2 ปกป้องสถาบันและประเทศชาติด้วยการปิดพรมแดนไทย-กัมพูชาด้านติดกับภาคอีสานเพื่อประท้วงสมเด็จฮุนเซน นายกฯกัมพูชาที่ออกมาท้ารัฐบาลไทย โดย พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ส่งตัวแทนมารับหนังสือ จากนั้นกลุ่มพันธมิตรฯ สลายตัวไป
**ไม่สกัดกั้นหากชุมนุมโดยสงบ
นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ไม่ว่าเสื้อเหลือง เสื้อแดง หากชุมนุมอยู่ในกรอบ ไม่เกิดความวุ่นวาย ก็จะไม่มีผลกระทบต่อประชาชน แต่ถ้าหากทำนอกกรอบกฎหมาย มีผลกระทบ ทางรัฐบาลก็ต้องเตือน
เมื่อถามว่าในส่วนของกระทรวงมหาดไทยได้กำชับในแต่ละจังหวัดเรื่องการชุมนุมอย่างไร เพราะเบื้องต้นมีกระแสข่าวว่าจะมีการระดมคนมาร่วมชุมนุมด้วย นายถาวร กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษของกระทรวงมหาดไทย (ศปก.) คอยทำหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว ซึ่งจะไม่ทำให้ประชาชนต้องกระทบกระเทือนต่อสิทธิเสรีภาพ การเดินทางไปไหนหรือการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด หากไม่ผิดกฎหมาย เราก็จะไม่สกัดกั้น
**"ลิ่วล้อบรรหาร"มือไม่พายเอาตีนราน้ำ
นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า การที่กลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศท่าทีในการชุมนุมว่า จะต่อต้านอดีตนายกฯ และสมเด็จฮุนเซน รวมทั้งจะประกาศศักดิ์ศรีเกียรติภูมิของประเทศไทย และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น เราเห็นว่า สถาบันฯขอประเทศเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด ไม่อยากให้ใครแตะต้อง ขอให้ระมัดระวังในเนื้อหาในการชุมนุม จะต้องไม่นำสถาบันฯ ลงมาแปดเปื้อนทางการเมือง ไม่ว่าจะรูปแบบใด
"รัฐบาลก็จะต้องระมัดระวังท่าที เพราะขณะนี้เสียงของฝ่ายค้านก็ระบุว่ารัฐบาลได้ระดมคนมาร่วมชุมนุมด้วย ดังนั้นจึงขอเรียกร้องแกนนำพันธมิตรฯซึ่งสวมบทบาททั้ง 2 บทบาท คือผู้นำภาคประชาชน และแกนนำของพรรคการเมืองใหม่ ต้องไม่นำเรื่องดังกล่าวมาตีกินทางการเมือง จนนำไปสู่ความขัดแย้งของทั้ง 2 ประเทศ" โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนากล่าว
**นครบาลเชื่อพันธมิตรชุมนุมสงบ
พ.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบก.อก.บช.น. ในฐานะผู้ช่วยโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะมีการชุมนุมที่ท้องสนามหลวงในวันที่ 15 พ.ย.นี้ ว่า พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ บช.น. มีหน้าที่หลักในการดูแลความสงบเรียบร้อยให้เป็นไปอย่างสงบ และรักษาการไม่ให้มีบุคคลที่ 3 เข้ามาก่อความวุ่นวายได้ รวมถึงการจัดการจราจรให้กระทบกับประชาชนทั่วไปให้น้อยที่สุด โดยในส่วนของการดูแลความปลอดภัยจากการข่าวใช้กำลังของ บช.น.เป็นหลัก เนื่องจากทางแกนนำประกาศว่าจะมีการชุมนุมอย่างสงบและไม่เคลื่อนย้ายไปจุดอื่นเกินกว่าที่ประกาศไว้ จากสนามหลวง มาถนนราชดำเนิน และมาที่ลานพระบรมรูปทรงม้า
พ.ต.อ.ปิยะ กล่าวต่อว่า ทาง บช.น. ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า (ศปก.น.) ไว้ 2 จุดใหญ่ ๆ จุดแรกคือ ท้องสนามหลวง จะมีกำลัง 1 กองร้อย (150 นาย) จากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) จุดที่สองคือ ศปก.น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีกำลัง 1 กองร้อย จาก กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 (บก.น.6) โดยยังมีศปก.น.ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า 1 กองร้อยจากกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (บก.อคฝ.) โดยจะมีกำลังทั้งหมด 3 กองร้อย และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร 1 กองร้อย และสนธิกำลังจากกองบังคับการสืบสวน และกองกำกับการสืบสวน บก.น.1-9 รวมอีก 150 นาย จัดเตรียมพนักงานสอบสวนเพื่อจัดบันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวอีก 100 นาย เจ้าหน้าที่บริหารเหตุการณ์ 50 นาย รวมทั้งหมดจากการข่าวในวันนี้มีตำรวจดูแลทั้งหมด 900 นาย
พ.ต.อ.ปิยะ กล่าวอีกว่า สำหรับการข่าวในเบื้องต้นผู้ชุมนุมไม่น่าจะเกิน 10,000 คน โดยทางกทม. ทั้งสำนักเทศกิจ และสำนักบรรเทาสาธารณภัย มาร่วมด้วย ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารนั้น ยังไม่มีการใช้เพียงแต่ร้องขอเอาไว้ หากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินก็จะประสานได้ ซึ่งถือเป็นภารกิจหลักของ บช.น.ในการดูแล และการชุมนุมไม่น่ายืดเยื้อ เพราะแกนนำบอกว่าเป็นการชุมนุมเพื่อแสดงพลังและจะจบลงในวันนั้น แต่อย่างไรก็ตามบริเวณลานพระรูปทรงม้า จะมีการซ้อมสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ คาดว่าเสร็จสิ้นในเวลา 19.00 น. ตำรวจจะทำงานโดยใช้การข่าวเป็นระยะทาง รรท.ผบ.ตร. มีนโยบายอยู่แล้วว่า ให้ชุมนุมอย่างสงบไม่รบกวนผู้อื่น แผนที่ใช้หลักคือกรกฎ 52 ส่วนรายละเอียดจะมีการออกแผนรองรับในการดูแลสนามหลวง และลานพระบรมรูปทรงม้า ของ บช.น.ต่อไป
พ.ต.อ.ปิยะ กล่าวด้วยว่า สำหรับการจัดการจราจรนั้น พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.จร. ทำหน้าที่ดูแล โดยจะให้อยู่ภายในจุดที่ชุมนุม แต่หากมีการรวมตัวกันจากสนามหลวง มาถนนราชดำเนินใน ผ่านสะพานผ่านภิภพ มาถนนราชดำเนินกลาง ราชดำเนินนอก ถึงลานพระบรมรูปทรงม้า ก็จะประชาสัมพันธ์แจ้งให้ทราบ เบื้องต้นยังไม่มีการปิดการจราจร แต่ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารเป็นระยะ หากเป็นไปได้ ช่วงเวลา 18.00 น. ขอให้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น โดยการชุมนุมเป็นสิทธิ์พื้นฐานไม่ว่าเป็นสีไหนตำรวจมีมาตรฐานอยู่แล้ว เน้นในเรื่องความสงบเรียบร้อย การจัดการจราจร ให้เกิดคงวามสงบ เชื่อว่าไม่ว่ากลุ่มใดหากปฏิบัติตามกฎหมายจะผ่านไปด้วยดี ส่วนการข่าวไม่มีสิ่งบอกเหตุใด ๆ โดยให้ฝ่ายสืบสวน 150 นายดูแลพื้นที่อยู่แล้ว ส่วนเรื่องบ้านพักบุคคลสำคัญยังดำเนินการไปตามปกติ
"ขั้นตอนใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ต้องใช้เกินกว่าสถานการณ์ปกติจะควบคุมได้ ปัจจุบันตำรวจดูแลได้อยู่ ไม่ถึงขั้นนั้น และตำรวจมีเพียง 1 มาตรฐานเท่านั้น การชุมนุมของทุกกลุ่มไม่ว่าเหลือง แดง หรือที่คลองเตย ไม่มีอะไรผิดปกติ การชุมนุมเป็นสิทธิทำได้ แต่ต้องชุมนุมโดยสงบ ซึ่งตำรวจจะประชุมหารือเป็นระยะ" พ.ต.อ.ปิยะกล่าว
