เดลิเมล์ – เด็กๆ เจอช็อกซีเนมา เมื่อวันหนึ่งไปถึงโรงเรียนและพบครูถูกบุกทำร้าย แต่พ่อแม่ช็อกหนักกว่า เมื่อมารู้ทีหลังว่า ‘เหตุร้าย’ ดังกล่าวเป็นแค่การจัดฉากของโรงเรียนตามแผนการสร้างสมประสบการณ์การแก้ปัญหาให้แก่นักเรียน
เด็กที่บางคนอายุแค่ 5 ขวบ มาถึงโรงเรียนประถมฟ็อกซ์ฮิลล์ในเมืองเชฟฟิลด์ อังกฤษ และพบฉากสยองจากรอยเลือดและแนวเทปที่ตำรวจล้อมปิดที่เกิดเหตุ รวมถึงครูผู้หญิงคนหนึ่งที่มีผ้าพันแผลที่ศีรษะ
พนักงานสืบสวนมาถึงและสอบถามนักเรียนบางคนเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม
นักเรียนมากมายจากทั้งหมด 300 คนยังคงจับต้นชนปลายไม่ถูกกระทั่งได้รับจดหมายอธิบายเมื่อปลายสัปดาห์
ครูใหญ่นิโคลา ชิปแมน อ้างว่าที่ไม่ได้บอกกล่าวให้ผู้ปกครองรู้ก่อนเพราะกลัวเหตุการณ์จะไม่สมจริง ขณะที่พ่อแม่เด็กมองมุมกลับว่าลูกๆ ของตัวเองต้องอกสั่นขวัญแขนโดยใช่เหตุ
การสร้างสถานการณ์นี้คล้ายกับเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา ที่นักเรียนโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในเวสต์ซัสเส็กซ์ ร้องไห้กันระงมหลังรู้ข่าวว่ามียานอวกาศลงจอดที่โรงเรียนและมนุษย์ต่างดาวลงมาจับตัวครูคนหนึ่งไป
เอมมา ไวท์เฮด วัย 28 ปี คุณแม่ลูกสาม บอกว่าเรื่องนี้เป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบ และผู้ปกครองจำวนมากไม่พอใจอย่างยิ่ง
“เด็กๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น บางคนยังเล็กมาก แล้วพอมาถึงโรงเรียนก็เห็นคราบเลือดและแนวเทปกั้นของตำรวจ ฉันคุยกับผู้ปกครองหลายคน พวกเขาไม่พอใจมาก เด็กๆ ตกใจที่เห็นเลือดและได้รับรู้เรื่องราวที่โรงเรียนบอกเล่า
“ฉันไม่เห็นว่าเด็กจะได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้เลย อาจพอเข้าใจได้ถ้าเป็นโรงเรียนมัธยม แต่นี่มีแต่เด็กเล็กๆ ที่อายุน้อยเกินกว่าจะเข้าใจจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น
“อันที่จริงโรงเรียนควรปรึกษาผู้ปกครองก่อน ให้เราได้มีโอกาสปฏิเสธถ้าเราต้องการ
“ฉันรู้ว่าผู้ปกครองหลายคนไม่ยอมแน่ จริงๆ แล้วฉันเห็นครูคนนั้นยังติดพลาสเตอร์ที่หัวอีกสองวันหลังเกิดเหตุด้วยซ้ำ”
โจนาธาน วิศวกรวัย 32 ปีซึ่งเป็นสามีของเอมมา สำทับว่า “โรงเรียนยังเสแสร้งมาอีกสี่วัน ซึ่งระหว่างช่วงเวลานั้นเด็กเชื่อว่าครูบาดเจ็บและมีคนร้ายบุกโรงเรียนจริง”
เพื่อให้สมจริงยิ่งขึ้น เจ้าหน้าที่นิติเวชของสำนักงานตำรวจเซาท์ยอร์กเชียร์เดินทางมาที่โรงเรียนเพื่อเก็บลายนิ้วมือเด็กบางคน ขณะที่ตำรวจพูดคุยกับเด็กๆ ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว
“แทนที่โรงเรียนจะบอกว่าเป็นเรื่องจริง ก็เพียงขอให้เด็กจินตนาการเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ได้เชียวหรือ? ลูกชายผมคนหนึ่งเป็นออทิสติก และจนวันนี้เรายังต้องพยายามทำให้แกเชื่อว่านั่นเป็นแค่เหตุการณ์สมมติเท่านั้น แกกลัวมากและไม่อยากไปโรงเรียนอีก” โจนาธานเล่าต่อ
แต่ทางครูใหญ่กลับบอกว่า การแก้ปัญหาครอบคลุมทักษะสำคัญหลายอย่างทั้งด้านวิทยาศาสตร์ ตัวเลขและการวิเคราะห์
“ปฏิกิริยาของเด็กๆ ตลอดทั้งสัปดาห์นั้นดีมาก เด็กๆ สนุกกันโดยเฉพาะเมื่อเราขอให้พวกเขาทำตัวเป็นเชอร์ล็อกโฮล์มส์น้อย”
ชิปแมนยังบอกอีกว่าสัปดาห์แห่งการแก้ปัญหาจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมทักษะต่างๆ ในหลักสูตรของโรงเรียน ตั้งแต่การเขียนอย่างสร้างสรรค์ไปจนถึงวิทยาศาสตร์ การคำนวณ และการวิเคราะห์
“เราอยากแจกโจทย์ที่กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการของนักเรียน นี่คือเหตุผลที่เราเลือกสถานการณ์อาชญากรรม
“เราคิดเหมือนกันว่าจะแจ้งให้ผู้ปกครองทราบล่วงหน้า แต่ก็คิดว่าอาจกระทบต่อการมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ของเด็ก สุดท้ายเราจึงตัดสินใจเดินหน้าโดยปิดเป็นความลับ”
เด็กที่บางคนอายุแค่ 5 ขวบ มาถึงโรงเรียนประถมฟ็อกซ์ฮิลล์ในเมืองเชฟฟิลด์ อังกฤษ และพบฉากสยองจากรอยเลือดและแนวเทปที่ตำรวจล้อมปิดที่เกิดเหตุ รวมถึงครูผู้หญิงคนหนึ่งที่มีผ้าพันแผลที่ศีรษะ
พนักงานสืบสวนมาถึงและสอบถามนักเรียนบางคนเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม
นักเรียนมากมายจากทั้งหมด 300 คนยังคงจับต้นชนปลายไม่ถูกกระทั่งได้รับจดหมายอธิบายเมื่อปลายสัปดาห์
ครูใหญ่นิโคลา ชิปแมน อ้างว่าที่ไม่ได้บอกกล่าวให้ผู้ปกครองรู้ก่อนเพราะกลัวเหตุการณ์จะไม่สมจริง ขณะที่พ่อแม่เด็กมองมุมกลับว่าลูกๆ ของตัวเองต้องอกสั่นขวัญแขนโดยใช่เหตุ
การสร้างสถานการณ์นี้คล้ายกับเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา ที่นักเรียนโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในเวสต์ซัสเส็กซ์ ร้องไห้กันระงมหลังรู้ข่าวว่ามียานอวกาศลงจอดที่โรงเรียนและมนุษย์ต่างดาวลงมาจับตัวครูคนหนึ่งไป
เอมมา ไวท์เฮด วัย 28 ปี คุณแม่ลูกสาม บอกว่าเรื่องนี้เป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบ และผู้ปกครองจำวนมากไม่พอใจอย่างยิ่ง
“เด็กๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น บางคนยังเล็กมาก แล้วพอมาถึงโรงเรียนก็เห็นคราบเลือดและแนวเทปกั้นของตำรวจ ฉันคุยกับผู้ปกครองหลายคน พวกเขาไม่พอใจมาก เด็กๆ ตกใจที่เห็นเลือดและได้รับรู้เรื่องราวที่โรงเรียนบอกเล่า
“ฉันไม่เห็นว่าเด็กจะได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้เลย อาจพอเข้าใจได้ถ้าเป็นโรงเรียนมัธยม แต่นี่มีแต่เด็กเล็กๆ ที่อายุน้อยเกินกว่าจะเข้าใจจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น
“อันที่จริงโรงเรียนควรปรึกษาผู้ปกครองก่อน ให้เราได้มีโอกาสปฏิเสธถ้าเราต้องการ
“ฉันรู้ว่าผู้ปกครองหลายคนไม่ยอมแน่ จริงๆ แล้วฉันเห็นครูคนนั้นยังติดพลาสเตอร์ที่หัวอีกสองวันหลังเกิดเหตุด้วยซ้ำ”
โจนาธาน วิศวกรวัย 32 ปีซึ่งเป็นสามีของเอมมา สำทับว่า “โรงเรียนยังเสแสร้งมาอีกสี่วัน ซึ่งระหว่างช่วงเวลานั้นเด็กเชื่อว่าครูบาดเจ็บและมีคนร้ายบุกโรงเรียนจริง”
เพื่อให้สมจริงยิ่งขึ้น เจ้าหน้าที่นิติเวชของสำนักงานตำรวจเซาท์ยอร์กเชียร์เดินทางมาที่โรงเรียนเพื่อเก็บลายนิ้วมือเด็กบางคน ขณะที่ตำรวจพูดคุยกับเด็กๆ ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว
“แทนที่โรงเรียนจะบอกว่าเป็นเรื่องจริง ก็เพียงขอให้เด็กจินตนาการเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ได้เชียวหรือ? ลูกชายผมคนหนึ่งเป็นออทิสติก และจนวันนี้เรายังต้องพยายามทำให้แกเชื่อว่านั่นเป็นแค่เหตุการณ์สมมติเท่านั้น แกกลัวมากและไม่อยากไปโรงเรียนอีก” โจนาธานเล่าต่อ
แต่ทางครูใหญ่กลับบอกว่า การแก้ปัญหาครอบคลุมทักษะสำคัญหลายอย่างทั้งด้านวิทยาศาสตร์ ตัวเลขและการวิเคราะห์
“ปฏิกิริยาของเด็กๆ ตลอดทั้งสัปดาห์นั้นดีมาก เด็กๆ สนุกกันโดยเฉพาะเมื่อเราขอให้พวกเขาทำตัวเป็นเชอร์ล็อกโฮล์มส์น้อย”
ชิปแมนยังบอกอีกว่าสัปดาห์แห่งการแก้ปัญหาจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมทักษะต่างๆ ในหลักสูตรของโรงเรียน ตั้งแต่การเขียนอย่างสร้างสรรค์ไปจนถึงวิทยาศาสตร์ การคำนวณ และการวิเคราะห์
“เราอยากแจกโจทย์ที่กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการของนักเรียน นี่คือเหตุผลที่เราเลือกสถานการณ์อาชญากรรม
“เราคิดเหมือนกันว่าจะแจ้งให้ผู้ปกครองทราบล่วงหน้า แต่ก็คิดว่าอาจกระทบต่อการมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ของเด็ก สุดท้ายเราจึงตัดสินใจเดินหน้าโดยปิดเป็นความลับ”
