ASTVผู้จัดการรายวัน - ทิสโก้เมินทำไมโครไฟแนนซ์ หวั่นต้นทุน-หนี้เสียพุ่ง ยันเดินหน้าซื้อพอร์ตเช่าซื้ออีก 1-2 ราย ขนาดเล็ก 1-2 พันล้าน ส่วนแผนปีหน้ายังเน้นเช่าซื้อรถยนต์ หวังปีหน้าโตตามยอดขายรถยนต์
นายปลิว มังกรกนก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มทิสโก้ จำกัด (มหาชน) (TISCO)เปิดเผยว่า ธนาคารยังมีแผนที่จะซื้อพอร์สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อยู่ โดยขณะนี้ที่ได้ติดต่ออยู่ 1-2 ราย ขนาดของพอร์ตถือว่ายังเป็นขนาดเล็กคือประมาณ 1-2 พันล้านบาท แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นรายใด คงต้องรอให้การเจรจาเสร็จสิ้นก่อน โดยสินเชื่อเช่ารถยนต์ในปีหน้านั้น คาดว่าคงจะขยายตัวได้มากกว่าปีนี้ตามอัตราการขยายตัวของยอดขายรถยนต์
สำหรับแนวทางในการดำเนินธุรกิจของธนาคารต่อไปนั้น ยังคงยึดมั่นในแนวนโยบายเดิม คือมีการบริหารเสี่ยงที่ดี มีการบริหารค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม และมีการดำเนินธุรกิจในช่องที่เหมาะสม ซึ่งทั้ง 3 ส่วนที่ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพทำให้ธนาคารมีผลประกอบการขยายตัวเป็นอันดับหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ได้มีขนาดสินเชื่อที่ใหญ่ที่สุด
"ธนาคารยึดหลักการบริหารความเสี่ยงทำให้เกิดหนี้เสียน้อยที่สุด เพราะถ้าเกิดขึ้นรายหนึ่งแล้ว ธนาคารต้องปล่อยกู้ให้ได้อีก 20 รายจึงจะชดเชยกันได้ ด้านการบริหารต้นทุนก็เช่นกันถ้าค่าใช้จ่ายมากเกินไป ปล่อยกู้มากเท่าไหร่ก็รายได้ก็จะไม่พอกับค่าใช้จ่าย และด้านการขยายธุรกิจ ซึ่งต้องปล่อยกู้เพิ่มให้ได้ไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีเงินไปให้ดอกเบี้ยเงินฝาก แต่จะเน้นปล่อยกู้ในธุรกิจไหน เช่าซื้อ หรืออื่นๆ ก็ต้องพิจารณาตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่ว่าเหมาะสมที่จะเน้นไปทางใด"
ส่วนการดำเนินธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นนโยบายที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)อยากส่งเสริมให้ธนาคารพาณิชย์ดำเนินการนั้น นายปลิวกล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มลูกค้าไมโครไฟแนนซ์ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาของธนาคาร และหากธนาคารจะหันมาทำธุรกิจดังกล่าวก็คงต้องพิจารณาในรายละเอียดให้รอบคอบก่อน
นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล กรรมการอำนวยการ ธนาคารทิสโก้ กล่าวเสริมว่า การดำเนินธุรกิจไมโครไฟแนนซ์จะต้องมีการหารือในอีกหลายด้าน ที่สำคัญที่สุดคือด้านต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีรายละเอียดต้องใช้จำนวนพนักงานหรือเครือข่ายในการดำเนินการมาก จึงทำให้ต้องศึกษาในด้านของรายได้ให้สมดุลกับการค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น
"ปล่อยกู้ไมโครไฟแนนซ์จะมีขนาดที่เล็กกว่าขนาดย่อยอีก ซึ่งอาจจะต้องใช้พนักงานหรือเครือข่ายสาขาเพิ่มขึ้นอีกค่อนข้างมาก เนื่องจากเมื่อปล่อยกู้แล้วก็จะต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิดด้วย มิฉะนั้น ก็จะมีปัญหาในเรื่องของการหนี้เสีย ซึ่งหากทิสโก้จะทำก็จะต้องพิจารณาในรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน เนื่องจากแนวนโยบายการดำเนินธุรกิจของธนาคารจะเน้นที่การบริหารความเสี่ยงที่ดี และการดำเนินธุรกิจที่มีความถนัดและเหมาะกับสถานการณ์ด้วย"
นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล กรรมการอำนวยการ บริษัททิสโก้ไฟแนนเชียล กรุ๊ป กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ น่าจะเหมาะกับรูปแบบของสหกรณ์มากกว่า เนื่องจากจะมีความเข้าถึงชุมนุมมากกว่าธนาคารพาณิชย์ ทำให้ทั้งด้านการปล่อยกู้และการติดตามมีความคล่องตัวกว่า ซึ่งในแนวทางนี้ประสบความสำเร็จดีในประเทศอินเดีย และบังคลาเทศ
ในส่วนของธนาคารทิสโก้นั้น ในเร็วๆนี้ก็จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่โดยจะเป็นที่ปรึกษาจัดการการลงทุนให้กับผู้ที่เกษียณอายุแล้ว เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าธนาคารให้ครบทุกช่วงวัย
นายปลิวกล่าวในตอนท้ายอีกว่า นอกเหนือจากการดำเนินธุรกิจแล้ว ธนาคารทิสโก้ตระหนักดีว่า สิ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่าผลประกอบการและการเติบโตของบริษัท ก็คือความรับผิดชอบต่อสังคม โดยในโอกาสครบรอบ 40 ปีทิสโก้ในปีนี้ธนาคารดำเนินโครงการพิเศษ โดยการสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ "อาคารเรียน 40 ปีทิสโก้" ให้แก่ โรงเรียนบ้านกิ่วดงมะไฟ จังหวัดอุดรธานี เนื่องจากอาคารเรียนเดิมแบบ 2 ชั้นชำรุดทรุดโทรมมาก ขณะที่ทางโรงเรียนเองก็ขาดกำลังและงบประมาณสนับสนุน ธนาคารจึงร่วมกับพนักงานและลูกค้ารวบรวมเงินจำนวน 2.8 ล้านบาท เพื่อสร้างอาคารใหม่ รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆให้แก่โรงเรียนแห่งนี้ด้วย
นายปลิว มังกรกนก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มทิสโก้ จำกัด (มหาชน) (TISCO)เปิดเผยว่า ธนาคารยังมีแผนที่จะซื้อพอร์สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อยู่ โดยขณะนี้ที่ได้ติดต่ออยู่ 1-2 ราย ขนาดของพอร์ตถือว่ายังเป็นขนาดเล็กคือประมาณ 1-2 พันล้านบาท แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นรายใด คงต้องรอให้การเจรจาเสร็จสิ้นก่อน โดยสินเชื่อเช่ารถยนต์ในปีหน้านั้น คาดว่าคงจะขยายตัวได้มากกว่าปีนี้ตามอัตราการขยายตัวของยอดขายรถยนต์
สำหรับแนวทางในการดำเนินธุรกิจของธนาคารต่อไปนั้น ยังคงยึดมั่นในแนวนโยบายเดิม คือมีการบริหารเสี่ยงที่ดี มีการบริหารค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม และมีการดำเนินธุรกิจในช่องที่เหมาะสม ซึ่งทั้ง 3 ส่วนที่ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพทำให้ธนาคารมีผลประกอบการขยายตัวเป็นอันดับหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ได้มีขนาดสินเชื่อที่ใหญ่ที่สุด
"ธนาคารยึดหลักการบริหารความเสี่ยงทำให้เกิดหนี้เสียน้อยที่สุด เพราะถ้าเกิดขึ้นรายหนึ่งแล้ว ธนาคารต้องปล่อยกู้ให้ได้อีก 20 รายจึงจะชดเชยกันได้ ด้านการบริหารต้นทุนก็เช่นกันถ้าค่าใช้จ่ายมากเกินไป ปล่อยกู้มากเท่าไหร่ก็รายได้ก็จะไม่พอกับค่าใช้จ่าย และด้านการขยายธุรกิจ ซึ่งต้องปล่อยกู้เพิ่มให้ได้ไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีเงินไปให้ดอกเบี้ยเงินฝาก แต่จะเน้นปล่อยกู้ในธุรกิจไหน เช่าซื้อ หรืออื่นๆ ก็ต้องพิจารณาตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่ว่าเหมาะสมที่จะเน้นไปทางใด"
ส่วนการดำเนินธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นนโยบายที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)อยากส่งเสริมให้ธนาคารพาณิชย์ดำเนินการนั้น นายปลิวกล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มลูกค้าไมโครไฟแนนซ์ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาของธนาคาร และหากธนาคารจะหันมาทำธุรกิจดังกล่าวก็คงต้องพิจารณาในรายละเอียดให้รอบคอบก่อน
นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล กรรมการอำนวยการ ธนาคารทิสโก้ กล่าวเสริมว่า การดำเนินธุรกิจไมโครไฟแนนซ์จะต้องมีการหารือในอีกหลายด้าน ที่สำคัญที่สุดคือด้านต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีรายละเอียดต้องใช้จำนวนพนักงานหรือเครือข่ายในการดำเนินการมาก จึงทำให้ต้องศึกษาในด้านของรายได้ให้สมดุลกับการค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น
"ปล่อยกู้ไมโครไฟแนนซ์จะมีขนาดที่เล็กกว่าขนาดย่อยอีก ซึ่งอาจจะต้องใช้พนักงานหรือเครือข่ายสาขาเพิ่มขึ้นอีกค่อนข้างมาก เนื่องจากเมื่อปล่อยกู้แล้วก็จะต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิดด้วย มิฉะนั้น ก็จะมีปัญหาในเรื่องของการหนี้เสีย ซึ่งหากทิสโก้จะทำก็จะต้องพิจารณาในรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน เนื่องจากแนวนโยบายการดำเนินธุรกิจของธนาคารจะเน้นที่การบริหารความเสี่ยงที่ดี และการดำเนินธุรกิจที่มีความถนัดและเหมาะกับสถานการณ์ด้วย"
นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล กรรมการอำนวยการ บริษัททิสโก้ไฟแนนเชียล กรุ๊ป กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ น่าจะเหมาะกับรูปแบบของสหกรณ์มากกว่า เนื่องจากจะมีความเข้าถึงชุมนุมมากกว่าธนาคารพาณิชย์ ทำให้ทั้งด้านการปล่อยกู้และการติดตามมีความคล่องตัวกว่า ซึ่งในแนวทางนี้ประสบความสำเร็จดีในประเทศอินเดีย และบังคลาเทศ
ในส่วนของธนาคารทิสโก้นั้น ในเร็วๆนี้ก็จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่โดยจะเป็นที่ปรึกษาจัดการการลงทุนให้กับผู้ที่เกษียณอายุแล้ว เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าธนาคารให้ครบทุกช่วงวัย
นายปลิวกล่าวในตอนท้ายอีกว่า นอกเหนือจากการดำเนินธุรกิจแล้ว ธนาคารทิสโก้ตระหนักดีว่า สิ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่าผลประกอบการและการเติบโตของบริษัท ก็คือความรับผิดชอบต่อสังคม โดยในโอกาสครบรอบ 40 ปีทิสโก้ในปีนี้ธนาคารดำเนินโครงการพิเศษ โดยการสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ "อาคารเรียน 40 ปีทิสโก้" ให้แก่ โรงเรียนบ้านกิ่วดงมะไฟ จังหวัดอุดรธานี เนื่องจากอาคารเรียนเดิมแบบ 2 ชั้นชำรุดทรุดโทรมมาก ขณะที่ทางโรงเรียนเองก็ขาดกำลังและงบประมาณสนับสนุน ธนาคารจึงร่วมกับพนักงานและลูกค้ารวบรวมเงินจำนวน 2.8 ล้านบาท เพื่อสร้างอาคารใหม่ รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆให้แก่โรงเรียนแห่งนี้ด้วย